วันที่ 23 ก.พ. บีบีซี รายงานว่า รัฐบาลฮ่องกงมีคำสั่งบังคับตรวจโควิด-19 พลเมืองบนเกาะทั้งหมด 7.5 ล้านคน ขณะต่อสู้กับการติดเชื้อของไวรัสโคโรนา 2019
นางแคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง กล่าวว่า ผู้อาศัยจะต้องเข้ารับการตรวจ 3 รอบ ซึ่งเริ่มตั้งแต่กลางเดือนมี.ค.
“หนึ่งถึงสามเดือนที่จะมาถึงเป็นสิ่งสำคัญในการต่อสู้กับโรคระบาดใหญ่ โรคระบาดที่เลวร้ายลงอย่างรวดเร็วนี้เกินความสามารถของรัฐบาลฮ่องกงที่จะจัดการกับมัน” นางหล่ำกล่าว
นับเป็นครั้งแรกที่ทุกคนในฮ่องกงจะได้รับการตรวจโควิด-19 ซึ่งเป็นนโยบายที่ประกาศใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกัน โดยฮ่องกงพยายามปฏิบัติตามนโยบาย “โควิดเป็นศูนย์” ของจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เชื้อโอมิครอนที่แพร่ระบาดง่าย ทำให้โรงพยาบาล สถานที่ตรวจโควิด และสถานที่กักกัน รองรับไม่ไหว
นโยบายดังกล่าวคือพยายามกำจัดการติดเชื้อโดยการตรวจแต่เนิ่นๆ การติดตามผู้ติดเชื้อโดยละเอียดและการกักตัวที่เข้มงวด และข้อจำกัดการเดินทาง สวนกับส่วนอื่นๆ ของโลกที่กำลังเรียนรู้เพื่ออยู่กับโรคนี้
ขณะที่ฮ่องกงมีรายงานผู้ติดเชื้อใหม่อีก 6,211 คนเมื่อวันอังคารที่ 22 ก.พ. แต่คาดว่าตัวเลขจริงจะสูงกว่ามาก
ทั้งนี้ ฮ่องกงเคยได้รับการยกย่องในการการควบคุมโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้การติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่เชื้อโอมิครอนระบาด
ในช่วง 2 ปีแรกของการระบาดใหญ่ ฮ่องกงมีผู้ป่วยเพียง 12,650 คน เสียชีวิตเพียง 200 ราย ต่ำกว่าเมืองอื่นๆ ที่มีขนาดใกล้เคียงกันส่วนใหญ่ แต่จำนวนผู้ป่วยทั้งหมดเพิ่มขึ้น 5 เท่าตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้