หัวอกพ่อแม่ ลูกสาววัย 14 ปี ถูกอริยกพวกนับ 10 ทำร้ายถึงบ้าน ขู่เผาบ้าน-จะตีให้ตาย

Home » หัวอกพ่อแม่ ลูกสาววัย 14 ปี ถูกอริยกพวกนับ 10 ทำร้ายถึงบ้าน ขู่เผาบ้าน-จะตีให้ตาย
หัวอกพ่อแม่ ลูกสาววัย 14 ปี ถูกอริยกพวกนับ 10 ทำร้ายถึงบ้าน ขู่เผาบ้าน-จะตีให้ตาย

พ่อแม่พาเด็กหญิงวัย 14 ปี เข้าแจ้งความ หลังถูกอรินับ 10 คน บุกเข้ามาทำร้ายร่างกายปางตายถึงในบ้าน แถมขู่ว่าห้ามบอกใครไม่งั้นจะเผาบ้าน พร้อมกับจะตีให้ตาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.ค.) ได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 7 บ้านนามูล ตำบลดูลสาด อำเภอกระนวน จังหวัดขอนแก่น หลัง น้องพราว (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) อายุ 15 ปี ถูกคู่อรินับ 10 ราย บุกเข้ามาทำร้ายถึงภายในบ้าน จนทำให้น้องพราวได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการปางตาย

คนข้างบ้านเห็นเหตุการณ์พยายามเข้าช่วยเหลือ แต่ถูกกลุ่มคู่อริของน้องพราวขู่ไว้ หลังจากนั้นเพื่อนบ้านก็ได้เร่งเข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเยาวชนอายุประมาณ 15-17 ปี เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา

ก่อนหน้านี้เยาวชนกลุ่มดังกล่าวเคยทำร้ายร่างกายน้องพราวมาแล้วถึง 4 ครั้ง พร้อมขู่ไว้ว่าห้ามบอกผู้ปกครองหรือแจ้งตำรวจเพราะว่าจะเอาให้ถึงตาย ซึ่งการทำร้ายร่างกายครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 นั้นเป็นการทำร้ายร่างกายโดยไม่มีสาเหตุ อาจจะเป็นการที่ว่าไม่ชอบหน้ากัน

ส่วนครั้งที่ 3 มีคลิปถูกกลุ่มเยาวชนกลุ่มดังกล่าวเข้ามาทำร้ายน้องพราว ส่วนครั้งล่าสุดซึ่งเป็นครั้งที่ 4 ไม่มีคลิปแต่อย่างใด มีสาเหตุมาจากเรื่องของการหึงหวง เนื่องจากฝั่งของคู่กรณีไม่พอใจที่ผู้ชายนั้นมีการทักมาคุยกับน้องพราว

ซึ่งก่อนทำร้ายร่างกายน้องพราวครั้งล่าสุดนั้น กลุ่มคู่กรณีที่เป็นเยาวชนได้มีการมาดูลาดเลาที่บ้านประมาณ 3 ครั้ง ก่อนถึงช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. คู่กรณีเห็นว่าที่บ้านไม่มีใครอยู่แล้วนอกจากน้องพราว จึงได้ตัดสินใจบุกเข้ามาภายในบ้าน โดยการงัดประตูเข้ามาและทำร้ายน้องพราวที่อยู่ภายในบ้านเพียงคนเดียว

น้องพราว เปิดเผยว่า ตนเองนั้นเคยถูกทำร้ายร่างกายมาแล้วทั้งหมด 4 ครั้ง ซึ่งรอบนี้ที่คู่กรณีเข้ามาทำร้ายตนเอง เป็นเพราะว่าสาวประเภทสองที่เป็นหนึ่งในกลุ่มคู่กรณีเกิดความหึงหวงเนื่องจากมีผู้ชายทักมาคุยกับตนเอง แต่ตนเองนั้นไม่รู้ว่าคนที่คุยด้วยนั้นเป็นคนคุยเก่าของคนในกลุ่มดังกล่าว

กลุ่มคู่กรณีเลยทักเข้ามาทางเฟซบุ๊กขู่จะทำร้ายร่างกาย พอกลุ่มคู่กรณีบุกเข้ามาภายในบ้านนั้นตนเองสังเกตเห็นว่าคู่กรณีนั้นพกมีดสั้น ไม้หน้าสาม รวมถึงเสียม จากนั้นก็ได้รุมทำร้ายตนเอง โดยตอนนั้นตนเองคิดว่าน่าจะไม่รอดแล้ว เพราะคู่กรณีได้มีการเหยียบเข้าไปที่บริเวณหน้าอก จนทำให้ตนเองนั้นหายใจไม่ออก ซึ่งตอนเกิดเหตุนั้นประจวบเหมาะกับตอนที่ไม่มีผู้ปกครองอยู่พอดีกลุ่มคู่กรณีเลยกล้าที่จะเข้ามาทำร้ายร่างกายถึงในบ้าน

หลังจากคู่กรณีได้ทำร้ายร่างกายเสร็จ ก็ได้มีเพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลรักษาทันที และแพทย์วินิจฉัยว่าตนเองนั้นถูกของแข็งตีเข้าไปที่บริท้ายทอยทำให้มีรอยฟกช้ำ

นอกจากนี้ ยังมีบริเวณตาก็ยังมีรอยฟกช้ำเช่นกัน ก่อนคู่กรณีจะเข้ามานั้นตนเองสังเกตว่ามีคนในกลุ่มของคู่กรณีนั้นขับรถจักรยานยนต์ผ่านที่บริหน้าบ้านประมาณ 2-3 ครั้ง และมีการส่งแชทมาข่มขู่ตลอด พร้อมกับขู่ว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปบอกใครจะเอาถึงตาย รวมถึงจะเผาบ้านทิ้งด้วย

ด้าน นายสาย (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) พ่อของน้องพราว กล่าวว่า ตนเองนั้นจะติดต่อไปยังผู้ปกครองที่เข้ามาทำร้ายลูกของตน ว่าจะมีการรับผิดชอบหรือไม่ ถ้าไม่รับผิดชอบก็จะดำเนินคดีต่อไป เพราะว่าตนเองนั้นไม่ยอมให้ลูกตนเองโดนทำร้ายฟรีๆ เนื่องจากครั้งแรกและครั้งที่ 2 เป็นการทะเลาะวิวาทธรรมดา แต่ครั้งที่ 3 และ 4 ถึงกับกระอักเลือดมา

ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองสังเกตมาตลอดว่าน้องนั้นมีร่างกายบอบช้ำมา จนถึงครั้งล่าสุดน้องยอมเปิดปากบอก พร้อมกับบอกว่าที่ไม่กล้าบอกเพราะกลุ่มผู้ก่อเหตุนั้นข่มขู่เอาไว้ ว่าถ้าคนอื่นรู้เรื่องจะเอาให้ถึงตาย ซึ่งหลังจากทราบเรื่องก็ได้มีการรวบรวมหลักฐานเข้าแจ้งความ โดยมีร้อยเวรรับเรื่องไว้แล้ว

จากนั้นตนเองก็ได้มีการติดต่อไปยังผู้ปกครองของหนึ่งในกลุ่มที่เข้ามาทำร้ายร่างกายลูกสาวตนเอง ก็พบว่าทางผู้ปกครองนั้นไม่ชดใช้ค่าเสียหายให้ แต่จะให้ดำเนินคดีกับทางเด็กเลย ตนเองมองว่าการกระทำของเด็กกลุ่มดังกล่าวนั้นรุนแรงเกินไป

ก่อนหน้านี้เยาวชนกลุ่มดังกล่าวก็เคยไปทำร้ายคนอื่นเช่นเดียวกัน โดยไปทำร้ายเด็กคนนึง มียายเข้าไปห้าม เด็กกลุ่มนั้นก็ได้ทำร้ายร่างกายยายที่เข้าช่วยเหลือเช่นกัน แต่เขาเลือกที่จะไม่แจ้งความเพราะกลัวว่าจะเกิดปัญหา ส่วนตนเองนั้นจะไม่ยอมความเด็ดขาดเพื่อจะไม่ให้เด็กกลุ่มดังกล่าวไปทำร้ายคนอื่นอีก ซึ่งการกระทำดังกล่าวนั้นเกินการกระทำของเยาวชนเป็นอย่างมาก

ด้าน นายวิเชียร เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า กลุ่มดังกล่าวบุกรุกเข้าไปภายในบ้าน โดยการพังประตูเข้าไป ตนเองจึงรีบเข้าไปห้ามแล้วรีบพาตัวน้องพราวไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งสภาพของน้องพราวขณะนั้นอยู่สภาพนอนจมกองเลือดอยู่

ตนเองขึ้นไปช่วยไม่ทันเพราะว่ามีการแบ่งกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 2-3 คน กันประตูบ้านเพื่อไม่ให้ขึ้นไปช่วยเหลือ ตนเองมองว่าการกระทำดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่อุอาจมาก โดยเยาวชนกลุ่มนั้นมีการข่มขู่ว่าจะเผาบ้านด้วย

พ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรกระนวน ได้เผยว่า เบื้องต้นผู้เสียหายได้เดินทางเข้าแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรกระนวน ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้มีการไกล่เกลี่ยกัน ถ้าเกิดการไกล่เกลี่ยเพื่อเรียกร้องค่าเสียหายนั้นไม่สำเร็จ ผู้เสียหายสามารถดำเนินคดีต่อทางกฏหมายได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ