อายุแค่ 19 เพิ่งแต่งงานหมาดๆ ตรวจเจอ "โรคร้าย" ระยะสุดท้าย เผยสัญญาณก่อนฝันร้าย!

Home » อายุแค่ 19 เพิ่งแต่งงานหมาดๆ ตรวจเจอ "โรคร้าย" ระยะสุดท้าย เผยสัญญาณก่อนฝันร้าย!
อายุแค่ 19 เพิ่งแต่งงานหมาดๆ ตรวจเจอ "โรคร้าย" ระยะสุดท้าย เผยสัญญาณก่อนฝันร้าย!

ป่วย “มะเร็ง” ระยะสุดท้าย ตอนอายุแค่ 19 ปี และเพิ่งแต่งงานได้เพียง 1 เดือน สาวแชร์สัญญาณโรคร้ายที่มองข้ามไม่ได้

เว็บไซต์ SOHA รายงานเรื่องราวของหญิงสาวชาวเวียดนามคนหนึ่ง ที่ออกมาแบ่งปันการเส้นทางการรักษามะเร็ง และจิตวิญญาณในการต่อสู้กับโรคร้าย โดยหวังว่าจะกระตุ้นให้ผู้ป่วยรายอื่นๆ ต่อสู้อย่างหนักและเอาชนะมาได้เช่นกัน

โดยเธอเล่าว่าตนเองเกิดเมื่อปี พ.ศ.2543 และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะที่ 4 ระหว่างการตรวจสุขภาพทั่วไปในปี พ.ศ.2562 ซึ่งขณะนั้นเธอมีอายุเพียง 19 ปี เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามะเร็งต่อมน้ำเหลืองชนิดฮอดจ์กิน (Hodgkin Lymphoma) คืออะไรกันแน่ ได้เพียงถือผลการวินิจฉัยไว้ในมือ และเข้าค้นหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต

“ตอนที่ฉันกลับถึงบ้านตอนกลางคืน ฉันคิดว่าทุกอย่างเป็นแค่ฝันร้าย ถ้าหลับแล้วมันจะหายไป แต่เมื่อตื่นขึ้นมา มันก็ยังคงเป็นจริง” หญิงสาวยังเล่าด้วยว่า เมื่อตอนที่รู้ว่าตนเองป่วยโรคร้ายนั้น หญิงสาวเพิ่งแต่งงานได้เพียงเดือนเดียวเท่านั้น เธอร้องไห้ขณะบอกเล่าผลวินิจฉัยให้สามีซึ่งเพิ่งบินกลับไปสหรัฐฯ ทราบ

ก่อนหน้านี้มีการแสดงอาการของโรค โดยเธอพบว่าคอของตนเองใหญ่กว่าปกติ แต่เมื่อไปตรวจต่อมน้ำเหลืองก็อะไรร้ายแรง ตอนนั้นแพทย์ให้ใบสั่งยาแก่เธอ และแนะนำให้เธอกลับมาตรวจสุขภาพอีกครั้งหลังจากผ่านไปหนึ่งเดือน แต่สุดท้ายเธอก็ไม่ได้ไปตรวจซ้ำ ไม่ได้สนใจสุขภาพเท่าที่ควรและเลือกจะเพิกเฉย กระทั่งเมื่อตรวจพบโรคก็อยู่ในระยะสุดท้าย

ในปี พ.ศ.2561 เธอมักจะรู้สึกคลื่นไส้ในตอนเช้า และมักเป็นหวัดในช่วงบ่าย นอกจากนี้เธอยังมีอาการปวดหลังและไม่สามารถนั่งเป็นเวลานานได้ แต่ตอนนั้นคิดเพียงว่าเป็นหวัดหน้าฝน ไม่คิดว่าจะเป็นสัญญาณเตือนมะเร็ง หลังจากนั้นก็มีก้อนที่คอขึ้นมาอีกครั้ง และหายไปเองอีกครั้ง เธอจึงคิดว่าเป็นต่อมน้ำเหลืองที่ไม่ร้ายแรงเหมือนครั้งที่แล้ว เลยไม่ได้ไปหาหมออีก

กระทั่งหนึ่งปีต่อมา เมื่อต่อมน้ำเหลืองที่คอปรากฏขึ้นอีกครั้ง เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติจึงไปหาหมอ โดยคิดว่าน่าจะเป็นโรคคอพอก ไม่คิดว่าจะเป็นมะเร็งร้ายแรง…

  • พนง.อายุน้อย ล้มตึงเป็นอัมพาต เพราะ 2 เมนูโปรด หมอเตือนหนุ่ม-สาว กินแทบทุกคน!
  • หญิงวัย 33 อาเจียน-เวียนหัว คิดว่าแพ้ท้อง ไปหาหมอถึงกับทรุด เหลือเวลาชีวิตแค่ 6 เดือน

ต่อสู้กับความเจ็บป่วยอย่างเด็ดเดี่ยวและส่งคำเตือนถึงทุกคน

เธอจำได้ชัดเจนว่าในวันที่ 24 ธันวาคม 2562 เมื่อเข้ารับการรักษาและถ่ายเลือดที่โรงพยาบาลในโฮจิมินห์ หลังจากเจาะไขกระดูกก็มีอาการปวดมากจนต้องนั่งรถเข็น ต่อมาในวันที่ 28 ต.ค. 2563 ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพื่อรับเคมีบำบัดรอบแรก และภายใน 6 เดือนของการรักษา ต้องเข้ารับเคมีบำบัด 12 ครั้ง

อย่างไรก็ตาม ในรับเคมีบำบัดครั้งที่ 12 อาการของต่อมน้ำเหลืองก็แย่ลง และกลับเข้าสู่ระยะที่ 4 แม้ว่าสิ่งนี้จะทำให้เธออดไม่ได้ที่มองโลกในแง่ร้าย แต่เธอก็ยังคงไม่ยอมให้ตัวเองหมดหวัง

ตามแผนการรักษาใหม่ แพทย์ได้ให้การรักษาด้วยการฉายรังสีที่โรงพยาบาลประชาชน ครั้งนี้เธอเช่าห้องในโฮจิมินห์เพียงลำพัง เพราะไม่อยากให้แม่กังวลและเหนื่อยมากเกินไป ขณะเดียวกันสามีที่อยู่ต่างประเทศก้ไม่สามารถกลับมาเวียดนามได้ เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19

ระหว่างเข้ารับการฉายรังสี เธอมีอาการเจ็บคอจนไม่สามารถกินหรือดื่มอะไรได้เลย ความทรมานทำให้เธอเคยอยากจะยอมแพ้ทุกอย่าง แต่เมื่อคิดถึงเงิน ความพยายาม และเวลาที่พ่อแม่ใช้ไปกับเธอ เธอก็ยังคงสู้ต่อไป หลังจากนั้นได้ย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลอีกแห่ง แต่ผลก็ยังไม่เป็นบวก

ต่อมา เพื่อที่จะได้อยู่ใกล้สามีและครอบครัว เธอจึงตัดสินใจไปสหรัฐอเมริกาเพื่อรับการรักษาและอาศัยอยู่ที่นั่น หลังจากต่อสู้กับโรคร้ายมาเป็นเวลา 5 ปี หญิงสาวกล่าวว่าปัจจุบันสุขภาพของเธอมีเสถียรภาพแล้ว แต่ยังจำเป็นต้องได้รับเคมีบำบัดเดือนละครั้ง ทั้งนี้ เธอยังได้เปลี่ยนวิถีชีวิตการป้องกันโรคในเชิงบวก 3 ประการ คือ

  • การตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกๆ 6 เดือน โดยเน้นย้ำว่านี่เป็นนิสัยที่สำคัญอย่างยิ่งในการรู้สถานะสุขภาพของตัวเอง ตรวจพบโรคตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้มีวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพ
  • ดื่มน้ำมะนาวอุ่นๆ ทุกเช้า หญิงสาวบอกว่าตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เธอยังคงรักษานิสัยนี้เพราะมันช่วยให้เธอมีภูมิต้านทานและต่อสู้กับโรคต่างๆ
  • ตากแดดในตอนเช้าและออกกำลังกายวันละ 10 นาที โดบบอกว่านี่เป็นนิสัยที่เธอปฏิบัติตามตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เพื่อปรับปรุงสุขภาพของตนเอง

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ