‘อนุทิน’ ขอให้เลือก ‘ภูมิใจไทย’ เข้าสภา ไปปกป้องกัญชา ไม่ให้กลับมาเป็นยาเสพติด ย้ำว่าประกอบธุรกิจ-กิจการกัญชาได้ หากทำถูกกฎหมาย

25 เม.ย. 2566 – ที่ห้องประชุมสินธร โรงแรมสินธร เคมปินสกี้ กรุงเทพฯ มีการเสวนาในหัวข้อ “ประเทศไทยกับการก้าวเป็นผู้นำ ในอุตสาหกรรมสารสกัดจากพืชกัญชงและกัญชา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์และสินค้าเพื่อสุขภาพ” โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานเปิดงาน

นายอนุทิน กล่าวช่วงหนึ่งว่า เรื่องกัญชา เราต้องต้องสู้กับอคติ ด้วยความรู้ ความเข้าใจ เพราะฝ่ายหนึ่งมุ่งด้อยค่ากัญชา ด้วยการด่าทอว่าร้าย แต่อย่าลืมว่าทุกสรรพสิ่ง ล้วนมี 2 ด้าน กัญชาก็เช่นกัน ซึ่งมันขึ้นอยู่กับการใช้ ตนไม่เป็นห่วง เพียงแต่กังวลพวกที่ด้อยค่ากัญชา จะทำให้ผู้ป่วยเสียโอกาสไปด้วย หากวันหนึ่งกัญชาต้องกลับไปมีสถานะเดิม

การที่เราปลดล็อกกัญชาออกมานั้น เพราะเห็นประโยชน์และเรื่องกฎหมาย ไม่ได้ทำแบบปุบปับ แต่ได้ให้เวลากับการสื่อสารความรู้ สร้างความเข้าใจมาอย่างยาวนาน การคลายล็อก ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน

ตนเคยเห็นว่ากัญทำให้ผู้ป่วยมะเร็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น กินอิ่ม นอนหลับ เท่านี้ตัวผู้ป่วยก็มีความสุข ญาติก็มีความสุข เมื่อก่อนผู้ป่วยจำนวนมากต้องแอบใช้ บางครั้งถูกจับกุม ญาติไปสู้คดี นี่คือจุดเริ่มต้นของนโยบายกัญชาทางการแพทย์

ที่มาบอกว่ากัญชาเสรี พี้กันทั่วเมือง ต้องขอย้ำว่า เรามีประกาศควบคุมอยู่ และประกาศฉบับนี้ ก็ใช้จับกุมดำเนินคดีผู้กระทำผิดกฎหมายไปแล้วนับ 100 ราย ทุกท่านที่มาอยู่ตรงนี้ เชื่อว่ามีความกังวลที่กัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติด ขอย้ำว่าประกอบธุรกิจ-กิจการ ถ้าทำถูกกฎหมาย ท่านสบายใจได้

“แต่ถ้าท่านยังไม่มั่นใจ กล้ากลัว ๆ เดี๋ยวกัญชาจะกลับไปเป็นยาเสพติด กลัวเพราะไม่มีกฎหมายควบคุม ผมบอกตรงนี้เลย เรามีกฎหมายควบคุมแล้ว คือประกาศที่ออกมาก่อนหน้า การจะเปลี่ยนไปมามันไม่ง่าย แต่ถ้ามันเป็นแบบนั้นได้ นั่นหมายความว่าพวกผมไม่อยู่แล้ว ตอนนี้ขึ้นกับพวกท่านแล้ว ว่าจะเอาอย่างไร ท่านต้องการคนที่เป็นปากเสียงแทนท่านหรือไม่ ถ้าผมเข้าไปอยู่ในสภา ผมจะดัน พ.ร.บ.กัญชาฯ ต่อ เรื่องนี้มันต้องช่วยกันสู้”