เช็กให้ดีก่อน! แชร์สนั่น "กล้วยตาก" น้ำตาลสูงปรี๊ด 64.1% มากกว่าทุเรียนเท่าตัว จริงหรือ?

Home » เช็กให้ดีก่อน! แชร์สนั่น "กล้วยตาก" น้ำตาลสูงปรี๊ด 64.1% มากกว่าทุเรียนเท่าตัว จริงหรือ?
เช็กให้ดีก่อน! แชร์สนั่น "กล้วยตาก" น้ำตาลสูงปรี๊ด 64.1% มากกว่าทุเรียนเท่าตัว จริงหรือ?

จากกรณีโลกออนไลน์แห่แชร์ข้อมูล “ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยง ผักและผลไม้ที่มีปริมาณน้ำตาลเกินกว่า 20%” โดยส่วนมุ่งความสนใจไปที่ปริมาณน้ำตาลใน “กล้วยตาก” ที่มากถึง 64.1% สูงกว่า “ทุเรียน” ที่ตามข้อมูลระบุว่า 34.7% อยู่เกือบครึ่งหนึ่งเลยทีเดียว และอีกส่วนหนึ่งคือข้อมูลที่ระบุว่า แตงโมมีน้ำตาลน้อยกว่าฝรั่ง

ล่าสุด ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ได้ออกมาโพสต์ในประเด็นนี้ โดยอ้างอิงข้อมูลจาก รายการ “ชัวร์ก่อนแชร์” ที่ได้สัมภาษณ์ รศ.ดร.รัชนี คงคาฉุยฉาย ผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล มีข้อมูลที่แตกต่างกันอย่างมาก อาทิเช่น

กล้วยตาก ที่สถาบันเคยวิเคราะห์นั้น มีน้ำตาลอยู่ประมาณ 15% เท่านั้น ไม่ได้เยอะอย่างที่แชร์กัน หรือถ้าจะเยอะขนาดนั้น ก็อาจจะเป็น “กล้วยตากอบน้ำผึ้ง” อย่างไรก็ตาม การกินพวกผลไม้ตากแห้งนั้น มักจะได้รับสารอาหารในรูปน้ำตาล ส่วนพวกวิตามินซี และวิตามินอื่นๆ นั้น มักจะสูญเสียไปจากการตากแดด

ขณะที่กล้วยไข่ และกล้วยหอม ไม่ได้มีน้ำตาลสูงพอๆ กับทุเรียน อย่างที่แชร์กัน หรือถ้าจะให้มีน้ำตาลสูงมากๆ ก็อาจจะต้องเป็น “กล้วยหอมสุกงอม” ส่วนทุเรียนเองนั้น ก็มีน้ำตาลอยู่แค่ระหว่าง 7%, 8% หรือ 10% ขึ้นกับแต่ละสายพันธุ์ โดยที่พันธุ์ “ก้านยาว” อาจมีไขมันมากกว่าพันธ์อื่น

ทั้งนี้ เป็นเรื่องจริงที่แตงโมมีน้ำตาลน้อยกว่าฝรั่ง โดยฝรั่งทั่วไปมีน้ำตาลประมาณ 12-13% ขณะที่แตงโมมีเพียง 7-8%

ดังนั้น ที่เตือนกันว่าให้ระวังผักและผลไม้ที่มีน้ำตาลสูงนั้น สำหรับ “ผัก” แล้ว ไม่เป็นความจริง เพราะผักมีน้ำตาลน้อยมากสามารถกินผักได้เยอะ โดยไม่ต้องคำนึงถึงเรื่องพลังงาน ส่วนผลไม้ก็รับประทานได้ แต่ให้ระวังเฉพาะในคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับระดับน้ำตาล

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ