โลกออนไลน์แชร์เรื่องราวจาก เฟซบุ๊ก Kornprom Saengaram ของนายแพทย์กรพรหม แสงอร่าม หรือ กัปตันต้วง อดีตนักบินและศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก ได้โพสต์เล่าประสบการณ์ที่ตนเองได้รับการประเมินการสั่งน้ำมันจากองค์กรด้วยคะแนน 1.13/10 เพราะถูกมองว่าสั่งน้ำมันเกินเกณฑ์ขั้นต่ำเป็นประจำ ส่งผลให้เครื่องหนัก สิ้นเปลือง

เนื่องจากตนเองเคยพบกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์เคยจัดน้ำมันให้ตามเกณฑ์ขั้นต่ำ จนเกิดเหตุน้ำมันไม่พอ กัปตันและนักบินต้องตัดสินใจครั้งใหญ่เพื่อรักษาชีวิตของผู้โดยสารทั้งลำ ซึ่งกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นสมัยที่ยังทำงานกัปตันไม่นาน ต้องบินเที่ยวบิน กรุงเทพฯ – กวางเจา มีน้ำมันสำรองอีก 30 นาที แต่ส่วนน้ำมันสำรองนั้นนักบินจะไม่สามารถแตะได้ เพราะหากใช้น้ำมันไปถึงจุดนั้นจะเสี่ยงที่จะเป็นเรื่องใหญ่อาจมีโทษถึงติดคุก ซึ่งเมื่อไปถึงกวางเจา พยากรณ์อากาศบอกว่าแจ่มใส แต่ความจริงคือมีพายุเข้า ไม่มีน้ำมันพอให้บินวนรอพายุซาลง เพราะเติมมาแค่เกณฑ์ขั้นต่ำเท่านั้น

เมื่อตัดสินใจพยายามลงจอดแต่ก็เจอพายุฝนจนมองไม่เห็นสนามบิน จึงตัดสินใจนำเครื่องขึ้นและจะไปจอดที่ฮ่องกงแทนเพื่อหลบพายุ แต่ระหว่างที่กำลังบินไปฮ่องกง เพื่อนนักบินแจ้งข่าวร้ายว่าน้ำมันไม่พอ กัปตันจึงบอกไปว่าจะไม่พอได้อย่างไร เพราะตนสั่งเติมน้ำมันมาตามกำหนดทุกอย่าง และยังไม่ได้บินวนรอจนสิ้นเปลืองน้ำมัน จึงตัดสินใจเปลี่ยนเส้นทางไปจอดที่มาเก๊าซึ่งใกล้กว่า แต่พอไปถึงก็ยังพบว่าต้องเสี่ยงอีกเพราะก็มีพายุเข้าเหมือนกัน เรียกได้ว่าเจอแต่ความโชคร้าย

ซึ่งสนามบินที่ลงจอดเป็นแบบเก่าที่นักบินต้องสังเกตไฟนำร่องไปสนามบินเอง เมื่อลดระดับลงไปมองแทบไม่เห็นอะไร จนต้องลงไปเรื่อยๆ ถึงระดับ 900 ฟุต จึงเห็นไฟกะพริบลางๆ แต่กลับกลายว่าเป็นไฟของคาสิโน จึงต้องปลดออโต้ไพลอตหักมุมเลี้ยวเอง ขณะกำลังจะลงระบบก็แจ้งอีกว่าน้ำมันในปีกระดับต่ำแล้ว จึงต้องลงจอดให้ได้อย่างเดียว ซึ่งวันนั้นถือว่าโชคดีมากที่ลงจอดได้อย่างปลอดภัย

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด พอเครื่องจอดเเล้ว เจ้าหน้าที่การบินมาเก๊าขอขึ้นมาตรวจการสั่งน้ำมัน ทางนั้นคงนึกว่าสั่งน้ำมันมายังไง ถึงบินมาได้แค่นี้เอง ยังไม่ได้วนอะไรเลย พอขึ้นมาดูเอกสาร ตรวจใบขับขี่เครื่องบิน ก็พบว่าสั่งตามขั้นต่ำที่คำนวณมา

ต่อมาได้เขียน Air safety report ส่งไปว่า ทำไมน้ำมันจึงไม่พอทั้งที่ไม่มีการรั่วและไม่ได้บินวนรอ บินตามแผนการบินทุกอย่าง ผลสอบสวนสรุปมาว่า สำนักงานภาคพื้นดินที่เตรียมแผนการบินโดยคอมพิวเตอร์ ถูกสั่งให้คิดน้ำมันไปยังสนามบินสำรอง (ฮ่องกง) โดยลากเส้นไปตรงๆ จากกวางเจาไปฮ่องกง นั่นก็ทำให้ช็อกซ้ำเพราะการบินจริงไม่สามารถบินไปตรงๆ แบบนั้นได้ ต่อให้ทำได้ก็ต้องไปวนรอคิวจอดที่ฮ่องกง ซึ่งน้ำมันก็ไม่พออยู่ดี

ส่วนสถานการณ์หลังจากนั้น ด้วยความที่ตนเลือกบินแต่เที่ยวบินไม่ไกลไทยมาก เพราะต้องทำหน้าที่หมอด้วย ทำให้จะได้ไปแต่ประเทศที่สภาพอากาศไม่ดีนัก การรอจอดอาจจะนานด้วย ส่งผลให้ ต้องขอน้ำมันเกินเกณฑ์ไปอยู่เสมอเพื่อความปลอดภัย เพราะใช้น้ำมันตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้วไม่พอที่จะไปสนามบินสำรองจนเกือบตกทะเลตายยกลำ 

ภายหลังมีการแจ้งมาว่าเติมน้ำมันเพิ่มให้แล้ว ขอกัปตันอย่าสั่งเพิ่ม แต่ตนเองไม่เชื่อถือระบบคำนวณอีกต่อไปแล้วซึ่งตนมองว่ากัปตันมีดุลยพินิจสั่งน้ำมันเพิ่มแต่ละเที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย แต่กลับถูกประเมิน 1.13 /10 จากการสั่งน้ำมันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้จะได้รับการประเมินที่ต่ำมากในเรื่องการสั่งน้ำมัน แต่ก็ไม่ได้ถึงเกณฑ์จะต้องโดนคัดออก สุดท้ายขอตัดสินใจลาออกเอง และเลือกเล่าเรื่องเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้ถูกประเมินคนอื่นๆ ที่อาจจะไม่ได้มีอาชีพอื่นรองรับเช่นเดียวกับตน

• “การบินไทย” ออกแถลงโต้อดีตกัปตัน “หมอต้วง” ยันไม่มีนโยบายประหยัด ลดปริมาณน้ำมัน