ชายวัย 39 ปี ทำมาแล้วหลายกิจการ เปิดร้านอาหาร เจ๊งเกือบล้านเพราะโควิด ตัดสินใจขายที่ดิน พ่อเตือนสติ ก่อนเปิดให้เช่า กิ่งทุเรียน ล่าสุดคิวจองยาวถึงปีหน้า
วันที่ 29 พ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนทุเรียนพันธุ์หมอนทองและชะนีของ นายจักริน ฉัตรรุ่งเรืองชัย อายุ 39 ปี ตั้งอยู่ภายในหมู่บ้านซอย 14 ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี หลังจากได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านใน ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน ว่ามีคนจากหลายจังหวัดติดต่อนายจักริน ขอเช่ากิ่งทุเรียนของนายจักริน กระทั่งไม่พอต่อความต้องการ จนชาวสวนทุเรียนหลายสิบรายขอร่วมงานกับนายจักรินด้วย
เมื่อไปถึงพบนายจักรินกับลูกน้อง 3 คน กำลังตรวจสอบความสมบูรณ์ของกิ่งทุเรียนที่กำลังเริ่มมีผลผลิตเล็ก ๆ อย่างทุ่มเทและตั้งใจ ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวตรวจดูตามกิ่งทุเรียน พบว่ามีป้ายระบุชื่อคนจองกิ่งทุเรียนทุกกิ่ง ไม่หลงเหลือกิ่งใดให้เช่าอีกแล้ว
นายจักริน เปิดเผยว่า ที่มาของความคิดให้คนเช่ากิ่งทุเรียน มาจากความคิดอยากจะขายสวนทุเรียนเกือบ 2 ไร่ของตน ทั้งสวนในหมู่บ้านซอย 14 รวมทั้งสวนทุเรียนที่ จ.ตราด อีกกว่า 50 ไร่ เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ทำสวนมังคุดภายในสวนทุเรียนแล้วได้ราคาไม่คุ้มทุน แต่พอได้คำทักท้วงจากพ่อ บอกตนว่า ถ้าไม่ได้เป็นเจ้าของสวนทุเรียน หรือไม่มีสวนทุเรียนเป็นของตนเอง ยากจะได้กินทุเรียนดี ๆ
นายจักริน กล่าวต่อว่า จึงเกิดความคิดอยากให้คนไทยได้กินทุเรียนคุณภาพ เหมือนเป็นเจ้าของสวนทุเรียนเอง จนในที่สุดเกิดความคิดว่า ควรทำให้คนไทยได้เป็นเจ้าของสวนทุเรียนถึงแม้ว่าจะไม่มีสวนก็ตาม จึงเป็นมาของการให้เช่ากิ่งทุเรียนในที่สุด
“พอเกิดความคิดนี้และนำไปสู่การปฏิบัติ ปรากฏว่า มีคนขอเช่ากิ่งทุเรียนทุกต้นที่ผมมี ทั้งในหมู่บ้านซอย 14 และที่ จ.ตราด จนกระทั่งไม่มีเหลือให้เช่าอีกแล้ว ทั้งนี้ การเช่ากิ่งทุเรียน ผลผลิตทุกลูกในแต่ละกิ่ง ไม่ว่าจะได้มากหรือน้อย ผมยกให้คนเช่าทั้งหมด ไม่สนใจว่าราคาขายแต่ละลูกจะแพงเท่าไหร่ รวมทั้งยังรับประกันปริมาณผลผลิตให้ด้วย” นายจักริน กล่าว
นายจักริน กล่าวอีกว่า โดยแบ่งกิ่งเป็น 2 ขนาด ไซส์เอ รับประกันให้ 25 กิโลกรัมต่อ 1 กิ่ง และ ไซส์บี รับประกันให้ 18 กิโลกรัมต่อ 1 กิ่งเช่นกัน ถ้าผลผลิตได้ต่ำกว่านี้ ตนชดเชยให้ได้ครบตามจำนวนรับประกัน เพื่อให้คนเช่ามั่นใจเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ได้กินทุเรียนจากต้น ได้ทุเรียนตามที่รับประกันอย่างแน่นอน
นายจักริน กล่าวด้วยว่า การให้เช่ากิ่งทุเรียนได้ผลตอบรับดีมาก จากเดิมคิดว่าจะทำแค่ไม่กี่ต้น แต่กลับมีคนสนใจมากมาย สาเหตุที่ความคิดนี้ได้รับการยอมรับ ส่วนหนึ่งมาจากค่าเช่ากิ่งราคาไม่แพง ด้วยราคาเดือน 450 บาทต่อกิ่ง ค่าเช่านี้รวมการดูแลที่ตนทำให้ทั้งหมด ตั้งแต่ดูแล บำรุงต้น ให้ปุ๋ย น้ำ ป้องกันโรคและอื่น ๆ
“สรุปแล้วแต่ละกิ่งจะใช้เวลา 10 เดือน หรือตกปีละ 4,500 บาท ทุเรียนก็สามารถเก็บผลผลิตได้ คนเช่าจะได้กินทุเรียนสดจากต้น ไม่ต้องกลัวถูกหลอกเรื่องทุเรียนอ่อน ไม่ได้คุณภาพ และยังสามารถเลือกได้ด้วยว่า ต้องกินทุเรียนแบบไหน เช่น กรอบนอกนุ่มใน นุ่มมาก นุ่มปานกลาง หรือไม่สุกจนเกิดไป ซึ่งตนจะตัดทุเรียนให้ตามแต่ละช่วงเวลาที่ลูกค้าต้องการกินทุเรียนในแบบที่ลูกค้าชอบ รวมทั้งยังจะส่งผลผลิตให้จนถึงมือลูกค้าอีกด้วย” นายจักริน กล่าว
นายจักริน กล่าวว่า ก่อนที่จะมาเปิดให้เช่ากิ่งทุเรียน ตนล้มลุกคลุกคลานมาหลายอาชีพ เคยทั้งเปิดสำนักงานบัญชีกฎหมาย ทำโรงงานผลิตปูนซีเมนต์ ทำกิจการโน่นนี่นั่น ล่าสุดคือการเปิดร้านอาหาร ปรากฏว่าขาดทุนย่อยยับไปเกือบ 1,000,000 บาท เพราะทั้งปิดทั้งเปิดร้านตามสภาพโควิด จนลูกค้าเงียบหายแทบไม่มีเหลือ
นายจักริน กล่าวต่อว่า ต่อมาได้มาให้เช่ากิ่งทุเรียน ผลปรากฏว่าประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม มีผู้เช่ากิ่งเข้าสวนทุกวัน แต่ตนไม่กล้าเปิดรับคนเช่ามาก จะรับเท่าที่ดูแลให้ไหว ทุกวันนี้ก็มีคนเช่าแล้วเกือบ 200 คน ทั้ง ๆ ที่เพิ่งเปิดให้เช่ามาแค่ 2 เดือน และยังคงมีติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ แทบจะทุกวัน ตอนนี้มีคิวจองกิ่งยาวไปถึงปี 2565 หรือปีหน้าแล้ว
“หลังจากเราบอกไอเดียนี้ให้ชาวสวน ชาวสวนสนใจกันมาก เพราะอะไร เพราะเขาได้ค่าเช่ากิ่งทุกเดือน ไม่ต้องรอขายจนถึงช่วงเก็บเกี่ยว เขาก็พยายามเอาสวนตัวเองเข้ามาร่วมโครงการด้วย เราก็เลยคิดว่าถ้าเราหาลูกค้าได้เยอะก็จะเป็นการช่วยชาวสวนได้เยอะตามไปด้วย เป็นเรื่องน่าตกใจมาก มีชาวสวนขอเข้ามาร่วมกับผมมากจนไม่อยากจะเชื่อ วิธีนี้ชาวสวนจะมีรายได้มากขึ้น จากปกติช่วงฤดูผลไม้ออก ชาวสวนจะขายทุเรียนได้แพงสุด กิโลกรัมละ 140 บาท แต่ต้องเป็นทุเรียนที่สวยมาก หรือสภาพนางฟ้าเลย ต้องเป็นทุเรียนเกรดเอเท่านั้น แต่พอให้เช่ากิ่ง ชาวสวนจะได้ราคาเป็น กิโลกรัมละ 170 บาททุกลูก ทุกขนาดทั้งทุเรียนสวยและไม่สวย มีรายได้ทุกเดือนจากการให้เช่ากิ่งด้วย ไม่ต้องง้อพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป” นายจักริน กล่าว
นายจักริน กล่าวอีกว่า ขอเพียงชาวสวนทำทุเรียนให้ดีที่สุด จะทำให้มีคนติดต่อเข้ามามากขึ้นเอง เพราะต่างอยากได้ทุเรียนคุณภาพ ที่สำคัญ การทำแบบนี้ชาวสวนมีความสุขกันมาก เพราะรู้ว่า กำลังดูแลทุเรียนให้ใครกิน สำคัญกว่านั้น ในอนาคตตนอยากให้ทุเรียนจากต้นไปถึงมือคนกินโดยตรง อยากให้ชาวสวนกับคนกินได้เจอกัน ไม่ต้องผ่านใครทั้งสิ้น จะได้รู้ความต้องการของคนกิน ชอบกินทุเรียนแบบไหน ชาวสวนจะได้ทำให้ตามความต้องการ
นายจักริน กล่าวต่อว่า รวมทั้งตนยังอยากทำทุเรียนให้มีราคามีค่ามากขึ้นไปอีก อยากให้เหมือนประเทศญี่ปุ่นที่ทำสินค้าการเกษตรมีมูลค่ามาก ทุเรียนเป็นผลไม้ล้ำค่า เป็นผลไม้ที่สำคัญของคนไทย ก็น่าจะทำได้เช่นเดียวกัน