รุ่ยลี่, 13 ส.ค. (ซินหัว) — เมื่อวันพฤหัสบดี (12 ส.ค.) คณะกรรมการสุขภาพมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เปิดเผยกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ให้กำเนิดลูกแฝด 3 คน เมื่อวันพุธ (11 ส.ค.) ขณะรักษาตัวอยู่ในพื้นที่กักกันของโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ในเมืองรุ่ยลี่

นับเป็นครั้งแรกในจีนที่มีหญิงป่วยโรคโควิด-19 ให้กำเนิดทารกแฝดสามคน ซึ่งได้รับการทดสอบกรดนิวคลีอิกครั้งแรกด้วยการเก็บตัวอย่างจากน้ำคร่ำ สารคัดหลั่งในลำคอ และน้ำย่อย โดยผลตรวจเป็นลบทั้งหมด และปัจจุบันอยู่ภายใต้การดูแลของทีมแพทย์พยาบาลประจำหออภิบาลทารกแรกเกิดของโรงพยาบาลแห่งที่ 1 ในเครือมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์คุนหมิง

รายงานระบุว่าการดูแลรักษาผู้ป่วยหญิงรายนี้ในช่วงก่อนคลอดอาศัยความร่วมมือจากทีมแพทย์ชั้นนำระดับเมือง มณฑล และรัฐ จำนวน 32 คน ซึ่งเดินทางสู่เมืองรุ่ยลี่และวางแผนการรักษาเฉพาะบุคคลเพื่อป้องกันการคลอดก่อนกำหนด โดยมีแพทย์และพยาบาลคอยเฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

อย่างไรก็ดี อาการป่วยของว่าที่คุณแม่ทรุดลงจนกลายเป็นผู้ป่วยหนักอาการรุนแรงในวันที่ 12 ก.ค. ทำให้ทีมบุคลากรการแพทย์ต้องเฝ้าดูแลอย่างเข้มข้นจนสามารถประคับประคองอาการและทยอยลดความเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดลงได้ ช่วยให้เธอมีอายุครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 32 สัปดาห์

“อายุครรภ์ 32 สัปดาห์เป็นกรอบเวลาที่ดีกว่า เพราะทารกจะแข็งแรงแม้คลอดก่อนกำหนด โดยตอนนี้เราจับตาดูว่าเด็กจะมีภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดก่อนกำหนดหรือไม่ และอาการเจ็บป่วยของแม่มีผลกระทบต่อพวกเขาหรือเปล่า” เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลฯ กล่าว