” ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน ” ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งโพสต์เรื่องราวของ เด็กนักเรียนชั้น ม.3 คนหนึ่งที่ถูกตัดสิทธิ์การศึกษาชั้น ม.4 ต่อ พร้อมตั้งคำถามกับสังคมว่านี่คือสิ่งที่ถูกต้องหรือไม่ โดยมีใจความว่า
เด็กนักเรียนชั้น ม.3 ของโรงเรียนดังใน จ.ภูเก็ต ถูกตัดโควตาการศึกษาต่อชั้น ม.4 สาเหตุเพราะ “ไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน” คือผมทราบมาว่านักเรียนคนดังกล่าวนั้นเป็นผู้จุดประกายข้อเรียกร้องใส่ชุด Private ในสถานศึกษา ซึ่งมันไม่น่าเกี่ยวกับสถาบันนะครับแบบนี้คือการใช้อำนาจโดยมิชอบหรือเปล่า
แล้วสมมุติว่า ต่อให้น้องเขามีประเด็นอื่นจริงๆที่ทางโรงเรียนอาจจะมองว่าไม่จงรักภักดีต่อสถาบัน งั้นผมขอถามหน่อยว่า การตัดอนาคตน้องเขาแบบนี้จะทำให้น้องเขากลับมาเคารพนับถือสถาบันไหมครับ? “ความรักความเคารพที่ได้มาโดยการบังคับ ย่อมเป็นเรื่องโกหกเสมอ”
และอีกอย่าง ถ้าคุณคิดว่าเยาวชนคืออนาคตของชาติจริงๆ การอ้างเรื่องไม่จงรักภักดีต่อสถาบันมาตัดอนาคตทางการศึกษาของเยาวชนแบบนี้ หรือเอามาเป็นข้ออ้างในการจำกัดกะเกณฑ์ต่างๆ ผมว่ามันไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของสถาบันหรอกนะครับ
ซึ่งหลายคนก็อดไม่ได้ที่จะตั้งคำถามกันว่ามันยุติธรรมต่อเด็กหรือไม่
การแต่งกายกับการรักชาติต่างกันนะคะ ชุดนร.ไม่เท่ากับชาติ เราว่าถ้าเป็นจริงแบบที่คุณเล่า แปลว่ารรกำลังรังแกเด็กเพราะกลัวว่าเค้าจะมาเรียกร้องหรือเปลี่ยนแปลงอะไรในรรซึ่งอาจจะกระทบกับตัวเขา ง่ายๆว่าเขากลัวการเปลี่ยนแปลง แม้จะเป็นแค่เรื่องชุดนร.
ถ้าชาติ = เสื้อนักเรียนกับไอ้ตู่ ก็ไม่แปลกใจเลยที่พวกสลิ่มลูกทาสด่าพวกเราเพียงเพราะพวกเราด่าไอ้ตู่กับโครงสร้างทางสังคมที่เน่าเฟะอ่ะ
องค์กรที่ต้องปฏิรูปด่วนที่สุดคือองค์กรนี้ล่ะ ถ้าปล่อยไปแบบนี้เรื่อยๆฝังหัวตั้งแต่ก้าวแรกแบบนี้ พังแน่ๆ ทั้งชาติ ทั้งอนาคตของชาติ#ปฏิรูปการศึกษา
ควรฟ้องผู้บริหารโรงเรียน ทำผิดรัฐธรรมนูญ ละเมิดสิทธิประชาชน โดยใช้ข้อกล่าวหาที่ไม่มีการระบุในรัฐธรรมนูญ