“บิ๊กเปี๊ยก” พล.ต.อ.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ประธานโครงการทัวร์นาเม้นท์ WGP#1 เจ็ตสกีเวิลด์คัพ เปิดเผยว่า หลังจากที่ทัวร์นาเมนต์จบลงและบรรลุเป้าหมายเป็นอย่างดียิ่ง โดยไทยสามารถรักษาการเป็นผู้นำกีฬาเจ็ตสกีโลกได้อย่างมั่นคง มีนักกีฬาระดับโลกเข้ามาแข่งขันมากที่สุดเป็นปีที่ 4 ติดต่อกันแล้ว ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์หลายด้าน รวมถึงการเป็นโครงการต้นแบบกีฬาไทย ด้านทรัพย์สินทางปัญญา และซอฟพาวเวอร์
ล่าสุด มีข่าวดีเพิ่มขึ้นอีก ในด้านการสร้างเครือข่ายสื่อและโทรทัศน์ทั่วโลก โดยฝ่ายงานต่างประเทศ ได้ส่งรายงานว่ามีสถานีโทรทัศน์กว่า 121 ประเทศ ครอบคลุมฐานการรับชมกว่า 1,000 ล้านครัวเรือนทั่วโลก ต้องการนำลิขสิทธิ์กีฬาไทย รายการ WGP#1 ไปออกอากาศ อีกทั้งยังขยายตัวสู่สื่อสมัยใหม่ ประเภทออนไลน์ ครอบคลุมบัญชีผู้ใช้งานเพิ่มอีกกว่า 248 ล้านคนทั่วโลก ทำให้งานด้านนี้ ประสบความสำเร็จเกินเป้าหมายไปกว่า 3 เท่าตัว จากที่ในเฟส 1 ต้องการขยายฐานการรับชมที่ประมาณ 300 ล้านครัวเรือนเท่านั้น
การเติบโตนี้ เกินเป้าหมายไปมาก แต่ก็เป็นเครื่องชี้วัดว่า คนไทย กีฬาไทย สามารถเข้าแข่งขันในเวทีกีฬาโลกได้จริง นับเป็นโครงการต้นแบบ ที่กำลังประสบความสำเร็จอย่างสูง ด้านซอฟพาวเวอร์และทรัพย์สินทางปัญญากีฬา ซึ่งวงการกีฬาไทยควรให้ความสำคัญกับการทำงานด้านนี้เพิ่มขึ้น เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อชาติไทยอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่มีงานง่ายในเวทีโลก แม้ว่าลิขสิทธิ์เจ็ตสกีไทยจะครอบคลุมฐานการรับชมทะลุไปกว่า 1,000 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 3,000 ล้านคนแล้วก็ตาม งานในเฟสที่ 2 และ 3 จะต้องสร้างแฟนๆ กีฬานี้ทั่วโลก ให้ได้ตามเป้าหมาย 350 ล้านคน ภายในปี 2567 ก็ยังเป็นงานที่ไม่ง่าย ซึ่งได้หารือกับนายปริเขต สืบสหการ ผู้อำนวยการของ ทัวร์นาเม้นท์ฯ ในการเพิ่มการพัฒนาคอนเท้นท์ระดับโลก ให้ทันสมัยเพิ่มขึ้นอีก แต่ทั้งนี้ ความสำเร็จที่มาถึงจุดนี้ได้ ต้องขอขอบคุณวิสัยทัศน์ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ที่ได้สนับสนุนนโยบายอย่างจริงจัง รวมถึงจะนำโครงการนี้เข้าหารือกับส่วนงานต่างๆ เพื่อสร้างความสำเร็จและประโยชน์ให้กับประเทศไทยมากที่สุด