เช็กเสียงฝ่ายค้าน! ไม่พอโหวตล้มรัฐมนตรี เหตุ งูเห่าเพื่อไทย ก้าวไกล แฝงเพียบ นอกจากนี้ยังต้องกังวลกับงูเห่าหน้าใหม่ที่ไม่เคยแสดงตัว เตรียมแสดงตัวในครั้งนี้ด้วย
22 ก.ค. 2565 – รายงานข่าวจากรัฐสภา เปิดเผยถึงแนวทางการลงมติไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจของรัฐมนตรีทั้ง 11 คน ในวันที่ 23 ก.ค. ว่า เมื่อเช็กจำนวนเสียง ส.ส. ทั้งหมดที่ปฏิบัติหน้าที่ได้ 477 คนตามกฎหมายรัฐมนตรีจะยังดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ต้องได้รับเสียงไว้วางใจเกินกึ่งหนึ่ง คือตั้งแต่ 239 เสียงขึ้นไป
โดยพรรคร่วมฝ่ายค้านมีเสียงรวมทั้งหมด 208 เสียง พรรคร่วมรัฐบาลมี 269 เสียง ซึ่งมีความแตกต่างกันถึง 61 เสียง
ทั้งนี้ในจำนวนเสียงของพรรคฝ่ายค้านทั้งหมด ยังต้องหักจาก ส.ส.กลุ่มงูเห่า พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล ออกไปอีก รวมถึงเมื่อไปดูการลงมติครั้งสำคัญ ในลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 วาระที่ 1 พรรคฝ่ายค้านมีเพียง 194 เสียงที่ลงไปในทิศทางเดียวกัน
แม้ ส.ส. ในกลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พรรคเศรษฐกิจไทย ที่มีประมาณ 14 เสียง และกลุ่มพรรคการเมืองขนาดเล็ก 16 เสียง ต่อให้มีการดีลลงตัว ไม่มีแตกแถวเลยทั้ง 30 เสียง ให้มาโหวตไปในทิศทางเดียวกับ พรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยังไม่มีจำนวนเสียงมากพอ ที่จะทำให้รัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งตกเก้าอี้ได้ เว้นเสียแต่จะได้แรงสนับสนุนร่วมด้วยจาก พรรคภูมิใจไทย หรือ พรรคประชาธิปัตย์
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มว่า พรรคเพื่อไทย กลับต้องกังวลกับงูเห่าหน้าใหม่ที่ไม่เคยแสดงตัว และอาจแสดงตัวเพิ่มขึ้นไปอีกในการโหวต เพราะการลงมติไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ถือเป็นครั้งสุดท้ายของรัฐบาล ไม่ว่ารัฐบาลจะยุบสภาหรืออยู่ครบเทอมในเดือน มี.ค. 2566 ซึ่งเหลือเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น อาจทำให้ ส.ส. ที่ตัดสินใจไปร่วมงานกับพรรคการเมืองอื่น กล้าแสดงตัวมากขึ้น โดยอาจจะออกมาในหลายรูปแบบ เช่น มาร่วมประชุมแต่งดออกเสียง หรือเกิดป่วยกะทันหัน ไม่มาร่วมลงมติในวันที่ 23 ก.ค.
อย่างไรก็ตามกลุ่มงูเห่า 7 เสียงใน พรรคเพื่อไทย ที่จะไปร่วมงานกับ พรรคภูมิใจไทย มีแนวโน้มค่อนข้างสูงว่าจะลงมติไว้วางใจให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล และ นายศักดิ์สยาม ในส่วนรัฐมนตรีคนอื่น ๆ นั้น จะใช้วิธีงดออกเสียง