ของแสลง อาร์เซนอล

ก่อนเกม หลายคนมองว่าเกมนี้ อาร์เซนอล มีโอกาสสูงที่จะล้างตาเสือใต้ได้สำเร็จ เนื่องจากฟอร์มการเล่นที่ดูดีกว่า เพราะปืนใหญ่สามารถยกระดับตัวเองขึ้นมาจนเป็นทีมลุ้นแชมป์ แถมปีนี้ บาเยิร์น มิวนิค เองก็เล่นผิดฟอร์มจนจ่อจะพลาดแชมป์ลีก ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้ยังเล่นในเอมิเรตส์ สเตเดียม นั่นน่าจะทำให้ทีมของ มิเกล อาร์เตตา มีโอกาสเปิดรังล้างแค้นได้ หลังจากช่วงที่ผ่านมาโดนพี่เสือยำเละมาโดยตลอด

แต่เกมนี้มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลย แม้ปืนใหญ่จะพยายามเปิดเกมบุกเข้าใส่และออกนำก่อน แต่ บาเยิร์น มิวนิค เองก็ตั้งรับได้ดีแถมยังฉวยโอกาสจากความผิดพลาดจนแซงกลับมานำ 2-1 นั่นทำให้ อาร์เซนอล ต้องเหนื่อยกว่าจะไล่ตีเสมอได้ ยิงไปกว่านั้นยังเกือบจะโดนคาบ้านจากลูกยิงของ คิงส์เลย์ โกม็อง ที่ไปชนเสาช่วงท้ายเกม รอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดในที่สุด
ความผิดพลาดที่ถูกลงโทษ

รูปเกมในวันนี้ อาร์เซนอล ดูดีกว่าในเรื่องการครองบอลก็จริง แต่นั้นดูเหมือนจะเป็นแผนของ โธมัส ทูเคิล ที่วางไว้อยู่แล้ว กับการตั้งรับอย่างใจเย็นและรอสวนกลับ ยิ่งไปกว่านั้น วันนี้แผงหลังปืนใหญ่กลับเล่นผิดฟอร์ม จากที่เคยแข็งแกร่งดังหินผา วันนี้พวกเขากลับมีจังหวะผิดพลาดง่ายๆ ซึ่งหากเป็นในลีกอาจจะรอดไป แต่นี่คือ บาเยิร์น มิวนิค ทีมระดับหัวแถวของทวีปที่สามารถฉวยโอกาสเอาไว้ได้อย่างเฉียบคม ทั้งจากการส่งบอลพลาดในแดนหลังจนโดนสวนกลับและเป็นประตูตีเสมอ รวมถึงการเปิดพื้นที่ให้ ลีรอย ซาเน ได้เลี้ยงจนไปพลาดทำฟาวล์ในกรอบและเสียจุดโทษโดนแซงนำ 2-1 ในครึ่งเวลาแรก
ซากา ไม่น่ารีบล้ม

อีกหนึ่งในจังหวะไฮไลต์ของเกมนี้อยู่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บของครึ่งหลังที่ บูกาโย ซากา ได้โอกาสหลุดเดี่ยวเข้ากรอบเขตโทษ ก่อนจะล็อกหลบ มานูเอล นอยเออร์ ได้ แต่มีจังหวะขาไปสะกิดกันเล็กน้อยซึ่ง ซากา ตัดสินใจทิ้งตัวล้มและสุดท้าย VAR เช็กแล้วก็ไม่ได้จุดโทษ

ซึ่งจังหวะดังกล่าวค่อนข้างชัดเจนว่าปีกจอมพลิ้วรายนี้ “มุ่ง” จะเอาจุดโทษมากเกินไปจนพลาดโอกาสสำคัญ เพราะหากเจ้าตัวเลือกยิงจังหวะแรก หรือหลังจากล็อกผ่านแล้วมุ่งมั่นจะเล่นต่อ โอกาสในการส่งบอลเข้าประตูคงมีมากกว่านี้แน่ แต่นี่เลือกที่จะทิ้งตัวทั้งที่การปะทะก็เป็นการลากขาไปหา นอยเออร์ ชัดเจน
เลกสองเหนื่อยแน่ๆ

โชคดีที่ปีนี้กฎ “อะเวย์โกล” ไม่ถูกนำมาใช้ นั่นทำให้แม้จะเสียสองประตู แต่สำหรับ อาร์เซนอล ก็ยังเท่ากับว่า “เสมอ” ไม่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบแต่อย่างใด แต่… นั่นหมายความว่า หากพวกเขาจะผ่านเข้ารอบไปได้ พวกเขาต้องบุกไปอัดเสือใต้ถึงถิ่นอัลลิอันซ์ อารีนา ทั้งที่เกมนี้เล่นในบ้านยังเกือบไม่รอด ซึ่งต้องบอกเลยว่าลุ้นกันเหนื่อยแน่นอน และอาจมีเกมยาวถึงจุดโทษสองรอบติดก็เป็นได้

ขณะที่คู่แข่งในรอบถัดไปก็ยังไม่ชัดเจน เพราะเรือใบสีฟ้าเองก็ทำได้เพียงบุกไปเสมอกับ เรอัล มาดริด แบบยิงกันอุตลุด 3-3 ต้องไปลุ้นกันในเลกสองที่เอติฮัด สเตเดียม ต่อเช่นกัน โดยทั้งสองคู่จะลงแข่งพร้อมกันในคืนวันพุธที่ 17 เมษายน แฟนตัวจริงของทั้งสองทีมห้ามพลาด!