อุ้ม ทวีพร เคลียร์ดราม่า คนมงไม่ปัง! เจอเปรียบเทียบ ไม่ดังเท่า อิงฟ้า เปิดสถานะหัวใจ ยอมรับเป็น LGBTQ เผยไปมูที่ฮ่องกง ผูกด้ายผิดฝั่ง ผู้ชายหนีหายกระเจิง
อุ้ม ทวีพร พริ้งจำรัส มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 เปิดใจหลังได้รับตำแหน่งคนล่าสุด พร้อมเคลียร์ทุกประเด็นดราม่า กระแสแฟนคลับนางงามบูลลี่ ตอบคอมเมนท์ชาวเน็ต คนมงไม่ปัง เหมือนรุ่นพี่ อิงฟ้า วราหะ ทำเอาสาวอุ้มเครียดสุดๆ ทั้งย้อนเล่าวีรกรรมสุดแสบในวัยเด็ก พร้อมเปิดใจเรื่องความรักและยอมรับว่าเป็น LGBTQ ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บshow ทางช่องOne31 ที่มีบูม สุภาพร และพีเค ปิยวัฒน์ ดำเนินรายการ
ต้องปรับตัวเยอะมั้ย? อุ้ม : “ปรับเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลย ก่อนหน้านี้ไม่มีใครรู้จัก แต่วันนี้เราไปไหนมาไหนมีคนรู้จักมากขึ้น ตรงนี้ต้องปรับตัวเยอะมาก แต่เป็นสิ่งที่ดีและอุ้มก็ดีใจมากๆ วันนี้หน้าที่การงานมีมากขึ้น มันเปลี่ยนชีวิตอุ้มมากจริงๆ”
วันที่ได้ตำแหน่งวินาทีนั้นคิดอะไร? อุ้ม : “ตอนที่ตอบคำถามเสร็จ ค่อนข้างมั่นใจว่าจะมง ตอนแรกไม่มั่นใจขนาดนั้น คิดว่าแค่น่าจะเข้าลึก ด้วยประสบการณ์อะไรหลายอย่าง เราถือเป็นตัวเต็งคนนึงเลย แต่พอไปตอบคำถามเสร็จแล้วเดินกลับมา เราเห็นหน้าเพื่อนก็คิดว่ามงแน่ๆ”
สลับตำแหน่งบนเวทีเพราะเป็นเคล็ด? อุ้ม : “หนูกับเทียทำฟาร่าคนละฝั่ง ถ้ายืนแล้วเราหันข้างเหมือนกัน ถ้าไม่สลับผมจะบังหน้า เลยสลับกัน ไม่ได้ถือเคล็ดอะไร”
ได้มงดราม่าหนักกว่าเดิม? อุ้ม : “วันที่มงกระแสตอบรับดีมาก พอตื่นเช้ามาอีกวันดราม่าเยอะมาก ดราม่าพอกผิวไม่ภูมิใจในตัวเองหรอ หนูได้รับคำแนะนำจากบอสมาว่าให้เปลี่ยนลุกส์มั้ย ลองหวานดูมั้ย เราปรึกษากับทีมว่าจะทำอะไร เราเป็นคนผิวแทนเลยคิดว่างั้นลงผิวขาวไปเลย แต่มันไม่ได้ ผิดกฏ หนูก็ปล่อยผ่านไม่ได้ทำให้ซีเรียส”
คอมเมนต์อะไรที่ทำให้เราซีเรียส? อุ้ม : “หนูเป็นคนที่ตัดเรื่องพวกนี้ได้เก่งมาก เรื่องที่เขาว่ามันไม่ได้รุนแรงหรือส่งผลกระทบต่อใครมากขนาดนั้นค่ะ ส่วนเรื่องที่กระทบจิตใจหนูมากๆ เป็นเรื่องดราม่ากับพี่ณวัฒน์ อันนั้นทำให้หนูเครียด ตอนนั้นหนูยังอยู่ในฐานะผู้เข้าประกวด อีกอย่างหนูทำให้องค์กรถูกพาดพิง เป็นสิ่งที่ทำให้หนูซีเรียสมาก หนูก็ขอโทษและก็โพสต์ในโซเชียลให้ชัดเจนว่าเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเรา คนที่ผิดในเรื่องนี้มีหนูคนเดียว”
คิดว่าจะถูกเด้งมั้ย? อุ้ม : “หนูคิดเลยจังหวะนั้น หนูกลับเข้ามาประกวดคิดอย่างเดียวว่าต้องมงพอเจอ ดราม่าทำให้หนูสบายใจขึ้น หนูลดความคาดหวังไปเลย หนูบอกแฟนคลับว่าโอเคมั้ยถ้าหนูไม่ได้ไปถึงที่พวกเขากำลังซัพพอร์ต เขาบอกไม่เป็นไร แล้วพี่สู้มั้ย ถ้าเราสู้เขาก็สู้ ตอนนั้นมันเสียใจกับตัวเอง ทำไมเราคิดน้อยอย่างนั้น เราทำการบ้านมาดี แต่ทำไมเราพลาดในส่วนนั้นไป”
อะไรทำให้ปีนี้รู้สึกว่าต้องมง? อุ้ม : “เป็นเวทีประกวดแรกของชีวิตหนู ตั้งใจจะมาปิดเส้นทางการประกวดนางงามในเวทีแรกให้เป็นเวทีสุดท้ายเช่นกัน เลยเลือกจะมาที่นี่ หนูมั่นใจว่ากลับมาครั้งนี้เตรียมตัวมาดีมาก หนูอยากกกลับมาเวทีที่เป็นเหมือนบ้านของหนู อยากกลับมาในปีที่มั่นใจว่าสวยที่สุด”
มีดราม่ากับ อิงฟ้า วราหะ? อุ้ม : “ปีพี่อิงฟ้า คืออิงฟ้ามหาชนจริงๆ ทุกคนรู้จัก แล้วไม่ใช่แค่ในประเทศรวมถึงต่างประเทศ มันเป็นปีที่บูมมากๆ พอมาถึงปีหนูคนก็เริ่มคาดหวัง ปังไม่เท่า ดังไม่เท่า เขาตีข่าวเข้ามา แต่ตัวหนูไม่เครียด ไม่รู้สึกอะไรเลย ที่หนูตัดสินใจมาประกวดหนูรู้อยู่แล้วค่ะว่าหายาก นางงามที่จะเป็นแบบพี่ฟ้า ไม่เคยเอาตัวเองไปเทียบกับเขาเลย ความสวยเป็นเรื่องปัจเจกแต่สุดท้ายแล้วโชคชะตาไม่เหมือนกัน หนูอยากจะทำให้ดีที่สุดในเวย์ของหนู หนูไม่เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับพี่เขาเลยสักครั้ง แต่อยากกลับเข้ามาสร้างตัวตนใหม่ มาหาจุดยืนของตัวเอง แล้วก็มาหาเงิน หนูไม่ได้เก็บเอามาเป็นปมในใจ”
เป็นลูกรักของบอส? อุ้ม : “ไม่อยากให้มองว่าเป็นลูกรัก อยากให้ถามว่าทำยังไงให้เขารักและเอ็นดูหนูมากกว่า เพราะหนูเป็นคนไม่เถียงแต่เป็นคนทำ หนูพยายามปรับพยายามแก้ไข และหนูเป็นคนมีความพยายาม บางอย่างมันเหนื่อยมาก สุดท้ายอุปสรรคมันทำให้มงเราขลัง”
กระแสจิ้น? อุ้ม : “กับมีนาค่ะ มีนเบ๊บ ด้อมของหนูจะเรียกกันเตงเบ๊บ จนกลายเป็นติด เวลาเขาเรียกเบ๊บ เราก็หันเลยเพราะรู้ว่าเขาเรียกเรา มันเกิดมาจากคนเอาคลิปหนูมาตัดกันแล้วใส่เพลงให้มันน่ารัก แต่บทสนทนาไม่ได้น่ารักเลย หนูกับมีนาสนิทกันอยู่แล้ว นิสัยคล้ายๆ กัน คุยกันรู้เรื่อง”
ก็อปกระแสจิ้น? อุ้ม : “อุ้มกับมีนามาอยู่ด้วยกันจนเกิดกระแสคู่จิ้น มันเกิดตามธรรมชาติ โดยที่เราไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าเกิดขึ้นได้ยังไง ตัวอุ้มเคยปรึกษากับมีนามันจะอึดอัดมั้ย คนเขาคาดหวังอยู่ด้วยกัน อยากให้มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน อยากให้เป็นแฟนกัน เพื่อนก็บอกไม่เป็นไรหรอก เราก็เป็นตัวเราเองดีกว่า ถ้าจะมองเป็นการแสดงหรือจัดฉากแต่อยากบอกคนที่รักมากกว่าดีใจที่เป็นส่วนนึงที่ทำให้มีความสุข เราจะเป็นตัวเราในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด ขอบคุณการซัพพอร์ตค่ะ”
ตอนเด็กเกือบไม่ได้เรียนต่อ? อุ้ม : “บ้านอยู่ต่างจังหวัด สมัยที่เรียนช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ บางคนมีครอบครัวไปเร็ว มันเป็นเรื่องปกติมากในยุคของหนู แม่ค่อนข้างจะเลี้ยงหัวโบราณหวงมาก รอบบ้านไปมีครอบครัวไปหมดแล้ว เขาอยากตัดไฟตั้งแต่ต้นลม งั้นไม่ต้องไปเรียนแล้วกันให้อยู่ทำไร่ หวงมาก หนูก็ไม่ยอม หนูอยากเรียน หนูอยากมาเป็นสาวกรุงเทพฯ”
มาประกวดแม่หวงมั้ย? อุ้ม : “ญาติก็ช่วยให้ไปเถอะ ความฝันคืออยากสวย หนูบอกไม่ต้องส่งหนูเรียนก็ได้ หลังจากนี้จะรับผิดชอบชีวิตตัวเอง พี่สาวก็ช่วย แม่ก็โอเคเพราะหลายคนช่วยกันพูด เรามาสอบได้ที่เรียนก็เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เราก็เป็นนักศึกษาทั่วไปประกวดดาวเดือน เริ่มจับทางถูกเราก็ไปทำงานที่ได้ค่าขนมมาบ้าง ก็เก็บเงินทำจมูก หนูจะสวยคิดว่าต้องสวย”
ทำจมูกชีวิตเปลี่ยน? อุ้ม : “เปลี่ยนเลย มาเจอกับคุณแม่คนนึงเขาบอกประกวดนางงามมั้ย ก็ขอทำหน้าอกก่อน หลังจากนั้นเข้าเวทีมิสแกรนด์ 2017 หนูไปดูมิสแกรนด์อินเตอร์ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้บัตรฟรี บอกพี่ๆ ตรงนั้นว่าคอยดูนะวันนึงหนูจะไปยืนตรงนั้น ทุกอยางในชีวิตมันมีสตอรี่ว่าหนูเคยพูดไว้จะทำให้ได้ อาจจะช้าไป แต่วันนึงเราทำสำเร็จ”
ประกาศเป็น LGBTQ สเป๊กเป็นยังไง? อุ้ม : “สเป๊กผิวเผินคือชอบคนขาว แต่ไม่ได้ติดต้องเป็นเพศอะไร คบคนเลือกที่ตัวบุคคล”
ถ้าจะมีใครต้องไปขอบอสมั้ย? อุ้ม : “บอสไม่ห้ามหนูเลยนะ แต่ยังไม่ได้เข้าไปนั่งเปิดใจคุย หนูโสดอยู่แล้วไงคะ ทำงานก่อน”
ไปทาง LGBTQ เพราะมูเตลู? อุ้ม : “ไปฮ่องกง ครั้งแรกที่ไป ไปผูกด้ายแดง มัวแต่ถ่ายรูป จะมีคนบอกว่าต้องทำยังไงบ้าง เราไม่ได้ฟัง ก็ไปผูกเสร็จก็วิ่งออกมา เราผูกผิดฝั่งไปผูกฝั่งผู้หญิง แต่ปกติชีวิตหนูไปไหนมาไหนก็มีผู้ชายเข้ามาจีบ ไม่คิดว่าตัวเองเป็นเทสของกลุ่ม LGBTQ พอกลับมาจากฮ่องกง มาจากไหนไม่รู้ ผู้ชายหายไปหมดเลย ใช้คำว่ากระเจิง”
คลิปสัมภาษณ์ อุ้ม ทวีพร