อัพเดทอาการ “หมวยเล็ก” สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน หลังถูกราดด้วยน้ำร้อน ล่าสุดอยู่กับครอบครัวใหม่แล้ว ด้านเจ้าของเก่าย้ำไม่ได้ทำเพราะแค่หมาขโมยขนม
จากวิดีโอที่กำลังเป็นที่วิพากวิจารณ์ในโลกโซเชียล อย่างวิดีโอสาวทำโทษสุนัขไซบีเรียน ด้วยการผูกไว้ในห้องน้ำ ก่อนใช้น้ำร้อนราดไปบนตัวสุนัข สร้างความสะเทือนใจให้คนในโซเชียลเป็นอย่างมาก
ภายหลังมีรายงานว่าสุนัขตัวดังกล่าวมีชื่อว่า “หมวยเล็ก” โดยได้มีคนเข้ามาช่วยเหลือ รับเลี้ยงและเปลี่ยนชื่อเป็น “เล็ก”
- จิตใจทำด้วยอะไร! สาวราดน้ำร้อนใส่หมาไซบีเรียนท้องแก่ ดิ้นร้องโหยหวน เหตุเพราะหมาแอบกินขนม
ล่าสุดเจ้าของคนใหม่ได้อัพเดทอาการของน้องไซบีเรียนตัวนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยโพสต์ภาพคู่กับน้องเล็ก สุนัขพันธุ์ไซบีเรียน พร้อมระบุเนื้อความว่า
“อัพเดทให้ค่า .. มาทำแผลทายาตามกิจวัตรปกติ แต่ที่แปลกกว่าทุกวันคือมีนักข่าวมาเยอะมาก เล็กสบายดี กินอิ่มนอนหลับทุกวัน หัวใจเบบี๋ยังเต้นที่230คืนนี้น่าจะยังไม่คลอด ส่วนพ่อกับแม่ สู่ขิตเพราะยังไม่ได้นอนตั้งแต่เมื่อคืน” ซึ่งเมื่อโพสต์นี้ออกมาชาวเน็ตต่างพากันชื่นชมเจ้าของใหม่ และกล่าวขอบคุณแทนน้องเล็ก
ในขณะที่สาวในคลิปที่เป็นเจ้าของเก่า ได้ออกมาชี้แจ้งเรื่องนี้ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยข่าวช่อง 3 รายงานว่า เธอกล่าวยอมรับว่าเป็นคนทำจริง พร้อมทั้งขอโทษสังคมเกี่ยวกับภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้น ทำไปเพราะขาดสติ และรู้สึกผิดตั้งแต่วันเกิดเหตุ อีกทั้งยังชี้แจ้งว่าที่ทำไปไม่ใช่เพราะแค่สุนัขแย่งขนม แต่มีประเด็นอื่นด้วย
“เป็นเราจริงๆค่ะ ก่อนอื่นต้องขอโทษสังคมก่อนที่ได้รับภาพความรุนแรงที่เกิดขึ้น ความรู้สึกผิดหรือรู้สำนึกว่ามันไม่ดี มันเกิดขึ้นตั้งแต่อารมณ์ขาดสติหมดลงแล้วค่ะ เหตุการณ์เดือนนึงแล้ว ไม่ได้มีไทม์แมชชีนย้อนกลับไปแก้ไขข้อผิดพลาดทางอารมณ์ที่มันเกิดขึ้น ณ จุดฟีลขาด ขอพูดในมุมของเราในพื้นที่ของเราที่จะเปิดเป็นสาธารณะเพราะวันนี้มันไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่เป็นเรื่องของสังคม ที่ได้รับภาพความรุนแรง
ก่อนหน้านี้ไม่ทราบมาก่อนค่ะ ว่าน้องหมาตั้งท้อง หมวยเล็กเป็นเป็นหมาที่เลี้ยงมาเองตั้งแต่มัน 45 วัน กัดข้าวของและก่อการร้ายในบ้านเรื่อยๆตามประสา ถ้าตีเพราะพฤติกรรมแย่งขนม น้องคงไม่ได้เป็นที่รักของทุกคนในโซเชียล จากการเผยแพร่ของเรา เราอยากใช้พื้นที่ส่วนตัวอธิบายให้สังคมรับรู้ว่าทุกๆคน มีแรงกดดัน มีสภาพแวดล้อม มีวิธีจัดการกับอารมณ์เมื่อจนมุมต่างกัน และบิวผิดพลาดที่จัดการอารมณ์ไม่ดี เรารับรู้และไม่เคยกดดูคลิปวิดิโอนั้น แม้แต่ 1 ครั้งเพราะใช่ มันรุนแรง เรารู้สึกผิดตั้งแต่วันที่มันเกิดเหตุแล้ว ว่ามันเกินกว่าเหตุ
แต่เราไม่ได้มานั่งอธิบายแต่แรกเพราะ เราคิดว่ามันไม่มีใครเข้าใจ pressure environment ของแต่ละคนในเหตุการณ์นั้นๆ ทุกคนเห็นและตัดสินจากการกระทำเลย เราแมนพอรับว่าเราตั้งใจทำ เราทำจริง และเรารับทุกคำด่าได้เป็นผลจากการกระทำของเราเอง ขอความอนุเคราะห์ด่าในพื้นที่ ที่วางขอบเขตไว้โดยไม่รบกวนต่อบุคคลที่ 3-4-5-6 หรือคนในครอบครัว ตลอดจนเพื่อนร่วมสถานะ friends ใน Facebook ขอบคุณและขอโทษอีกครั้งค่ะ ส่วนของการดำเนินคดีตามกฏหมาย ให้เป็นไปตามขั้นตอนได้เลยค่ะ ***ไม่มีใครราดน้ำร้อน เพราะหมาขโมยขนมหรอกค่ะ***”