อังกฤษประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หลังเจออุณหภูมิร้อนระอุ คาดแตะ 40 องศาเซลเซียส ด้านยุโรปเจอไฟป่าโหมกระหน่ำ มีผู้อพยพนับหมื่น
เมื่อ 16 ก.ค. บีบีซีรายงานว่า ทางการอังกฤษประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินระดับชาติภายหลังอุณหภูมิเฉลี่ยในกรุงลอนดอน เมืองแมนเชสเตอร์และยอร์ก มีแนวโน้มเพิ่มสูงถึง 40 องศาเซลเซียส นับเป็นการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแบบ “เรด เอ็กซ์ตรีม ฮีต” หรือร้อนแดงเดือดครั้งแรกของอังกฤษหลังระบบเตือนภัยอากาศร้อนรุนแรงเริ่มใช้เมื่อปี 2564
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแบบร้อนแดงเดือดครั้งแรกของอังกฤษ หมายความว่า เป็นความร้อนระดับที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อชีวิตและประชาชนชาวอังกฤษในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ จำเป็นจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต อาทิ การจำกัดความเร็วในการเคลื่อนที่ของยวดยานพาหนะ สถานศึกษาบางแห่งอาจเลิกเรียนไวขึ้น และการนัดพบแพทย์ที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนตามโรงพยาบาลอาจต้องถูกยกเลิก ขณะที่หน่วยกู้ภัยเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับอาการรถเสียเนื่องจากเครื่องยนต์ร้อนจัดและเริ่มนำกรวดเทบนพื้นถนนเพื่อลดการละลายหรืออ่อนตัวของผิวถนนยางมะตอย
อากาศร้อนจัดในอังกฤษเกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์การเกิดไฟป่าในหลายประเทศแถบทวีปยุโรป อาทิ ฝรั่งเศส สเปน และกรีซ สืบเนื่องจากปรากฏการณ์คลื่นความร้อนส่งผลให้มีผู้อพยพนับหมื่นคน สร้างความอลหม่านให้กับฤดูท่องเที่ยวหน้าร้อนยุโรป โดยต้นเหตุนั้นนักวิทยาศาสตร์คาดว่ามาจากปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงหรือโลกร้อน
รายงานระบุว่า จำนวนผู้อพยพที่จังหวัดฌีรงค์ แคว้นนูแวลากีแตน ทางภาคตะวันตกของฝรั่งเศส ในช่วงหลายวันที่ผ่านมา เพิ่มสูงทะลุ 1 หมื่นคนแล้ว ขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยในโปรตุเกสและสเปนนั้นเพิ่มสูงเกิน 40 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 281 ราย นอกจากนี้ ที่เมืองปินเญา ทางเหนือของโปรตุเกสยังพบอุณหภูมิถึง 47 องศา นับว่าเป็นสถิติสูงสุดเดือนก.ค. ของโปรตุเกสด้วย
สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามที่นักวิทยาศาสตร์เคยเตือนไว้ถึงผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนที่มาถึงภาวะวิกฤต ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์สภาพอากาศสุดขั้ว เช่น คลื่นความร้อนที่รุนแรงและถี่กว่าปกติ ฝนที่ตกหนักขึ้นแต่ระยะเวลาสั้นลง และความแห้งแล้งที่รุนแรงยาวนานกว่าที่เคยมีมา