จากกรณี นายแพทย์ นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ แสดงความไม่เห็นด้วยที่จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ โดยระบุว่า เราดูเห็นแก่ตัวไปไหมในขณะที่คนส่วนใหญ่ของประเทศยังไม่ได้วัคซีนสักเข็มเดียว ถ้าเราจะมารับการกระตุ้นด้วยเข็มที่สามกันก่อน ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักทั้งจากแพทย์ พยาบาล และประชาชนทั่วไป ที่ต่างก็เล็งเห็นความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ จนในภายหลัง นายแพทย์ นิธิ ได้ออกมาโพสต์ขอโทษที่ทำให้แพทย์และพยาบาลไม่พอใจ 

• “หมอนิธิ” สวนกระแส ค้านฉีดวัคซีนเข็มสามให้บุคลากรทางการแพทย์ ลั่นไม่ขอเห็นแก่ตัว

อย่างไรก็ตาม ศ.ดร.ภญ.วิจิตรา ทัศนียกุล อาจารย์แพทย์ ม.ขอนแก่น โพสต์ข้อความแสดงความไม่เห็นด้วยกับ นายแพทย์ นิธิ โดยระบุว่า คาดว่าคุณหมอนิธิไม่น่าจะเคยอยู่ด่านหน้า เพราะเป็นหมอหัวใจ โรงเรียนแพทย์ และ รพ.เอกชน ชั้นนำมาตลอด คงไม่เคยเห็นว่าด่านหน้าต้องเจอกับอะไรบ้าง บุคลากรทางการแพทย์เปรียบเหมือนทหารในสงคราม แต่การเลือกซิโนแวค ก็เหมือนเลือกอาวุธที่ประสิทธิภาพต่ำให้

“มีหลายคนถามว่ามีความเห็นอย่างไรกับข้อคิดของคุณหมอนิธิดิฉันขอตอบว่า ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยเฉพาะที่ว่าการเรียกร้องเข็ม 3 Alternative vaccine ให้บุคลากรการแพทย์เป็นความเห็นแก่ตัว

ที่จะพูดต่อไปนี้เป็นความเห็นในฐานะของอาจารย์ที่สอนแพทย์ เภสัช พยาบาล ทันตะ เทคนิคการแพทย์นะคะ รวมทั้งในฐานะแม่คุณหมอชนบท 2 คน ดิฉันตั้งคำถามตั้งแต่ที่รัดบานเลือกใช้ Sinovac กับบุคลากรการแพทย์แล้วค่ะ ว่าจากข้อมูลตอนนั้น WHO ยังไม่รับรองเลย ทำไมเราไม่ให้ Astra ตัวที่ WHO รับรองให้กับคนกลุ่มนี้รัดบานตัดสินใจผิดไหม ที่เลือกวัคซีนประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำให้ทหารกล้า ให้เค้าออกรบด้วยมีด ด้วยพร้า แทนอาวุธทันสมัย นักรบเหล่านั้นไม่เคยโวยวาย ออกรบตามคำสั่งทันที บางคนมีมีด มีพร้า บางคนมือเปล่า เพราะมีดพร้า รัดบานส่งให้เค้าไม่ทัน แต่เค้าเหล่านั้นก็รบทุกวัน ไม่มีหยุด ไม่สามารถ Work from home ได้เหมือนอาชีพอื่นๆ

พอรัดบานมีอาวุธที่คาดว่าดีขึ้น เลยกะว่าจะส่งให้คนที่อยู่ที่บ้านเอาไว้ป้องกันตัว พอคนที่บ้านบอกว่าให้ส่งด่านหน้าก่อนเถอะ เค้าจะได้กันข้าศึกให้ หรือด่านหน้าบางส่วนร้องขออาวุธเพิ่ม ท่านกลับบอกว่าด่านหน้าเห็นแก่ตัว แบบนี้ถูกเหรอคะถ้าพวกเค้ามีอาวุธดี ทันสมัย เค้ารบพ่าย อาจถือว่าเป็นความผิดของเค้า แต่นี่เค้าใกล้พ่าย เราเสริมอาวุธให้เค้า กลายเป็นเค้าเห็นแก่ตัว เหรอคะ

คาดว่าคุณหมอไม่น่าจะเคยอยู่ด่านหน้า เพราะเป็นหมอหัวใจ โรงเรียนแพทย์ และ รพ.เอกชนชั้นนำมาตลอด คงไม่เคยเห็นว่าด่านหน้าต้องเจอกับอะไรบ้าง

อ้างว่าไม่เคยมีการวิจัยเรื่องเข็ม 3 หลังให้ Sinovac มาก่อนในโลก ก็คงถูก เพราะมันเป็นโรคอุบัติใหม่ ถ้าจะฉีดเข็ม 3 ก็ต้องทำให้เป็นระบบ รัดบานหรือคุณหมอก็ทำสิคะ อยู่สถาบันวิจัยไม่ใช่เหรอคะ เริ่มตรวจ antibody แต่ละคนที่เราจะให้เข็ม 3 แล้ววัดหลังให้เข็ม 3 เลยค่ะ พวกด่านหน้าเค้าแค่สูกับโรคก็แย่แล้วค่ะ ไม่สามารถมาทำวิจัยเปรียบเทียบหรอกค่ะ บุคลากรด่านหน้าเราก็คัดเอาคนที่เป็นด่านหน้าจริงๆ ที่มีความเสี่ยงสูงที่สัมผัสคนไข้โควิดได้ ทุกคนที่เป็นบุคลากรการแพทย์ในแต่ละส่วนมีความเสี่ยงไม่เท่ากัน ข้อนี้ทำได้อยู่แล้วค่ะ

อยากบอกคุณหมอว่าที่มีการเรียกร้องเข็ม 3 ให้บุคคลากรการแพทย์นะ ไม่ใช่พวกเค้าเรียกร้องเองทั้งหมดนะคะ ส่วนหนึงเป็นชาวบ้านที่ส่งเสียงเรียกร้องให้เค้า ส่วนหนึงเป็นครอบครัวของเค้าที่กังวลว่าพวกเค้าไปรบแล้วเอาเชื้อเข้ามาติดคนในบ้าน ส่วนตัวพวกเค้าเหรอคะ ส่วนใหญ่วุ่นวายกับการดูแลคนไข้ค่ะ ไม่มีเวลาได้คิดถึงเข็ม 3 อะไรเท่าไหร่ แค่ได้กินข้าวเที่ยง ข้าวเย็นตามเวลาที่ควรเป็น และมีชีวิตรอดจากการทำงานแต่ละวันก็พอใจแล้วค่ะ”