หนุ่มส่งแก๊ส เกือบเป็นแพะ หลังถูกกลุ่มตำรวจล่อซื้อรถจยย. กลางชุมชน โดนจับไหล่กดนั่งพื้น ก่อนหน้าแตกเพราะผิดเป้าหมาย รับสุดอับอาย เสียชื่อหมดแล้ว

เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2566 นายสมรักษ์ สร้อยสุมาลี 27 ปี พนักงานส่งแก๊สแห่งหนึ่งในอ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า ตนเกือบตกเป็นผู้ต้องหาหลังเมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 18.50 น. ตนถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ อ้างตัวเป็นตำรวจสน.สุทธิสาร เข้ามาล่อซื้อรถจยย. คันที่ตนนำมาขายให้ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วว่าผิดคัน

นายสมรักษ์ กล่าวว่า ระหว่างที่ตนเช็ดรถจยย. ยามาฮ่า แอร็อกซ์ สีดำแดง เพื่อรอขายให้กับชายคนหนึ่งที่ติดต่อซื้อขายผ่านทางไลน์กับตน จากนั้นก็ได้มีชาย 2 คน เดินตรงเข้ามาหาตนโดยบอกว่าเป็นลูกค้าที่นัดซื้อขายรถจยย.กับตนไว้

จากนั้นขายคนหนึ่งที่เดินสำรวจดูรอบรถจยย. ก็พยักหน้าให้ชายอีกคนที่มาด้วย ก่อนที่ชายคนนั้นจะเดินไปที่รถกระบะซึ่งจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม แล้วก็มีชายฉกรรจ์อีก 3 คน ลงจากรถมาสมทบแล้วเดินข้ามถนนเข้ามาล้อมตนไว้ โดยหนึ่งในนั้นจับที่หัวไหล่ของตนแล้วกดลงให้ตนนั่งลงไปกับพื้น พร้อมกับพูดว่า นี่เป็นการล่อซื้อ โดยที่ตนยังไม่ทันได้พูดหรือแสดงเอกสารอะไรให้ดูเลย

นายสมรักษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นชายกลุ่มดังกล่าวได้อ้างตัวว่าเป็นตำรวจสน.สุทธิสาร มาติดตามหารถจยย. ที่ถูกขโมยมาจากพื้นที่ ตนจึงได้ชี้แจงว่าตนมีเอกสารการซื้อขายรถจยย. คันนี้พร้อมทะเบียนอย่างถูกต้อง ซึ่งตนได้ถอดเก็บไว้ใต้เบาะนั่ง เมื่อเปิดเบาะรถนำเอกสารมาตรวจสอบดู จึงพบว่าไม่ใช่รถ จยย. คันเดียวกับที่ขโมยมา ชายคนที่กดไหล่ตนอยู่จึงได้เอามือออก

เมื่อตนลุกได้ก็ต่อว่าชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าว และถ่ายภาพเหตุการณ์เอาไว้ โดยที่ชายคนแรกที่เป็นคนพยักหน้ารีบเดินหนีไปขึ้นรถกระบะทันที โดยไม่มีการกล่าวคำขอโทษสักคำ ตนรู้สึกอับอายและเสียหายมากที่ถูกกระทำในลักษณะนี้ต่อหน้าสาธารณะชน ทั้งที่ตนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

ตนทำอาชีพส่งแก๊สมาหลายปี จนเจ้าของร้านไว้วางใจให้ตนดูแลร้านเก็บเงินร้าน คนในหมู่บ้านรู้จักตนก็เยอะ แต่ตนมาถูกกระทำแบบนี้ คนในชุมชนจะมองอย่างไร ทั้งเสียหายทั้งอับอาย ได้แค่คำขอโทษคำเดียว แล้วกดไหล่จนจนเจ็บ เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุหรือไม่ ไม่มีการตรวจสอบอะไรให้แน่ชัดมาถึงกล่าวหาตนเหมือนเป็นผู้ต้องหา ตนคิดว่าจะไปแจ้งความเอาผิดกับคนกลุ่มนี้ โดยเฉพาะคนชี้เป้า

นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า รถจยย. คันดังกล่าว ตนซื้อต่อมาจากเจ้าของรถซึ่งมีเอกสารครอบครองถูกต้องในราคา 1.5 หมื่นบาท ซึ่งเป็นรถที่ติดไฟแนนซ์ โดยตนตั้งใจขายต่อในราคา 1.7 หมื่นบาท เหมือนกับการขายดาวน์ให้คนซื้อนำไปผ่อนต่อกับไฟแนนซ์ต่อ

หลังเกิดเหตุแล้วตนได้นำเรื่องไปโพสต์ถามในกลุ่มตำรวจสน.สุทธิสาร ว่าชายกลุ่มนี้เป็นตำรวจจริงหรือไม่ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งติดต่อมาว่า ชายกลุ่มนี้เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด 41 จริง และขอร้องให้ตนไม่ติดใจเอาเรื่องด้วย