วันที่ 16 ต.ค. 66 นางลักษณ์ อายุ 60 ปี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ภายหลังเดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.กฤติเดช จันทร์ลา รองสว.สอบสวน สภ.บ้านเป็ด ว่า มีนายสุพจน์ อายุ 49 ปี บุกรุกและงัดบ้าน เข้าไปในบ้าน จำนวน 3 ครั้งแล้ว ครั้งแรกไม่มีหลักฐาน แต่ครั้งที่ 2-3 มีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจคงอยากให้ตำรวจทำการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย
โดยที่เกิดเหตุบ้านของผู้เสียหาย เป็นบ้านปูนชั้นเดียว 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ห้องนอนยายอยู่ห้องที่ 1 หลานสาวอยู่ห้องที่ 2 ส่วนน้าสาวอยู่ห้องที่ 3 มีรั้วติดกับบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ทาสีเขียว แต่ไม่พบตัวคนก่อเหตุ
นางนงลักษณ์ อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านและเป็นยายของหลานสาววัย 16 ปี ที่มีห้องนอนอยู่ตรงกลางของบ้าน พาผู้สื่อข่าวเดินดูรั้วที่อยู่ติดกับบ้านของผู้ก่อเหตุ เป็นรั้วปูน ที่มีลวดหนามขั้นระหว่างกลาง แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ยายได้เอาสังกะสีเก่ามาปิดทับรั้วลวดหนาม เพื่อไม่ให้คนก่อเหตุ ปีนเข้ามาอีก
นางนงลักษณ์ กล่าวว่า หลานสาววัย 16 ปี นั้น เลี้ยงมาตั้งแต่เกิดเพราะพ่อแม่เลิกกัน หลานสาวเป็นคนไม่สุงสิงกับใคร และไม่เคยคุยกับคนก่อเหตุ
กระทั่งวันที่ 3 กันยายน 2566 นายพจน์ได้มุดรั้วเข้ามาในบ้านในช่วงเวลา 5 ทุ่มกว่า มางัดหน้าต่างห้องหลานสาว เรียกให้หลานสาวตื่นมาคุย หลานสาวตกใจ ตะโกนให้ย่ากับน้าสาวมาช่วย และเป็นเรื่องที่ครอบครัวไม่ยอม นำเรื่องแจ้งกำนันให้ทราบ
กำนันเรียกคุยกัน ฝ่ายนายสุพจน์ ยอมรับว่า มุดรั้วเข้าไปหาหลานสาวจริง เพราะเป็นเรื่องปกติที่ผู้ชายเห็นสาวๆก็รักก็ชอบ แต่จะไม่เข้าไปอีก และขอจ่ายค่าทำขวัญให้ 5,000 บาท ทุกอย่างก็จบไป และไม่มีการแจ้งความ
ต่อมาวันที่ 13 กันยายน 2566 นายพจน์ก็ปีนรั้วเข้ามาในบ้านในตอนกลางคืนอีก หลานก็ตะโกนขอความช่วยเหลืออีก ซึ่งครั้งที่ 2 นั้น มีวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้ จึงไม่เจรจา แต่นำภาพเป็นหลักฐานเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.บ้านเป็ด ให้จับกุมนายสุพจน์ มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางนงลักษณ์ กล่าวอีกว่า หลังแจ้งความก็ไม่มีความคืบหน้า ส่วนนายสุพจน์ก็ชอบมานั่งมอง ยืนมองที่ข้างรั้ว เห็นหลานสาวในบ้าน ก็จะช่วยตัวเองสำเร็จความใคร่อยู่ข้างรั้วประจำ แต่ไม่สนใจ เพราะไม่อยากยุ่งด้วย
กระทั่งล่าสุดวันที่ 12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ช่วงประมาณตีหนึ่ง หลานสาวตะโกนขอความช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครได้ยิน จึงโทรศัพท์มาบอกว่า มีคนเข้ามาในบ้าน และพยายามงัดประตูห้อง จึงรีบถืออาวุธมีดออกจากห้อง เข้าไปดูในบ้าน แต่ไม่พบคนร้าย
จึงให้ลูกสาวเปิดดูกล้องวงจรปิด ก็เห็นภาพนายสุพจน์ งัดประตูเข้าไปในบ้าน จึงนำหลักฐานไปให้ตำรวจเพิ่มเติม เพื่อเป็นหลักฐานในการจับกุมตัวนายสุพจน์มาดำเนินคดีตามกฎหมาย
เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น ไม่มีความปลอดภัยกับหลานสาว เพราะนายสุพจน์ บอกว่า รักและชอบหลานสาวมาก ตามประสาผู้ชายรักผู้หญิงที่เด็กและสาว จึงคิดว่านายสุพจน์คลั่งรักหลานสาว อาจจะก่อเหตุร้ายขึ้นก็ได้
ทางด้าน พ.ต.อ.ณชรต แก้วเพชร ผกก.สภ.บ้านเป็ด กล่าวถึงกรณีเหตุบุกรุกที่เกิดขึ้นในครอบครัวของนางลักษณ์ ชาวบ้านกุดนางทุย ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ที่ว่าคนก่อเหตุ หลงรักหลานสาว จนมุดรั้ว ปีนกำแพงเข้าไปในบ้าน ในยามวิกาลว่า ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจ
พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุ และตรวจสอบหาตัวคนก่อเหตุแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่พบตัว จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับนายสุพจน์
ในข้อหา บุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน ส่วนข้อหาอื่นๆหากจับกุมตัวได้ก็จะนำตัวมาสอบสวน และตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย และถ้ามีสารเสพติดก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มและควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย