ฮือฮาเกจิดังรุมส่องเลขกระจกหน้ารถเลขทะเบียน อึ้งกระบะเหินข้ามเลนพุ่งจะชนเบนซ์หลวงปู่ศิลา จู่ๆรถหยุด เชื่อปาฏิหาริย์และบารมีพระเกจิดัง
เปิดคลิปกล้องหน้ารถบันทึกภาพรถกระบะเสียหลักเหินข้ามเลนกลางถนนสายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร หวิดชนรถเบนซ์หลวงปู่ศิลา อยู่ๆรถหยุด คนขับหักหลบทัน ลูกศิษย์เชื่อปาฏิหาริย์และบารมีหลวงปู่นั่งมาด้วยทำให้รอดหวุดหวิด
จากกรณี เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ ชนะวุธ อุทโท โพสต์ภาพและข้อความว่า “วิดีโอหน้ารถเบนซ์หลวงปู่ศิลา” เป็นคลิปจากกล้องหน้ารถของหลวงปู่ศิลา ขณะกำลังเดินทางจากกาฬสินธุ์ ไปงานเจริญพระพุทธมนต์ ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ แต่จู่ๆได้มีรถกระบะเสียหลักขับข้ามเลนมาเกือบจะพุ่งชนรถขอหลวงปู่ แต่ด้วยเหตุใดก็ไม่ทราบได้ รถกระบะคันดังกล่าวชะลอหยุดได้ก่อนที่จะถึงรถหลวงปู่เพียงแค่นิดเดียว ทำให้คนขับรถหักหลบได้ทัน ซึ่งคนขับรถและลูกศิษย์ต่างก็เชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่ศิลา และแน่นอนว่าหลังจากมีการโพสต์คลิปดัง ก็มีชาวเน็ตเข้ามาคอมเมนต์เเละมีการเเชร์เป็นจำนวนมาก
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดพระธาตุหมื่นหินบ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ. กาฬสินธุ์ ซึ่งไม่พบหลวงปู่ศิลา เนื่องจากเดินทางกลับสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่จำพรรษาแล้ว จึงได้สอบถาม นายจารุวัฒน์ ภูมีเขียน อายุ 35ปี คนขับรถของหลวงปู่ศิลา โดยนายจารุวัฒน์ เล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนได้ขับรถเบนซ์ ทะเบียน 6กฐ 9571 กรุงเทพมหานคร พาหลวงปู่เดินทางออกจาก จ.กาฬสินธุ์ได้ประมาณ 30นาที วิ่งถนนสายกาฬสินธุ์-มุกดาหาร
พอมาถึงจุดเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.30 น. ช่วงบริเวณบ้านภูเขาทอง อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด ตนก็ได้คุยกับหลวงปู่ว่าบ้านภูเขาทองอยู่เขตอำเภอไหนหลังจากคุยกันเสร็จก็มีรถกระบะขับเสียหลักข้ามเลนมาตัดหน้ารถของหลวงปู่ศิลา
ตอนนั้นตนเองรู้สึกตกใจมาก แต่หลวงปู่ก็บอกว่าให้ขับรถรีบๆโดยพูดเป็นภาษาอีสานว่าฟ้าวๆ แล้วตนก็ได้เหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วขึ้นจนรถพ้นจากรถกระบะคันดังกล่าว ก่อนที่หลวงปู่จะถามด้วยความเป็นห่วงว่ามีใครเป็นอะไรไหม แล้วในความโชคร้ายก็มีความโชคดี คือ รถนำขบวนหลวงปู่เป็นรถกู้ภัยของมูลนิธิหลวงปู่มหาศิลา สิริจันโท-ฮงเต็กเสี่ยงตึ๊ง-อําเภอเขาวง
หลังเกิดเหตุรถกู้ภัยจึงได้กลับรถเพื่อมาช่วยเหลือรถกระบะคันที่ประสบอุบัติเหตุและโชคดีที่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเเต่สภาพรถกระบะพังเสียหายทั้งคัน หลังจากที่เจ้าที่กู้ภัยได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเเล้วก็ได้นำส่งโรงพยาบาล จากนั้นตนเองก็ได้พาหลวงปู่เดินทางมางานเจริญพระพุทธมนต์ต่อไป
นายจารุวัตน์ ยังกล่าวอีกว่า ก่อนที่จะเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์หลวงปู่ได้กำชับให้นำรถคันที่หลวงปู่ใช้เป็นพาหนะไปเช็คช่วงล่าง โดยเปลี่ยนโช้ครถทั้งหมดเพิ่งจะเสร็จเรียบร้อยเมื่อวานและรถก็ยังไม่ได้มีการทอดสอบเลย หลังจากที่ซ่อมเสร็จก็นำมาใช้งานในวันนี้พาหลวงปู่มางานเจริญพระพุทธมนต์ที่วัดพระธาตุหมื่นหิน บ้านทุ่งกระเดา อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์แล้วก็ไม่เจอกับเหตุการณ์การดังกล่าว สำหรับตนเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของหลวงปู่จึงสามารถผ่านเหตุการณ์นี้มาได้ เชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ เพราะในรถนั้นมีพระของหลวงปู่ตั้งอยู่หน้ารถที่เพิ่งนำมาวางไว้เมื่อเช้าเเละตนเองก็แขวนพระของหลวงปู่ติดตัวตลอดเวลาด้วย
สำหรับหลวงปู่พระมหาศิลา สิริจันโท แห่งสวนสงฆ์แกแปะ วัดโพธิ์ศรีสะอาด ต.เชียงเครือ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ มีนามเดิมชื่อ ศิลา นิลจันทร์ เกิดเมื่อ 14 ตุลาคม พ.ศ.2488 เป็นพระเกจิเรืองวิทยาคมอีกรูปหนึ่งแห่งภาคอีสาน มีวัตรปฏิบัติดี สมถะ เรียบง่าย เสมอต้นเสมอปลาย ได้รับความเลื่อมใสศรัทธา ปัจจุบัน สิริอายุ 76 ปี พรรษา 55 บรรพชาเป็นสามเณร เมื่อครั้งอายุ 15 ปี ณ วัดธาตุประทับ และอุปสมบท สังกัด มหานิกาย เมื่อปี พ.ศ.2509 ณ วัดบูรพาภิราม จ.ร้อยเอ็ด โดยพระสิริวุฒิเมธี (เจ้าคณะ จ.ร้อยเอ็ดสมัยนั้น) หลวงปู่พระมหาศิลา ศึกษาปริยัติอย่างมุ่งมั่น จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก และเปรียญธรรม 6 ประโยค รับพัดเปรียญกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร.9 เมื่อปี พ.ศ.2515 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม และได้รับหน้าที่เป็นพระอาจารย์สอนที่ รร.วัดนิคมคณาราม จ.ร้อยเอ็ดและรับหน้าที่เป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ในการลงอุโบสถของคณะสงฆ์ตลอดมา
เมื่อแตกฉานด้านปริยัติแล้ว หลวงปู่พระมหาศิลา ได้จาริกแสวงบุญ ปลีกวิเวกไปหลายจังหวัด เช่น จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ชัยภูมิ ได้เดินธุดงค์ ป่า ณ ภูเขา อ.สังคม จ.หนองคาย สู่ภูเขาควาย สปป.ลาว ในปี พ.ศ.2517 เดินทางไปกับหลวงพ่อบ้านชาติ วัดบ้านชาติ จ.ร้อยเอ็ด (มรณภาพแล้ว)ได้พบกับครูบาอาจารย์มากมาย เช่น หลวงปู่ทองมา ถาวโร , หลวงปู่มหาบุญมี สิรินธโร, หลวงปู่ลี กุสลธโร และเป็นสหธรรมมิกกับครูบาอาจารย์หลายรูป เช่น หลวงพ่อสมาน ธัมรักขิตโต , หลวงปู่หนู อินทวัณโณ , หลวงปู่สมสิทธิ์ รักขิสีโล , หลวงปู่ล้อม สีลสังวโร
หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ร่ำเรียนวิปัสนาและเรียนอักษรธรรมลาว และอ่านหนังสือจากใบลานอีสานได้อย่างแตกฉาน และได้ศึกษาคัมภีร์ใบลานสายสมเด็จลุนจาก สปป. ลาว หลายฉบับ ศึกษาจนแตกฉาน
ตั้งแต่ปี พ.ศ.2550 เป็นต้นมา หลวงปู่พระมหาศิลา ได้ปลีกวิเวกหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าช้าร้างหลายแห่ง จนหลวงพ่อเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ซึ่งเคารพนับถือท่านมาก ได้กราบนิมนต์ท่านมาจำพรรษาที่วัด โดยหลวงปู่ประสงค์จะปลีกวิเวก ณ สวนสงฆ์บ้านแกเปะ เหล่าศิษยานุศิษย์จึงร่วมกันสร้างกุฏิถวาย หลวงปู่ได้จำพรรษาตลอดมาพระธรรมรัตนดิลก เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้มีความเลื่อมใสในองค์หลวงปู่ ได้นิมนต์ท่านขึ้นไปร่วมงานพุทธาภิเษกพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ และหลายๆวัดในภาคอีสานจะกราบอาราธนาหลวงปู่ไปร่วมแทบทุกงาน เนื่องจากเหล่าศิษยานุศิษย์ได้ประจักษ์แก่สายตา เรื่องพุทธาคม วัตรปฏิบัติ ความเมตตา ความสันโดษ และเรื่องญาณหยั่งรู้ที่ท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าอย่างน่าอัศจรรย์