ทัศนคติของผู้นำองค์กรแบบใดบ้าง ที่ทำให้ลูกทีมสิ้นหวัง หมดศรัทธา และตัดสินใจลาออกมากที่สุด
ความสำเร็จขององค์กรไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่กลยุทธ์หรือแผนธุรกิจที่ดีเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำองค์กรกับลูกทีมด้วย ทัศนคติและวิธีการนำของผู้นำส่งผลโดยตรงต่อแรงจูงใจ ความรู้สึกต่อองค์กร และความตั้งใจของพนักงานในการทำงานให้กับบริษัท ดังนั้น การที่พนักงานตัดสินใจลาออก มักเกิดจากทัศนคติและพฤติกรรมของผู้นำองค์กรที่สร้างความรู้สึกสิ้นหวังและหมดศรัทธา บทความนี้จะพาไปสำรวจทัศนคติของผู้นำที่มักจะนำไปสู่การลาออกของลูกทีม พร้อมเหตุผลเชิงลึกและข้อมูลเชิงสถิติ
1. ผู้นำที่ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็น (Lack of Listening)
รายละเอียด: ผู้นำที่ไม่เปิดใจรับฟังความคิดเห็นของพนักงานหรือไม่ให้พื้นที่ในการแสดงออก ส่งผลให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองไม่มีความสำคัญและไม่มีส่วนร่วมในองค์กร ซึ่งเป็นสาเหตุให้พวกเขาหมดความกระตือรือร้นและความศรัทธาในตัวผู้นำ
เสียงสะท้อน: “ผู้นำไม่เคยเปิดโอกาสให้เราแสดงความคิดเห็นใด ๆ เลย เหมือนเราทำงานตามคำสั่งอย่างเดียว ไม่มีโอกาสเติบโตทางความคิด” ข้อมูลจากการสำรวจ: จากการสำรวจโดย Gallup (2564) พบว่า 47% ของพนักงานที่ตัดสินใจลาออกให้เหตุผลว่า ผู้นำไม่รับฟังความเห็นของพวกเขา
แหล่งอ้างอิง: Gallup, State of the Global Workplace Report 2024
2. ผู้นำที่มุ่งเน้นผลลัพธ์เพียงอย่างเดียว (Results-Only Leadership)
รายละเอียด: ผู้นำที่สนใจเฉพาะตัวเลขหรือผลลัพธ์ โดยไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการหรือสภาพจิตใจของพนักงาน จะสร้างความกดดันและความเครียดสะสมให้กับลูกทีม ซึ่งท้ายที่สุดอาจนำไปสู่การลาออก
เสียงสะท้อน: “ทุกอย่างถูกวัดด้วยตัวเลข ไม่มีใครใส่ใจความรู้สึกหรือความยากลำบากในการทำงาน” ข้อมูลจากการสำรวจ: สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2564) พบว่า 32% ของพนักงานที่ลาออกจากงานในไทย ระบุว่า พวกเขารู้สึกถูกกดดันให้มุ่งเน้นแค่ผลลัพธ์เท่านั้น
แหล่งอ้างอิง: สำนักงานสถิติแห่งชาติ, รายงานสภาวะการทำงานในประเทศไทย
3. ผู้นำที่ขาดความโปร่งใสและยุติธรรม (Lack of Transparency and Fairness)
รายละเอียด: การขาดความโปร่งใสในการตัดสินใจและการปฏิบัติอย่างไม่ยุติธรรมในเรื่องของการเลื่อนขั้น การจ่ายโบนัส หรือการให้สิทธิพิเศษ ส่งผลให้พนักงานรู้สึกไม่มั่นคงและไม่ไว้วางใจผู้นำ
เสียงสะท้อน: “การตัดสินใจของหัวหน้าเต็มไปด้วยอคติและไม่มีความโปร่งใส ทำให้เรารู้สึกว่าไม่มีโอกาสเติบโต” ข้อมูลจากการสำรวจ: จากการศึกษาของ Harvard Business Review (2565) พบว่า 29% ของพนักงานลาออกเพราะรู้สึกว่าผู้นำไม่มีความยุติธรรมในการปฏิบัติต่อทีม
แหล่งอ้างอิง: Harvard Business Review, The Impact of Leadership Transparency on Employee Retention
4. ผู้นำที่ไม่ให้การสนับสนุนพนักงาน (Lack of Support and Development Opportunities)
รายละเอียด: การที่ผู้นำไม่ให้การสนับสนุนพนักงานในด้านการพัฒนาทักษะ หรือไม่ใส่ใจเรื่องการเติบโตทางอาชีพ ส่งผลให้พนักงานรู้สึกติดขัดและหมดแรงจูงใจในการทำงาน
เสียงสะท้อน: “เรารู้สึกว่าการทำงานที่นี่ไม่มีอนาคต ไม่มีใครใส่ใจในการพัฒนาความสามารถของเรา” ข้อมูลจากการสำรวจ: การสำรวจโดย Korn Ferry (2564) ระบุว่า 34% ของพนักงานที่ลาออกบอกว่า พวกเขาไม่ได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาตนเอง
แหล่งอ้างอิง: Korn Ferry, Employee Engagement and Retention Study 2024
5. ผู้นำที่แสดงอารมณ์เชิงลบและสร้างบรรยากาศที่ไม่ดี (Negative Emotional Leadership)
รายละเอียด: ผู้นำที่แสดงอารมณ์เชิงลบ เช่น การตำหนิอย่างไม่เหมาะสม การแสดงความโกรธต่อหน้าลูกทีม หรือการสื่อสารด้วยการใช้ถ้อยคำที่ไม่สร้างสรรค์ ส่งผลให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่ตึงเครียดและไร้ความสุข
เสียงสะท้อน: “บรรยากาศการทำงานเต็มไปด้วยความตึงเครียด หัวหน้าใช้อารมณ์ในการจัดการปัญหา ทำให้เราไม่อยากทำงานต่อ” ข้อมูลจากการสำรวจ: สถาบันวิจัยการจัดการในประเทศไทย (TMA) รายงานว่า 28% ของพนักงานที่ลาออกกล่าวว่า บรรยากาศที่เต็มไปด้วยอารมณ์เชิงลบเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ตัดสินใจลาออก
แหล่งอ้างอิง: สถาบันวิจัยการจัดการในประเทศไทย (TMA), การสำรวจสถานะความสุขในที่ทำงานของพนักงานไทย (2565)
ผู้นำที่มีทัศนคติและพฤติกรรมไม่เหมาะสม สามารถทำให้พนักงานรู้สึกสิ้นหวังและหมดศรัทธาในองค์กร ส่งผลให้การลาออกเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความสามารถในการรับฟัง การให้การสนับสนุนอย่างเหมาะสม และการสื่อสารด้วยความโปร่งใสและยุติธรรม เป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยรักษาความผูกพันของพนักงานต่อองค์กรและลดอัตราการลาออก
แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม:
-
Gallup. (2024). State of the Global Workplace Report 2024.
-
สำนักงานสถิติแห่งชาติ. (2564). รายงานสภาวะการทำงานในประเทศไทย.
-
Harvard Business Review. (2565). The Impact of Leadership Transparency on Employee Retention.
-
Korn Ferry. (2024). Employee Engagement and Retention Study.
-
สถาบันวิจัยการจัดการในประเทศไทย (TMA). (2565). การสำรวจสถานะความสุขในที่ทำงานของพนักงานไทย.