จากเหตุการณ์สาวไทยอายุราวประมาณ 32 ปี อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ถูกฆาตรกรรมที่ประเทศไต้หวัน บนภูเขา เมืองจีหลง เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2567 ที่ผ่านมา ด้านผู้ตายก่อนเสียชีวิต ได้วิดีโอคอลหาแม่และป้าว่าโดนนายจ้างใช้งานหนัก โดยภายในบ้านของนายจ้างเสื้อผ้าข้าวของรกทั่วบ้าน ไม่ได้กินข้าวโมโหจนเตะถังน้ำใส่
- นายจ้าง ปัดเสียงแข็ง! ฆ่าโหดสาวไทย ไต้หวัน ขณะที่จนท.มีหลักฐานมัดตัว
- แม่สาวไทยดับในไต้หวัน เปิดใจ! ลูกทะเลาะกับนายจ้างก่อนพบเป็นศพ
- สลด! สาวไทยวัย 30 ในไต้หวัน ถูกนายจ้างแทงเสียชีวิต ถูกนำศพไปทิ้งเหว
ล่าสุดความคืบหน้าเมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ช่วงเช้าวันนี้นางผ่องอำไพ แม่ผู้ตาย ได้เดินทางไปทำหนังสือเดินทาง เพื่อเดินทางไปทำพิธีฌาปนกิจศพลูกสาวที่ไต้หวัน ใจจริงอยากได้ร่างกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านมากกว่าแต่เมื่อเป็นไปไม่ได้ ก็ต้องส่งแม่ผู้ตายไปทำพิธีฌาปนกิจและนำอัฐิกลับมาบ้าน
ด้านป้าของผู้ตายเผย สถานกงศุลไทยโทรมาแจ้งให้ทราบว่า ขณะนี้ตำรวจไต้หวันจับตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้วเป็นนายจ้าง ตอนนี้ควบคุมตัวอยู่สถานีตำรวจ โดยตนไม่อยากให้ได้รับการประกันตัวเพราะกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
ยังกล่าวต่ออีกว่า หลานสาวเดินทางไปทำงานร้านนวดที่ไต้หวันตามคำชักชวนของพี่สาวซึ่งทำอยู่ก่อนแล้ว โดยจะทำงานแล้วส่งเงินนำกลับมาให้ลูกใช้ ด้านผู้ตายได้ซื้อไอโฟนและซื้อทองสะสมไว้ทอง 5 บาท หลังทำงานร้านนวดได้ 1 ปี ผู้ตายก็เปลี่ยนงานเป็นแม่บ้านได้ 3 วัน ซึ่งนายจ้างได้ค้นกระเป๋าของผู้ตายคงจะพบทอง 5 บาท และไอโฟน ที่ซื้อไว้ฝากลูก ส่วนตัวเชื่อนายจ้างลวงไปฆ่าชิงทรัพย์ เพราะก่อนเสียชีวิตผู้ตายโทรมาบอกว่านายจ้างชวนไปเก็บผักบนภูเขา ซึ่งตนก็บ่นว่าจะขึ้นไปเก็บผักทำไมตอนกลางคืน
“ผู้ตายได้ติดต่อกับแฟนหนุ่ม ซึ่งเดินทางไปทำงานไต้หวันได้ 4 ปี บอกว่ากลัวมาก นายจ้างพาไปเก็บผักบนภูเขา แฟนหนุ่มจึงบอกให้ปักหมุดไว้ จะไปรับกลับ ต่อมาก็ติดต่อผู้ตายไม่ได้ แฟนจึงไปแจ้งตำรวจและบอกพิกัดที่ผู้ตายหายไป ค้นหาจนพบศพซึ่งแฟนหนุ่มเสียใจมาก แฟนเป็นพยานคนเดียวในคดีนี้ และอยู่ในความดูแลของตำรวจ โดยอยากปิดคดีนี้ให้ได้ จึงไม่อยากเปิดเผยตัวเอง เพราะเกรงอันตราย หลานเป็นเสาหลักครอบครัว ต่อไปก็คงต้องหาเงินเลี้ยงเอง”