อมรัตน์ ฟาดแรง! ตู่ ไร้ภาวะผู้นำ ปิดปากคนเห็นต่าง ลั่นควรเสนอตัวชิงนายกฯหรือไม่

Home » อมรัตน์ ฟาดแรง! ตู่ ไร้ภาวะผู้นำ ปิดปากคนเห็นต่าง ลั่นควรเสนอตัวชิงนายกฯหรือไม่


อมรัตน์ ฟาดแรง! ตู่ ไร้ภาวะผู้นำ ปิดปากคนเห็นต่าง ลั่นควรเสนอตัวชิงนายกฯหรือไม่

อมรัตน์ ฟาดแรง! บิ๊กตู่ ไร้ภาวะผู้นำ ทิ้งนิสัยเดิมไม่ได้ ใช้อำนาจปิดปากคนเห็นต่าง ลั่นสมควรเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ หรือไม่

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2566 นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวกรณีตำรวจเข้าจับกุม นางวันทนา หรือป้านา โดยใช้กำลังเกินกว่าเหตุ และตั้ง 3 ข้อหาหนัก ว่า ตนเข้าใจความจำเป็นในหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้นำ แต่การใช้กำลังรุนแรงปิดปาก ฉุดกระชากลากถูกับหญิงผู้สูงอายุคนเดียว ต้องถามว่าเป็นสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่

“ทั้งนี้ หากพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นผู้นำที่มีสติปัญญา ควรมีการซักซ้อมทำความเข้าใจกับทีมตนเองว่า เมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินควรมีแนวปฏิบัติอย่างไร ต้องมีการเจรจาพูดคุยทำความเข้าใจ และใช้มาตรการจากเบาไปหาหนักอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ใช้มุมมองแบบทหาร มองเพื่อนร่วมชาติที่มีจุดยืนการเมืองคนละขั้วเป็นอริราชศัตรู แบบที่มองภัยจากภายนอกประเทศ” นางอมรัตน์ กล่าว

นางอมรัตน์ กล่าวว่า ส่วนประเด็นการตั้งข้อกล่าวหาหนักต่อป้านา ว่าขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ตนอยากถามว่า การที่พล.อ.ประยุทธ์ ไปตรวจราชการที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะนายกฯ หรือใช้ตำแหน่งนายกฯ เป็นข้ออ้างไปติดตามงาน เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตนเอง เพราะรู้กันอยู่ว่าบ้านโป่ง เป็นเขตพื้นที่ส.ส.ย้ายพรรคจากประชาธิปัตย์ (ปชป.) ไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ของพล.อ.ประยุทธ์

นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า ส่วนที่พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงคนที่ชู 3 นิ้วว่าให้ไปหาหมอป่วย และมาเพราะต้องการอะไรสักอย่างนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็รู้นี่ว่าประชาชนที่มารอพบท่าน มาเพราะต้องการอะไรบางอย่าง จึงต้องถามว่าเมื่อทราบแล้ว ในฐานะผู้นำเคยออกมารับฟังพวกเขาหรือไม่ และขนาดกำลังจะเข้าสู่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังไม่เปลี่ยนวิธีคิด วิธีทำ ทั้งที่มีบทเรียนอยู่แล้ว

“การที่นักการเมือง ซึ่งเป็นบุคคลสาธารณะไปที่ไหน จะมีคนสนับสนุน เห็นด้วย คัดค้าน เป็นเรื่องปกติ แต่การใช้อำนาจปิดปากผู้ที่ออกมาแสดงออกเช่นนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีภาวะผู้นำในการจัดการเรื่องพวกนี้เลย วันนี้กำลังจะออกจากหมวกผู้นำเผด็จการ มาลงสนามเลือกตั้งแล้ว แต่ยังละนิสัยเดิมไม่ได้ จึงอยากถามว่าคนที่ไม่มีภาวะผู้นำแบบนี้ สมควรเสนอตัวเองเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีหรือไม่” นางอมรัตน์ กล่าว

นางอมรัตน์ กล่าวว่า การแสดงออกเช่นนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ สะท้อนให้เห็นตัวตนของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ลุแก่อำนาจ เป็นผู้นำที่เผด็จการอำนาจนิยม มีลักษณะโอหังคลั่งอำนาจ ตรงตามญัตติพรรคฝ่ายค้านที่ได้เคยอภิปรายไม่ไว้วางใจ และคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะต้องเกิดขึ้นอีกเรื่อยๆ จนถึงวันเลือกตั้ง

“ช่องคอมเมนต์คุณก็ปิด จะให้ประชาชนไปแสดงออกที่ไหน อยากให้เปิดช่องคอมเมนต์ ประชาชนจะได้ไม่ต้องมาตะโกน ในโซเชียลมีเดียคุณปิดช่องคอมเมนต์ ประชาชนพูดผ่านตัวแทนในสภาก็โดนประธานปิดไมค์ คิดหรือว่าจะใช้วิธีนี้สยบประชาชน แจ้ง 3 ข้อหาหนักเพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู วิธีนี้ไม่ได้ผล มีประชาชนจำนวนหนึ่งที่ก้าวข้ามความกลัว เพราะความคับแค้นที่สะสมมานาน การปกครองด้วยความกลัวใช้ไม่ได้ผล ไม่ใช่ทุกคนจะสยบยอมกับอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์” นางอมรัตน์ กล่าว

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ