เจนี่ เชื่อทำธุรกิจกับ วุ้นเส้น ไร้ปัญหา เพราะเคยทะเลาะกันมาก่อน เรื่องงานชัดเจน
เจนี่ เชื่อทำธุรกิจกับ วุ้นเส้น / ขึ้นแท่นเป็นอีกหนึ่งบอส ของผลิตภัณฑ์ เซวา สำหรับนางเอกสาวหน้าเด็ก เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์ ล่าสุดจับมือกับเพื่อนซี้ วุ้นเส้น วิริฒิพา จัดงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เซวา ครีมโสมทองคำ ที่ รร.waldorf astoria bangkok หลังจากจบงานนางเอกสาวได้เปิดใจถึงสาเหตุตัดสินใจทำธุรกิจกับเพื่อน
ทำธุรกิจกับเพื่อนต้องปรับตัวกันยังไง? “จริงๆ ตอนแรกเราก็คิดเยอะ ทำกับวุ้นเส้น เราจะยังไง แล้วเราจะทะเลาะกันไหม เราเคลียร์กันตั้งแต่ทีแรกว่าเพื่อนมีอะไรบอกกันตรงๆ รู้สึกยังไงให้พูด จริงๆ การที่ทำธุรกิจเป็นอะไรที่สำคัญมากกับการที่เราไม่ต้องเก็บเอาไว้ ชัดเจนเคลียร์ตั้งแต่วันแรก”
ทำไมถึงตัดสินใจทำธุรกิจกับเพื่อน ทั้งๆ ที่ก็มีหลายคนติดต่อเราเยอะเหมือนกัน? “มีเหมือนกันค่ะ หนึ่งเองคือกับวุ้นเราสนิท อยู่กลุ่มเดียวกับเจนมาเกือบ 20 กว่าปีแล้ว เราร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันมาตลอด ทั้งตีกันๆ (ยิ้ม) จนมีวันนี้แล้วเจนก็มั่นใจว่าเราไม่ตีกันแล้ว ถึงเราจะตีกันเราก็จะตีกันในวงนี้ แต่เราไม่ตีกันเรื่องธุรกิจนี้แน่นอน”
พี่ๆ ในกลุ่มมีบอกไหมว่าอย่าตีกันอีก? “ไม่ค่ะ ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ตีกันอีก แต่ตีกันได้ ตีกันเพื่อให้เราเข้าใจกันมากขึ้น คุยกันปรึกษากันให้เข้าใจกันมากขึ้น (ยิ้ม)”
แสดงว่าครั้งนี้ก็กว่าจะลงตัวกันได้? “ใช่ค่ะ เพราะการที่เราจะทำอะไรด้วยกันจริงๆ เราไม่สามารถที่จะเก็บเงียบได้หรือว่ามีอะไรในใจจนมันกลายเป็นปัญหาขึ้นมา เรามีอะไรเราคุยตรงๆ ชอบไม่ชอบ ถูกใจหรือยัง ไม่ถูกใจยังไง เมื่อกี้บนเวทีที่บอกครีมมีการแก้ไปเป็น 100 ครั้ง คือวุ้นอาจจะรู้สึกเหนื่อย แต่เจนก็บอกวุ้น หนึ่งคือเจนเสียหน้าไม่ได้จริงๆ คือมันเป็นยี่ห้อเจนแล้ว JT ก็คืออยู่บนกระปุกถ้าเจนใช้อะไรที่มันไม่มีคุณภาพแล้วเจนใช้ของไม่ดีหน้าเจนก็จะไปอยู่บนหน้าผู้หญิงทุกคน คนก็จะมาว่าเจนได้ ไหนว่าของดีไม่ได้ดีนี่ เราก็เลยต้องไปถึงเกาหลีไปดูสูตรด้วยตัวเอง”
การทำธุรกิจกับเพื่อนมันมีข้อดียังไงบ้าง? “พอมันเป็นความรักของเราทุกคนก็เป็นอะไรที่เรารู้สึกว่าเราได้แชร์ร่วมกันเราได้มีความไว้วางใจและรู้สึกว่าเราช่วยกันทำมาหากิน มันก็เป็นอีกขั้นของชีวิตเป็นสเต็ปที่เราจับมือไปพร้อมกัน นอกจากแต่ก่อนคือเจอกันกินข้าวกัน ตอนนี้เจอกันอยู่ด้วยกันช่วยกันทำธุรกิจ ช่วยกันทำมาหากิน (ยิ้ม)”
ลงทุนไปเยอะขนาดไหน? “ก็อยู่ในงบ 100 ล้านค่ะ” (เป็นการลงทุนที่เยอะที่สุดเลยไหม?) “เยอะที่สุด ตั้งใจทำแล้วก็อยากให้มันออกมาดีที่สุด”
วางงานในวงการบันเทิงกับธุรกิจไว้ยังไงบ้าง? “จะผิดไหมถ้าจะบอกว่าอย่างละครึ่งๆ (ยิ้ม) คือเจนก็ยังรักที่จะทำงานละครอยู่เพราะยังอยู่ช่อง 3 มีสัญญาอยู่ แต่ตรงนี้ก็เป็นเหมือนอีกบทบาทของชีวิตที่เจนเองก็รู้สึกว่าเราโตแล้วนะ ถ้าเจนมาทำธุรกิจหรือมาทำอะไรที่เรารู้สึกว่ามันชัวร์กับชีวิตแล้วทำให้ชีวิตเราเหมือนเป็นอีกระดับแล้วมีความมั่นคงขึ้นก็เป็นอะไรที่สำหรับวัยเราก็ควรที่จะเริ่มได้แล้ว”
อะไรคือส่วนที่ทำให้เราคิดว่าชีวิตต้องมั่นคงขึ้น? “ลูก เจนอาจจะรู้สึกว่าเราต้องทำอะไรให้เขาเราต้องมีอะไรให้เขาแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนกับเรามองตาเขาทุกเช้าแล้วเราก็จะ แม่อยากทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีที่สุดให้กับเขาได้ (ยิ้ม)”
แบ่งพาร์ตดูแลลูกดูแลธุรกิจยังไง? “ครึ่งๆ ค่ะ” (งานละครกลับมาหรือยัง?) “กลับค่ะ ยังไงก็ต้องกลับเพราะเจนมีสัญญาช่อง 3 แล้วไม่ทิ้งแน่นอนค่ะ มีอะไรติดต่อมาเจนก็ยินดีที่จะรับ” (มีที่เราพิจารณาไว้บ้างไหม?) “มีค่ะ (ยิ้ม)”
บทบาทจะเปลี่ยนไปไหม ไม่รับดราม่าหนักแล้ว? “ไม่เกี่ยวค่ะ อะไรก็ได้ที่ขอเป็นงาน (ยิ้ม) เราห้ามเกี่ยงนะคะ ห้ามปฏิเสธงาน” (แล้วเรื่องต่อไปจะเป็นแนวไหน?) “แล้วแต่คุณผู้ชมเลยค่ะ (ยิ้ม) แต่เจนเองจะรู้สึกว่าเราอยากเล่นอะไรที่ท้าทายกับตัวเราเอง แล้วเจนว่าทุกคนน่าจะชอบอะไรแบบ ใจเริง มุนินทร์ หรืออะไรที่มันเหมาะเชียร์อยากให้เจนเล่นบทแรงๆ ก็กำลังดูอยู่ (ยิ้ม)”