อย่าหาทำ อย่าหาคิด อาจจะไม่ได้ดีอย่างที่สุดคาด หมอของขวัญ เตือนหากคิดว่าติด โอมิครอน ให้จบๆไป แต่ Long COVID มันทรมานกว่า
ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งตอนนี้เรากำลังรับมือกับเชื้อโควิดตัวใหม่อย่าง เชื้อโอมิครอน ที่ดูเหมือนว่าการแพร่กระจาย จะทำได้ดีกว่าเชื้อเดลด้า ถึงแม้ว่าอาการหลังจากติดเชื้อจะไม่รุนแรงมากนั้น แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะละเลยมัน ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ กลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนมากเป็นกลุ่มของนักเดินทางจากต่างประเทศ และกลุ่มก้อนที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อ มีหลายข้อมูลจากต่างประเทศเผยว่า เชื้อโอมิครอน อาจหลบภูมิจากวัคซีนโควิด อีกทั้งยังแสดงอาการในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ หากเด็กเล็กได้รับเชื้อโอครอน ซึ่งในเด็กเล็กในประเทศไทยส่วนมาก ยังไม่ได้รับวัคซีนโควิด
ล่าสุดข้อมูลจากการแถลงของกรมวิทยาศาสตร์ทางจากแพทย์เผยข้อมูลที่น่าสนใจ จากการศึกษาในต่างประเทศ ผู้ที่ติดเชื้อโอมิครอนภูมิจะสูงขึ้นถึง 14-15 เท่า ซึ่งเป็นตามธรรมชาติของการติดเชื้อ หากติดเชื้ออะไรร่างกายก็จะมีภูมิต้านเชื้อนั้นๆ หากได้รับอีกในภายหลังก็จะสามารถจัดการกับเชื้อตัวนั้นๆได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันก็มีข้อสังเกตที่น่าสนใจ นอกเสียจากภูมิต้านโอมิครอนที่สูงขึ้นแล้วนั้น ยังสามารถกันเชื้อเดลต้าได้อีกด้วย โดยประมาณ 4 เท่ากว่าๆ แต่ไม่ใช่กับผู้ติดเชื้อทุกราย
- ข้อมูลน่าสนใจ! กรมวิทย์.เผยผู้ติดเชื้อโควิด โอมิครอน ภูมิคุ้มกันสูงขึ้น 14 เท่า และมีแนวโน้มต้านเดลต้าได้
แต่อย่างไรก็ตาม “การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ” ทางด้านคุณหมอของขวัญ หรือ หมอแคท แพทย์หญิงของขวัญ ฟูจิตนิรันดร์ เคยโพสต์ถึงประเด็นนี้ “ข่าวดีคือ หากเราติด มัน”อาจจะ” ใช้คำว่าอาจจะนะคะเป็นความหวังเล็กๆ ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นี้และเดลต้าและต่อโควิดทั้งหมด และเป็นจุดจบของการระบาดค่ะ สาธุ “
- “หมอของขวัญ” สรุปรวมข้อมูล 10 ข้อ “โอมิครอน-วัคซีน” ส่วนตัวคิดว่า อาจล็อกดาวน์ภายใน 1-2 เดือน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2564 คุณหมอของขวัญ โพสต์เตือนว่า ใครที่คิดว่า #โอมิครอน คือวัคซีนธรรมชาติติดๆไปจะได้จบๆ คุณลืมสะกดคำว่า Long COVID มันทรมานกว่าตอนที่เป็นอีกนะ อ่อนเพลียผมร่วง เรื้อรังยาวนาน และเจอเกิน 30% ของผู้ป่วย #อย่าหาทำ
