วิปรัฐบาล เตรียมถกป้องสภาล่ม ‘ชินวรณ์’ จวก ภูมิใจไทย ไม่เคารพความเห็นต่างปมกัญชา แซะ กม.กยศ. ปชป.ยังนิ่ง ฉะ กล่าวหาไม่มีมารยาท

เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2565 นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวกรณีการประชุมสภาฯ ล่ม เมื่อวันที่ 4 พ.ย. ที่ผ่านมา ว่า ในวันที่ 7 พ.ย. จะมีการประชุมวิปรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล คงจะมีการหยิบยกเรื่องการประชุมล่มมาพิจารณาหารือกันในพรรคร่วมรัฐบาลก่อน หลังจากนั้นจะต้องหารือกับวิปฝ่ายค้านด้วย เพราะเป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่จะต้องมีความรับผิดชอบร่วมกันทั้งสองฝ่าย

การประชุมวันศุกร์เป็นการประชุมวาระพิเศษ เพื่อพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่พิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งยังค้างอยู่มาก หากผ่านความเห็นชอบของสภาก็จะเกิดประโยชน์ และส่งเป็นข้อสังเกตให้รัฐบาล เพื่อจะได้ดำเนินการต่อไป แต่ถ้าค้างอยู่ในสภาก็ไม่มีประโยชน์ จึงอยากจะเร่งรัดในส่วนนี้ และในช่วงแรกทุกฝ่ายก็เห็นด้วยกับนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ว่าควรจะมีการประชุมพิเศษในวันศุกร์ เพื่อพิจารณาเรื่องนี้โดยเฉพาะ

นายชินวรณ์ กล่าวว่า โดยปกติแล้วการประชุม สามารถใช้มาตรา 88 ได้ คือ หากที่ประชุมเห็นว่าสามารถให้ความเห็นชอบได้โดยไม่ต้องลงมติ แต่หากมีการลงมติก็จะเกิดสภาพเหมือนวันที่ 4 พ.ย. เพราะวันศุกร์ในช่วงบ่าย ส.ส.จะจองตั๋วเครื่องบินกลับบ้านและลงพื้นที่ โดยเฉพาะในสมัยสุดท้าย และโดยเฉพาะสัปดาห์ที่เป็นช่วงทอดกฐิน ลอยกระทงด้วย ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า แต่เราต้องมาหารือร่วมกันว่า ถ้าทุกฝ่ายเห็นด้วย และคิดว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน เราก็จะต้องเสนอเรื่องนี้ต่อนายชวน เพื่อที่จะจัดประชุมวาระพิเศษต่อไป แต่ก็ต้องฟังความคิดเห็นทั้งสองฝ่ายให้มีแนวทางที่ชัดเจนก่อน

เมื่อถามว่าร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะเข้าสู่วาระการพิจารณาเมื่อไร นายชินวรณ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีร่างพ.ร.บ.การเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น ค้างการพิจารณาอยู่ จากนั้น จะตามด้วยร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง และร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ตามระเบียบวาระ ขอย้ำอีกครั้งว่าเราต้องเคารพเอกสิทธิ์ของส.ส. เพราะตามรัฐธรรมนูญ ส.ส.มีสิทธิ์ที่จะแสดงความคิดเห็น และแปรญัตติได้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย โดยไม่อยู่ในอาณัติของใคร ฉะนั้น การที่จะไปกล่าวหาใครว่าไม่มีมารยาทนั้น เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า นี่เป็นเรื่องของกระบวนการนิติบัญญัติที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือตรวจสอบ เพื่อให้กฎหมายออกมาดีที่สุด มีกรณีตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอยู่แล้ว คือ ร่างพ.ร.บ.กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ซึ่งเป็นร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่กมธ.ได้พยายามแปรญัตติให้เหลือดอกเบี้ยน้อยที่สุด ปรับโครงสร้างหนี้ แต่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ไม่เห็นด้วย อยากให้เป็นไปตามนโยบายของพรรคตัวเองคือไม่มีดอกเบี้ย ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นไม่ตรงกัน เราก็ต้องใช้เสียงข้างมาก โดยตอนนั้นเสียงข้างมากและพรรคภูมิใจไทยก็ชนะไป

“พวกผมไม่ได้กล่าวหาอะไรพรรคภูมิใจไทยเลย แต่วันนี้พอเป็นเรื่องกัญชาก็ไม่แน่ใจว่า ทำไมต้องไม่เคารพความเห็นต่าง หรือมีการพูดจาก้าวล่วงฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งเราก็จะหารือกันในวิปรัฐบาลว่า ขอให้ยึดหลักที่เคยยึดถือกันมาในการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องรับผิดชอบ เหมือนที่นายกฯ พูดว่าเป็นเรื่องของสภา ซึ่งตนก็เห็นตรงกับท่านว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของสภา ทุกฝ่ายควรจะให้สภาได้ตรวจสอบกฎหมายให้ดีที่สุด” นายชินวรณ์ กล่าว

นายชินวรณ์ กล่าวต่อว่า ไม่เช่นนั้นหากไปถึงวุฒิสภาก็จะมีการแก้ไขเนื้อหาสำคัญมาก จะทำให้กฎหมายมีปัญหา ไม่สามารถประกาศใช้ได้ เหมือนร่างพ.ร.บ.กยศ. ถ้าประกาศใช้ไม่ได้ คนที่เสียสิทธิ์คือนักเรียนที่กู้เกือบล้านคน ที่จะไม่ได้เสียดอกเบี้ยและปรับโครงสร้างตามกฎหมายใหม่ที่ออกมา ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ไม่กล่าวหาพรรคภูมิใจไทย แต่คิดว่าฝ่ายนิติบัญญัติต้องมีความรับผิดชอบด้วยกัน

เมื่อถามว่า ร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ จะเข้าสู่การพิจารณาภายในเดือนพ.ย.ได้หรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า อยู่ที่การพิจารณาร่างพ.ร.บ. 2 ฉบับก่อนหน้าที่ยังค้างอยู่ หากทั้ง 2 วาระนั้นสามารถเดินหน้าไปได้เร็ว ก็คาดว่าจะเข้าได้ทัน แต่หากไม่ทันก็คงเป็นสัปดาห์ต่อไป

เมื่อถามกรณีนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคปชป. ตอบโต้นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภท. กรณีกฎหมายกัญชาว่าตอนนี้พรรคภท.กับพรรคปชป.ไม่มีอะไรต้องเกรงใจกันอีกแล้ว จะมีผลกระทบพรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายชินวรณ์ กล่าวว่า คงไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเป็นเรื่องของการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเราจะต้องเห็นต่างกันแน่นอน พรรคมีที่มา มีรากเหง้าไม่เหมือนกัน มีหลักแนวคิดที่แตกต่างกัน จะนำความแตกต่าง หรือนำแนวคิดของแต่ละพรรคมาให้เหมือนกัน คงเป็นไปไม่ได้ ระบอบประชาธิปไตยความแตกต่างคือความงดงาม