"เจนนี่" เคลียร์ดราม่า ไร้ใบผู้ประกาศข่าว ซ้อมหนักจนอิน ก้าวข้ามคำตราหน้า แจงสามีเดือดแทน

Home » "เจนนี่" เคลียร์ดราม่า ไร้ใบผู้ประกาศข่าว ซ้อมหนักจนอิน ก้าวข้ามคำตราหน้า แจงสามีเดือดแทน


"เจนนี่" เคลียร์ดราม่า ไร้ใบผู้ประกาศข่าว ซ้อมหนักจนอิน ก้าวข้ามคำตราหน้า แจงสามีเดือดแทน

“เจนนี่” เคลียร์ดราม่า ไร้ใบผู้ประกาศข่าว ซ้อมหนักจนอิน ก้าวข้ามคำตราหน้า แจงสามีเดือดแทน

หลังจากที่ นักร้องสาว เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น มารับหน้าที่ผู้ประกาศข่าว ทุบโต๊ะข่าว เจอกระแสดราม่าคนติงไม่เหมาะสม และไม่มีใบผู้ประกาศข่าว

ล่าสุด วันที่ 29 มี.ค. 2566 เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ได้เปิดใจเคลียร์ทุกประเด็นดราม่า พร้อมปรับลุกส์ใหม่ ทำการบ้านฝึกฝนอย่างหนัก และเตรียมตัวไปสอบใบผู้ประกาศข่าว ทั้งยังชี้แจงเรื่องที่สามีหนุ่ม ยิว ฉัตรมงคล เดือดแทนเมียเจอคอมเมนต์แรง เอาคนมีข่าวไม่ดีมาอ่านข่าว

กับงานใหม่ในบทบาทผู้ประกาศข่าวของเราเป็นอย่างไรบ้าง?
“รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก เป็นสิ่งนึงที่เราชอบและไม่เคยได้แสดงความสามารถตรงนี้ให้ใครดูมาก่อนเลย ตื่นเต้นมากเพราะเราไม่เคยทำมาก่อน มันเป็นสิ่งใหม่ มันเป็นอะไรที่ท้าทาย แล้วคือมันพลาดไม่ได้ มันเป็นเรื่องของข่าวที่เกี่ยวกับปากท้องของประชาชน”

เตรียมตัวยังไงบ้าง?
“ตั้งแต่รู้ว่าจะได้มาเป็นผู้ประกาศข่าวทุกเวลาของเราก็คือซ้อมแล้วก็ดู เรียกคนในบ้านว่าคุณผู้ชมคะ แม้แต่ลูก แต่สามีเราก็เรียกคุณผู้ชมคะทานข้าวค่ะ ด้วยความที่เราอินกับมัน เจนนี่ถ้าเราได้ทำอะไรแล้วเราจะจริงจังมากๆ ที่ผ่านมาก็ซ้อมตลอดเวลา วันแรกจะกดดันหน่อย ฟีดแบ็กออกมาคนให้กำลังใจเยอะ เราก็มีกำลังใจมากขึ้นแต่ก็ยังคงตื่นเต้นอยู่ เพราะมันใหม่สำหรับเรา”

เครียดไหม?
“เครียดค่ะ โอกาสที่ได้มาเจนนี่รู้สึกว่ามันยิ่งใหญ่มาก ถ้าวันนี้เราทำไม่ได้ก็ไม่รู้ว่าโอกาสแบบนี้มันจะกลับมาอีกเมื่อไหร่อีก เราเป็นคนชอบงานอะไรที่เกี่ยวกับการพูดอยู่แล้ว พอเราได้โอกาสมาเราก็อยากจะคงมันไว้ให้ได้นานที่สุด มันเลยกดดัน และเครียด ก็มีพี่ๆ ผู้ประกาศคอยให้คำแนะนำ ช่วยติวให้ตลอดว่าตรงไหนเราต้องปรับ ต้องแก้ ตอนนี้ก็พยายามดูข่าวเยอะมากๆค่ะ”

เช็คกระแสตัวเอง?“เช็คค่ะ อ่านทุกคอมเมนต์เลย อะไรที่มันเป็นสิ่งใหม่เราก็อยากจะทำให้ถูกใจทุกคน ถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่ยาก อะไรที่มันเป็นพลังบวก ขอบคุณมากๆ ที่ส่งพลังใจให้กัน ทุกการทำงานย่อมต้องการกำลังใจ อย่างเทปล่าสุดสิ่งที่คนพูดถึงมากที่สุดคือเรื่องเสื้อผ้าหน้าผม วันนี้เราก็พยายามปรับให้มันเรียบร้อยขึ้น แล้วก็เรื่องของการพูดเราอาจจะต้องพูดให้ชำนาญมากขึ้น จะได้ตื่นเต้นน้อยลง สำหรับตัวเองที่คิดจะปรับคือ อาจจะต้องทำความเข้าใจกับข่าวให้มากขึ้น เจนนี่อาจจะติดดูสคริปต์มากเกินไป เราก็กังวลกลัวจะพูดผิด เราไม่อยากให้พลาด”

การเป็นผู้ประกาศมันยากกับเรายังไงบ้าง?
“ร้องเพลงมันก็ปล่อยไปตามฟีล มันเป็นคอนเสิร์ตของเรา เราจะทำอะไรในสิ่งที่เราอยากทำก็ได้ แต่การเป็นผู้ประกาศข่าวสิ่งที่มันต้องมีมากๆ เลยคือความน่าเชื่อถือ เราว่าตรงนี้แหละที่มันเป็นเรื่องที่ยาก และเราก็ยิ่งอยากจะทำมันให้ได้”

คนติงในเรื่องของความเหมาะสมกับการเอาเน็ตไอดอลมาเป็นผู้ประกาศข่าว?
“ในเรื่องของความเหมาะสมเราก็เข้าใจและน้อมรับในทุกความคิดเห็นที่เข้ามา ใดๆคือเราคนทำงาน หาเลี้ยงครอบครัว พอโอกาสมันเข้ามา ถ้าผู้ใหญ่มองว่าเหมาะสมเราก็ยินดีที่จะแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ ให้เวลาเป็นเครื่องตัดสินว่าเราเหมาะกับตรงนี้รึเปล่า ถ้าวันนึงเจนนี่ไม่เหมาะจริงๆ เจนนี่เชื่อเหลือเกินว่าทางช่องก็คงรู้และหาวิธีปรับเปลี่ยนแก้ไข หรือเอาเราไปอยู่ในจุดที่เหมาะสม”

คนข้องใจว่าเราได้สอบใบผู้ประกาศรึเปล่าในการขึ้นมาเป็นผู้ประกาศข่าว?
“ตอนแรกไม่ได้คิดเลย เราอาจจะเป็นเพียงมาสร้างสีสันให้กับทางรายการ พอมันมีประเด็นนี้เข้ามาบอกเลยว่าคิดและมีการปรึกษาผู้ใหญ่จนถึงขั้นไปหาความรู้ว่า การสอบใบผู้ประกาศข่าวเราต้องไปอบรมกับทาง กสทช. มีการสอบ เจนนี่ก็ดูนะว่าวิธีการสอบเป็นยังไง เปิดรับปีละกี่ครั้ง เจนนี่อยากทำทุกอย่างให้มันถูกต้องที่สุด เจนนี่ก็อยากจะทำตรงนั้นให้ไดัเลย ต่อให้เราจะทำหน้าที่เป็นผู้ประกาศข่าวต่อหรือไม่แต่เจนนี่ก็อยากจะมีใบตรงนั้นไว้เพื่อเตรียมพร้อมในการรับงานครั้งต่อๆไป เราต้องพร้อมทุกอย่างไว้มันจะดีที่สุด ก็ต้องขอบคุณทุกคนมากๆที่มาให้ความรู้เจนนี่เรื่องใบผู้ประกาศข่าวขึ้นมา อย่างที่บอกว่าการที่จะมานั่งตรงนี้ได้มันไม่ใช่เรื่อง่าย เจนนี่เอาไปคิดและปรับตัว เจนนี่ก็เตรียมตัวเพื่อจะไปสอบจริงๆค่ะ”

เราก็ยังจะทำผู้ประกาศข่าวควบคู่กับการไลฟ์ขายของ?“เราก็ยังจะทำทุกอย่างเยอะแยะเหมือนเดิม เราเป็นคนที่สังคมจับจ้อง แล้วเรารู้ว่าตัวเองทำอะไรก็มีแต่ดรามา เจนนี่น้อมรับนะคะ ตรงไหนที่แนะนำมาแล้วเจนนี่ทำให้ได้เจนนี่ยินดีที่จะทำ แต่วันนึงที่เราสอบจนได้ใบประกาศมา มันก็เป็นเรื่องที่ดีสำหรับเราต่อให้เราจะได้ใช้หรือไม่ได้ใช้ ถ้าเรามีมันและเรายังมีโอกาส ก็คิดว่าคงจะได้ใช้ตรงนี้ไปนานๆ”

ต้องเปลี่ยนลุกส์ เอาหน้าม้าออก?
“อันไหนทำได้ก็ทำทันทีเลย เขาบอกว่าเขารำคาญหน้าม้าเรา เราก็เอาออกให้ทันทีเลย ก็มีปรึกษากับช่างหน้าช่างผมว่าวันนี้ขอลุกส์ที่มันเข้ากับบุคลิกภาพ ในหน้าที่ที่เรามาเป็นผู้ประกาศข่าว เราก็ยินดีปรับลุกส์ให้เข้ากับหน้าที่ของเรา ถ้าไปร้องเพลงแล้วคิดถึงหน้าม้าเราก็อาจจะกลับมาในหน้าม้าก็ได้”

น้อยใจ?“เราก้าวผ่านคำว่าน้อยใจมาแล้ว ตอนนี้รู้สึกดึด้วยซ้ำสำหรับคำแนะนำที่ดีๆ บางเรื่องเราก็ไม่ได้รู้มันเลยจริงๆ ก็รู้สึกขอบคุณทุกคนมากกว่า สำหรับคนที่ตัดสินไปก่อน เจนนี่ไม่ได้สนใจเลยคะ เราแบ่งคอมเมนต์เป็นสองแนว ว่ามาเพื่อติหรือมาเพื่อแนะนำจริงๆ ถ้ามาแค่อคติเราก็ขอมองข้าม เราเข้าใจแล้วว่าบนโลกนี้ไม่มีใครเข้าใจเรา 100% แต่ถ้ามาเพราะหวังดี มาเพื่อแนะนำจริงๆเราก็รับเอามาใช้และเอามาปรับให้ได้”

คิดยังไงกับการที่เข้าได้เข้ามาเพราะเอากระแส?“เจนนี่คิดว่ามันเกี่ยวกับความสามารถมากกว่า ถ้าเจนนี่ไม่มีความสามารถตรงนี้เลยสักนิดผู้ใหญ่ก็คงไม่ให้โอกาสเรา ตรงนี้อยากให้ทุกคนเล็งเห็นถึงความสามารถกันซักนิดนึง ลองดูก่อน ว่าเราพอจะไปได้ไหม ต้องปรับตรงไหนยังไงบ้าง แนะนำกันมาได้ ตอนนี้เจนนี่ก็เห็นว่าพี่ๆดารา อินฟูลฯต่างๆ มาอ่านกันเยอะแยะมากมาย เจนนี่ก็มองว่าโอกาสตรงนี้มันไม่ได้มี มันไม่ได้ได้กันทุกคน”

ทำอะไรก็ดราม่า?“เจนนี่ก้าวผ่านตรงนั้นมาแล้ว เจนนี่ไม่ได้รู้สึกแล้วว่าพอมาเป็นเจนนี่อะไรก็ดราม่า ไม่ได้มาคิดตรงนั้นแล้ว เราคิดแค่ว่าเราจะทำยังไงให้ดีกว่าเดิม ใหัมันลบคำสบประมาทให้ได้ จะตั้งใจทำให้สมกับที่ผู้ใหญ่ให้โอกาส สิ่งที่สำคัญตอนนี้ก็คือต่อให้ชาวเน็ตจะดราม่า จะคอมเมนต์ยังไงแต่ผู้ใหญ่ยังให้โอกาส แปลว่าเรายังได้ทำต่อ เจนนี่ว่าขึ้นอยู่กับความตั้งใจ ความพยายามของเรามากกว่า ถ้าเราไม่ตั้งใจทำงานเขาก็คงไม่จ้างเราต่อ คงจะให้เราไปทำตรงอื่น ทุกองค์กรต่างอยากได้คนที่ตั้งใจทำงานจริงๆ แล้ววันนี่เจนนี่ก็จะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นถึงความตั้งใจมากๆ”

สามีก็โพสต์ขึ้นแทนเรา?
“สามีจะเห็นว่าทุกวันนี้แทบไม่ได้นอนเลย ซ้อมหนักมากจนสามีบอกว่าพักบ้างนะตัวเอง ตัวเองอย่าลืมว่าตัวเองยังมีทำค่าย ทำธุรกิจ เขาแอบสงสารเรา พอมาเห็นคอมเมนต์ที่มาดูถูก มาอคติเรา เขาก็จะมีอารมณ์ห่วงแฟน แต่เจนนี่ก็บอกเขาว่าตัวเองต้องใจเย็นๆนะ ตัวเองเป็นคนสอนเขาเองนะว่าให้รับมือยังไง ก็ปรึกษากัน ใดๆคือทุกคนก็มีความคิดเป็นของตัวเอง เขาก็มีความคิดในมุมมองของเขา เขาออกมาปกป้องเราก็ถือว่าเป็นกำลังใจที่ดีกับเรา”

เขาซีเรียสกับคำไหนเป็นพิเศษ?“เขาบอกว่าทำไมให้คนที่มีข่าวไม่ดีมาทำงาน สามีมองว่ามันเป็นเรื่องของการให้โอกาส อย่าลืมว่าบนโลกนี้ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาด อยู่ที่ว่าพอเราผิดพลาดเราจะเอาความผิดพลาดนั้นมาปรับปรุงใช้ในชีวิตยังไง ถ้าเจนนี่ยังผิดพลาดเรื่องเดิมๆซ้ำๆเจนนี่ยินดีให้ทุกคนด่า แต่ตอนนี้เจนนี่พยายามทำให้ทุกคนเห็นว่าถ้ามันจะผิดพลาดมันต้องไม่ใช่เรื่องเก่า แปลว่าเราต้องเรียนรู้กับสิ่งใหม่ แล้วเจนนี่ก็เชื่อเหลือเกินว่าต่อให้เรามีใบประกาศข่าวในอนาคตเราก็ยังอาจจะมีสิ่งที่ผิดพลาดเกิดขึ้นอีก ฉะนั้นแค่มันอย่าผิดซ้ำๆเรื่องเดิมๆจนคนเอือมระอา”

มีคนมาบูลลี่สำเนียงทองแดงไหม?
“เป็นเรื่องของเอกลักษณ์ดีกว่า เราเป็นคนใต้ ถ้าทางช่องอนุญาตให้เล่าเป็นภาษาใต้ เจนนี่ก็ยินดีนะคะ แต่ว่าพอมันเป็นเรื่องเอกลักษณ์ก็พยายามปรับค่ะ ถ้าคนส่วนใหญ่บอกว่าอยากให้ปรับก็จะปรับให้ แต่มันก็ยังมีคนกลุ่มบ้านเราที่เขารู้สึกว่า เด็กบ้านเราอ่านข่าวหรอยจัง ภาษานี้ฉันก็แหลงได้(สำเนียงใต้) มันก็ภูมิใจไปอีกแบบหนึ่งค่ะ”

ล่าสุดดราม่ามีคนตามมาด่า รังควานไม่หยุดเลย?
“จริงๆ คนตามด่าเจนนี่มันมีมาตลอดแหละ เราไม่ได้ซีเรียสเลย ก็ไม่ได้ไปอะไรกับเขาแล้ว แต่ว่าเนื่องจากครั้งนี้พี่ท่านนี้เขาถึงขั้นไปตามรังควานกับตัวแทนที่เขาเปิดสินค้ากับเรา คือคนที่เขาจ่ายเงินให้เราเขาเป็นตัวแทนกับเรา ซึ่งเรามีหน้าที่ดูแลเขา เราก็เลยออกมาพูดประมาณว่าขอความเห็นใจ ไม่ได้จะฟ้องนะคะ ไม่ได้จะไปหาทัวร์หาพวกในการทะเลาะวิวาท ไม่อยากขึ้นโรงขึ้นศาลกับใครแล้ว แต่แค่อยากขอความเห็นใจนิดนึงว่าให้มันอยู่ในเกณฑ์ที่พอดี คือถ้าอยากด่าก็ด่าให้มันตรงประเด็นให้มันพอดีๆ ไม่ใช่ไปตามด่าจนทำให้ธุรกิจใหม่ของเรามันเกิดความเสียหาย เพราะว่าแบรนด์ที่เราทำมันลงทุนถึง 10-20 ล้าน พอมันมีสิ่งเสียหายเกิดขึ้น ตัวแทนจะเชื่อถือเราหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเรา ขอความเห็นใจว่าอย่าตามรังควานไปถึงบุคคลอื่นเลยที่ไม่ใช่เรา”

แสดงว่าคนนี้ตามด่ามาตลอด?
“เป็นปีเลยค่ะ พอเราได้ไปส่อง เราไม่อยากเอาเรื่องเขาเลย เพราะเราเข้าใจสภาพจิตใจกับสภาพแวดล้อมที่เขาเจอ เราก็เลยปล่อยวาง เราก็มีเข้าไปดูก็รู้ว่าเขาเป็นคนบ้านเดียวกับเราเลย นี่คือสิ่งที่เราเสียใจว่า ทำไมคนใต้ด้วยกันถึงไม่สนับสนุนกัน เราก็เลยบอกไปว่าไม่สนับสนุนไม่เป็นไร แต่ว่าอย่าทำลายกันก็พอ พี่เขาน่าจะทำงานก่อสร้าง เราก็ยิ่งเห็นใจเข้าไปอีกกับมุมมองความคิดคนเรามันไม่เหมือนกัน แค่ขอความร่วมมือเถอะ ใครที่อยู่ใกล้ตัวช่วยหน่อยบอกพี่เขาให้หยุดการกระทำเหล่านี้ นี่โชคดีแค่ไหนที่เป็นเจนนี่ ถ้าเป็นคนอื่นเขาอาจจะมีการฟ้องหลักแสนหลักล้านแล้ว แล้วพี่เขาจะหาเงินจากไหนมา แล้วพอเอฟซีเราไปบอกว่าคุณพี่หยุดเถอะนะ เดี๋ยวเจนนี่จะฟ้อง เขาก็บอกฟ้องเลยๆ เราก็เลยมองเห็นถึงทัศนคติของเขา เราก็มองผ่านไป แล้วขอโทษตัวแทนของเราไปว่า เจนนี่ไม่สามารถคุมคนทุกคนได้เลย มันหลากหลายความคิดจริงๆ”

ไม่อยากฟ้อง แล้วจะมีการจัดการอย่างไรต่อไป?
“ที่เราโพสต์ไปเรียกง่ายๆ ว่าเป็นการเตือนแหละว่าหยุดก่อน เราต้องเตือนก่อนเผื่อเขาจะคิดได้ ถ้าอนาคตยังเกิดเคสแบบนี้อีก เราจำเป็นจะต้องปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อปกป้องตัวแทนหรือสินค้าของเราที่ทำมา เพราะตอนนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีเลย ไม่อยากให้มีอะไรสะดุด เพราะฉะนั้นถ้ามีอะไรนิดนึงเราต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ค่อยปรึกษาฝ่ายกฎหมายอีกทีนึงค่ะ”

นอยด์ไหม?
“ไม่นอยด์นะ ชิลชิลมากเลย เรื่องเล็กมาก แล้วพอได้ไปส่องชีวิตของพี่เขา เรายิ่งรู้สึกว่าอย่าไปจองเวรจองกรรมกับเขาเลย ให้อภัยดีที่สุด”

พอมายืนจุดผู้ประกาศข่าวสายอาชญากรรม แรงกดดันเยอะขึ้น มีปรับการใช้ชีวิต หรือระวังอะไรมากขึ้นไหม?
“สิ่งหนึ่งเลยที่ได้รับคำแนะนำจากพี่แอน จินดารัตน์ คือเรื่องของความน่าเชื่อถือ ถ้าเราอยากให้คนเชื่อถือเรา เกี่ยวกับการอ่านข่าว เราต้องปรับ
ลุกส์ ถ้าเราอยากทำตรงนี้เราจะต้องเสียโอกาสบางอย่างในชีวิต เช่น การเป็นตัวของตัวเองได้ตลอดเวลา เจนนี่ต้องปรับลุกส์เวลาไลฟ์สด ถึงขั้นเข้าไปดูในกูเกิลว่าจรรยาบรรณของข่าวคืออะไร นักข่าวคืออะไร อ่านข่าวที่ดีต้องเป็นแบบไหน เราก็พยายามไปดูพี่ๆ ที่อ่านข่าวเก่งๆ ว่าเขาใช้วิธีไหนในการอ่านข่าวอาชญากรรมใช้เสียงแบบไหน ข่าวบันเทิงอ่านยังไงเมื่อมีคนเสียชีวิตเราติดเล่นไม่ได้ เราทำการบ้านหนักมากเพื่อให้งานออกมาดีที่สุด”

แต่ก็หลายคนชมเราเก่งรอบด้าน เป็นทั้งนักร้อง นักแต่งเพลง คุณแม่ ไลฟ์สดขายของแล้วยังมาทำหน้าที่ผู้ประกาศข่าวอีก แบ่งเวลายังไง?
“หนูไม่เคยปล่อยโอกาสให้หลุดมือไปเลยแม้แต่นิดเดียว เราเป็นคนเคยจนมาก่อน เราย้ำกับตัวเองเสมอ ลูกเรา ครอบครัวเราต้องไม่กลับไปยืนจุดนั้น ก็เลยให้ความสำคัญกับการทำงานมาก ตัวเงินจะได้น้อยได้มาก ไม่ซีเรียส แต่ขอให้เราได้อยู่ตลอด ยิ่งวันนี้เราได้ทำงานสิ่งที่เรารัก การประกาศข่าวหรือใช้เสียงในการทำงานน้อยมากที่เอฟซีเจนนี่จะรู้ คนอาจจะเห็นแค่ว่าคนนี้เป็นนักแต่งเพลง เป็นนักร้อง จะมีกี่คนที่รู้ว่าเราเป็นนักพูดอีกคนหนึ่งนะ สมัยเรียนหนูชอบทำอะไรที่เกี่ยวกับการพูดมากๆ แล้ววันนี้พอได้มาใช้ที่เรียนมามันคุ้มค่า ล่าสุดอาจารย์ที่สอนวิชาภาษาไทยโทร.มาแสดงความยินดีร้องไห้ครูภูมิใจในตัวเธอมาก เพราะวันนั้นที่อาจารย์พาหนูไปแข่งขันโต้วาทีระดับประเทศ อาจารย์ร้องไห้เพราะเจนนี่ไม่มีเงินค่ารถ แล้วเราได้แชมป์และได้ค่าเดินทางกลับมา ก็รู้สึกดีใจและภูมิใจกับสิ่งที่มันเกิดขึ้นในชีวิตในตอนนี้ค่ะ โชคดีมากที่ชีวิตกำลังลงตัวมีทุนในการทำงานแล้วโอกาสสิ่งที่เราชอบมันเข้ามา เจนนี่ไม่ปฏิเสธที่จะรับไว้เลย ตอบรับทันทีอยากทำพร้อมมากๆ ค่ะ อยากใช้วิชาที่เรียนมาให้เป็นประโยชน์ อยากให้ทุกคนเอ็นดูหนูให้โอกาสเราในการทำงาน”

คนมองว่าเจนนี่จะคู่กับดราม่า ?
“หนูห้ามดราม่าไม่ได้หรอก ร้อยคนร้อยความคิด จะไปบังคับให้คนที่ไม่ชอบมาชอบเรามันก็ยาก สิ่งเดียวที่ทำให้ได้คือแสดงศักยภาพออกมาให้เต็มที่ ที่เหลือให้เขาตัดสิน แล้วก็ให้ทางผู้ใหญ่ผู้จ้างงานตัดสินเราดีกว่า”

ตัวเราเองพยายามจะลบความดราม่าให้น้อยลง?
“ลดค่ะ ไม่มีใครอยากโดนด่าไปตลอดชีวิต เจนนี่พยายามปรับถ้าทุกคนสังเกตว่าหนึ่งปีนี้ตั้งแต่เจนนี่มีลูก เจนนี่ปรับตัวเองเยอะมาก ปรับจนสูญเสียความเป็นตัวเองจนแม่รู้สึกถามตลอดว่าเหนื่อยมั้ย อยากกลับไปเป็นเด็กตลกติ๊งต๊องคนเดิมมั้ย เราก็บอกแม่ว่า หนูไหว หนูชอบ จะทำให้ได้ หนูจะลบคำสบประมาทให้ได้ ถามว่ายากมั้ย มันก็ยาก แต่มันไม่ได้ยากจนเกินไป มันไม่ได้ยากเหมือนตอนที่เราหนีหนี้ ตอนที่เราเป็นหนี้มันยากกว่า ไปขายรองเท้าตากแดดตากฝนได้เงินน้อยยากกว่าเยอะเลย อันนี้แค่ปรับในบางเรื่องเพื่อให้ชีวิตดำเนินไปในเส้นทางที่สวยงาม ไม่ใช่เรื่องยากเลย”

มองเป้าหมายในการเป็นผู้ประกาศไปถึงขั้นไหน?
“เป้าหมายเรา ณ ตอนนี้คือหลังจากเทปแรกที่ได้ทำไป กลับไปชั่งใจทั้งคืนว่าเราชอบมันจริงมั้ย สรุปได้คำตอบว่าเราชอบ ก็เลยคิดในใจว่าก็คงดีนะถ้าได้ทำตรงนี้ไปตลอดชีวิต เป็นอาชีพหลักในการดำเนินชีวิต ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่ทุกอย่างมันก็ต้องมาพร้อมโอกาสจากผู้ใหญ่ อยากให้ทุกคนให้กำลังใจ อยากให้ผู้ใหญ่เอ็นดูหนูตลอดไป”

บางกระแสบอกว่าจะไม่เปิดดูช่องนี้ ถ้ามีเจนนี่?
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวสักวันก็ต้องกลับมา”

จากนี้จะเป็น นิวเจนนี่ สร้างความเชื่อถือให้กับทุกคน?
“ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าแฟนคลับเด็กๆ วัยรุ่นของเราเขาก็คงแปลกใจว่าพี่เจนนี่คนเดิมหายไปไหน ตอนนี้คนที่เป็นแบบอย่างในการอ่านข่าวของเรา ก็คือพี่แอน เขาอยู่ในวงการมานานมากแล้วพี่เขาให้คำแนะนำเราตลอด เราก็อยากเก่งแบบเขาให้ได้ ไม่มีเงาใดใดเลย ถ้าพูดไปคนก็จะคิดว่าเจนนี่จะไปแทนที่ใครไม่มีเด็ดขาด อยากเก่งให้ได้เหมือนพี่ๆ ในวงการทุกคนค่ะ อยากทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อยากเป็นตัวเองเพราะว่าพี่ผู้ใหญ่แนะนำว่าการจะเป็นนักข่าวที่ดีจะต้องไม่เป็นเงาใคร ต้องเป็นตัวของตัวเองเพราะการที่เขาเลือกเรา เขาอยากได้ความเป็นเจนนี่ ฉะนั้นแสดงความเป็นตัวเองออกมาให้มันบาลานซ์ให้ดีที่สุดไม่มากไม่น้อยจนเกินไป”

ยืนยันว่าไม่ได้มาเป็นเงา จิตดี?
“อุ้ย พี่เขาเป็นไอดอลค่ะ พี่จิตดีเก่งมากๆ ยินดีจะนำสิ่งที่พี่เขาแสดงออกมาปรับใช้กับเราให้ดีที่สุดไม่ได้คิดจะแทนที่ใคร เพราะความสามารถของเจนนี่ตรงนี้ยังน้อยมากถ้าเทียบกับรุ่นพี่ ยังต้องฝึกฝนอีกเยอะ อย่าเอาหนูไปเปรียบเทียบกับใครเลย”

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ