เจ้าของห้องเช่าผวา ถูกคนมาเช่าห้องพักขู่ฆ่า อาละวาดโยนขวด โยนกระถางต้นไม้ใส่ประตูหน้าบ้าน พบประวัติเคยก่อเหตุโชกโชน วอนเจ้าหน้าที่จัดการด่วน

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านโคกฟันโปง ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งบันทึกภาพเหตุการณ์คนร้ายเป็นชายโวยวายอาละวาด โยนขวดโยนกระถางต้นไม้ใส่ประตูบ้านผู้เสียหาย พร้อมทั้งพูดขู่ฆ่าเจ้าของบ้านด้วย กระทั่งโวยวายสักพักผ่านไป 15 นาทีชายดังกล่าวก็ปั่นจักรยานหลบหนีไป

ล่าสุด วันที่ 30 เม.ย. 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พบกับ น.ส.วรินทร์ลภัส อายุ 31 ปี เจ้าของอาคารห้องแถวที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นห้องแถว 4 คูหา โดยได้พาดูจุดที่ชายดังกล่าวหยิบเอาขวดและกระถางต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้าน ทุ่มใส่ประตูเหล็กม้วนจนบุบเข้าไป ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าของห้องเช่าได้มาเก็บกวาดทำความสะอาดทิ้งถังขยะไปทั้งหมด แต่ยังหลงเหลือร่องรอยความเสียหายเอาไว้ให้ดูต่างหน้า

น.ส.วรินทร์ลภัส กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อช่วง 3-4 วัน ที่ผ่านมา มีตำรวจมาขอเช่าห้องพัก คิดว่าจะมาเช่าให้ลูกน้อง พอติดต่อพูดคุยกันเสร็จแต่ยังไม่ได้ทำสัญญาเช่าและยังไม่ได้จ่ายเงิน ลูกน้องของนายตำรวจที่มาติดต่อเช่าห้องก็ขนของเข้ามา แต่วันที่ขนของมานั้นไม่ทราบว่าคนที่มาอยู่เป็นใคร วันต่อมาทราบว่าเป็น นายปิงปอง ซึ่งตนทราบประวัติดีว่าเป็นใครเพราะเคยออกข่าวไปช่วงหนึ่งที่เคยขี่รถจักรยานยนต์ไปไล่แทงคนไปทั่วและถูกจับไปก่อนหน้านี้หลายปีแล้วสาเหตุเพราะมีอาการทางจิต

ตนจึงแจ้งไปยังตำรวจที่มาติดต่อขอเช่าว่าอยากให้ย้ายออก โดยบอกว่าจะปรับปรุงห้องเช่าใหม่ ซึ่งตำรวจที่มาเช่าก็บอกขอเวลา 2-3 วันหาที่เช่าอื่นก่อนแล้วจะย้ายไป พร้อมทั้งบอกกับ นายปิงปอง ว่าให้ย้ายออกไป แต่ไม่ยอมและโวยวายจนต้องเรียกตำรวจมาพาตัวไป วันต่อมานายปิงปองกลับมาอีกครั้งแล้วโวยวายอาละวาดตามกล้องวงจรปิดที่บันทึกภาพได้ พร้อมทั้งขู่จะฆ่าให้ตาย ซึ่งโชคดีที่ไม่กี่นาทีก่อนที่จะมาอาละวาด ได้ปิดประตูม้วนเหล็กลงและล็อกข้างใน ไม่งั้นอาจจะถูกปาขวดปากระถางใส่ประตูกระจกแตกและเข้าไปทำร้ายคนในบ้านแน่นอน

น.ส.วรินทร์ลภัส กล่าวต่อว่า ขณะเกิดเหตุตนอยู่กับสามีและลูก ในบ้านต่างก็กลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สามีจะออกไปหา นายปิงปอง แต่ตนกลัวว่าจะมีอาวุธ เพราะลักษณะเหมือนเอามือล้วงที่กระเป๋าเป้อยู่ตลอด ซึ่งได้โวยวายอาละวาดปากระถางต้นไม้ใส่ประตูบ้านอยู่ประมาณ 15 นาทีก็ปั่นจักรยานหนีไป ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นแต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะกลัวจะได้รับอันตรายไปด้วย กระทั่งวันต่อมาได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านเป็ด แต่ร้อยเวรอยู่คนเดียวและมีชาวบ้านมาแจ้งความเยอะ จึงเข้าแจ้งความอีกครั้งในวันนี้

หลังจากที่นายปิงปองกลับไปและคิดว่าจะไม่ย้อนกลับมาแล้ว ตนเองก็เข้าไปดูภายในห้องพบว่ามีทั้งอุปกรณ์การเสพยาบ้า อุกรณ์การเสพกัญชา ทั้งมีดทั้งเขียง ทั้งฟอยและไฟแช็ก จึงได้ทำความสะอาดเก็บทิ้งถังขยะไปทั้งหมด อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการเรื่องนี้เพราะเป็นภัยสังคมอย่างมาก และฝากถึงญาติพี่น้องหากรู้ว่านายปิงปองมีอาการทางจิตต้องกินยารักษาก็ไม่ควรปล่อยออกมาสู่สังคม ควรดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะอาจเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่านี้ขึ้นได้