อนุทิน รับมอบวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 1.8 ล้านโดส ที่ผลิตจากสยามไบโอไซเอนซ์ ลั่นไทยไม่ได้มี “ม้าตัวเดียว” เปลี่ยนความคิดใหม่ได้เลย
วันนี้ (4 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมรับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรกจำนวน 1.8 ล้านโดส จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ โดยมีนายเจมส์ ทีก ประธาน บริษัท แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ส่งมอบ
นายอนุทิน กล่าวภายหลังการรับมอบว่า ขอยืนยันว่าเราไม่มีการเลื่อนฉีดวัคซีน และไม่เคยคิดที่จะเลื่อน วันนี้ทุกอย่างเป็นไปตามสัญญาว่าแอสตร้าเซนเนก้าจะผลิตวัคซีน และส่งมอบให้กับประเทศไทยตามสัญญา คือ เดือน มิ.ย. จากนี้จะกระจายไปทุกจังหวัดตามแผน
และยืนยันด้วยว่าประเทศไทยไม่ได้ขี่ม้าตัวดียว วันนี้ม้าตัวแรกเริ่มที่แอสตร้าเซนเนก้า ต่อมามี ซิโนแวค และจะมีจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน โมเดอร์นา และล่าสุด คือ ซิโนฟาร์ม และจะมีตัวต่อๆ ไป
ตราบใดที่ผู้ผลิตวัคซีนมีความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ของเขามีคุณภาพที่ดี สามารถทำให้ประชาชนของเรามีความปลอดภัยจากการระบาดของโรคโควิดได้ เขาก็จะมาขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ที่มีผู้เชี่ยวชาญพิจารณาได้เร็ว และเป็นไปตามมาตรฐาน
“ทุกท่านสบายใจได้ว่าเราทำทุกสิ่งทุกอย่างตามเหตุและผล และความจำเป็นความเหมาะสม เพราะฉะนั้นท่านทั้งหลาย ท่านใดก็ตามที่ยังพูดว่ารัฐบาลไทยเลือกม้าตัวเดียวในการนำวัคซีนมาฉีดให้กับพี่น้องประชาชน ก็ขอความกรุณาเปลี่ยนความคิดซะใหม่ เพราะรัฐบาลไทยไม่เคยเลือกมาตัวเดียว รัฐบาลไทยมีความพร้อมที่จะรองรับกับสถานการณ์ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” นายอนุทิน กล่าว
นอกจากนี้ รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับกรณีราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นั้น ทาง ศบค.ได้มีการจัดสรรในโควตาของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดังนั้นขอให้สอบถาม อว.ว่าจะมีการจัดสรรกันอย่างไร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพูดมาตลอดว่าทำการฉีดวัคซีนมาต่อเนื่องตลอดตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.จนถึงปัจจุบัน ก็จะทำการฉีดต่อไปให้ครบจำนวนประชากรของประเทศนี้ให้มากที่สุด
และไม่ได้จบแค่ปีนี้ เพราะวัคซีนอาจจะมีประสิทธิภาพประสิทธิผล 6 เดือน 9 เดือนหรือ 1 ปี ดังนั้นเรายังต้องการทำการพิสูจน์ ค้นคว้าวิจัยทดลองพัฒนาต่อไปตราบใดที่โควิดยังเป็นโรคระบาดทั่วโลกอยู่
เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้นโยบายอย่างชัดเจนกับพวกตนและกระทรวงสาธารณสุขว่า เราจะต้องมีวัคซีนแจกจ่ายให้คนไทย และผู้ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยทุกคน โดยเป็นภาระของรัฐบาล ขอให้ทุกท่านทำความเข้าใจและตัดสินใจในสิ่งที่ถูกต้องและให้กำลังใจบรรดาบุคคลากรทางการแพทย์ ทุกคนที่ทุ่มเทให้พี่น้องประชาชนปลอดภัยปลอดเชื้อ
ทางด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า แผนการกระจายและฉีดวัคซีนไปตามจังหวัดต่างๆ เป็นแผนที่ถูกรับรองโดยศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โดยแผนดังกล่าวเอาประชากรตั้งประชากรแฝงมารวมกันหารด้วย 4 คือ 4 เดือนคูณด้วยแฟคเตอร์เกี่ยวกับความเร่งด่วน การระบาด ทำให้มีการกระจายวัคซีนไปตาม ศบค.กำหนด ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะส่งวัคซีนให้เป็นไปตามแผน
“ดังนั้น เมื่อรับวัคซีนมาจากแอสตร้าเซนเนก้าและซิโนแวค เราก็ทำตามแผนมาตลอด ซึ่งที่มีข่าวกันว่าเลื่อนฉีดนั้น จริงๆไม่ได้มีการเลื่อนฉีดแต่อย่างใด อาจเพราะข่าวออกมาเร็ว เนื่องจากเดิมเราได้มาก่อน 2 แสนกว่าโดส เราก็รีบส่งไป จึงทำให้จังหวัดได้ประมาณ 3,600 โดส แต่เมื่อล่าสุดเราได้ 1.8 ล้านโดส เราก็จะส่งตามไป จึงไม่มีการเลื่อนการฉีดแน่นอน และเราก็วางแผนกันเป็นรายสัปดาห์ เพื่อให้มีวัคซีนครบทั้งหมด” ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุ
- แอสตร้าเซนเนก้า รับมอบวัคซีนโควิดล็อตแรก 1.8 ล้านโดสจากสยามไบโอไซเอนซ์แล้ว