สืบเนื่องจาก กรณีของ หยก นักเคลื่อนไหวทางการเมือง วัย 15 ปี ได้ออกมาโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแจ้งว่า “โรงเรียนบอกว่าไล่เราออกแล้ว บอกว่าให้เราจำไว้ว่าต่อไปนี้เราคือบุคคลภายนอก” หลังจากการนั้นได้เกิดเหตุการณ์ หยกปีนรั้ว ขึ้น เพราะวันต่อมา หยก ยังต้องการเข้าไปศึกษาภายในโรงเรียนดังกล่าว แต่ทางโรงเรียนนั้นไม่อนุญาตให้เข้า เพราะ หยก ใส่ชุดไปรเวทและทำสีผม ซึ่งทางโรงเรียนนั้นถือว่าผิดกฎ
ล่าสุด 17 มิ.ย. 66 ทางโรงเรียนนั้นได้ออกมาประกาศแถลงการณ์ฉบับที่ 2 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีเนื้อหาสำคัญว่า “นางสาวธนลภย์ ไม่มีสภาพการเป็นนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ” เนื่องจากการมอบตัวไม่เป็นไปตามเงื่อนไขในการมอบตัวตามประกาศการรับนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ที่กำหนดให้นักเรียนทุกคนต้องมามอบตัวที่โรงเรียนพร้อมกับผู้ปกครอง (ผู้ปกครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖) อันเป็นเงื่อนไขสำคัญตามระเบียบและแนวปฏิบัติในการมอบตัว ซึ่งนำมาใช้กับนักเรียนทุกคน ดังนั้นจึงเป็นเหตุให้ในวันที่ 10 มิถุนายน 2566 ระบบจัดเก็บข้อมูลนักเรียนรายบุคคล (DATAMANAGEMENT CENTER : DMC) ของกระทรวงศึกษาธิการ จึงไม่มีฐานข้อมูลนักเรียนของ นางสาวธนลภย์ ในระบบตั้งแต่ต้น
- หม่อมปลื้ม ซัดปม “น้องหยก” ลั่น! ฝากถึงผู้ใหญ่ อย่าให้ท้ายเด็ก
- “หยก” ปีนหน้าต่าง เข้าโรงเรียน ครูแจ้งขู่ข้อหา บุกรุก ตำรวจมากันเต็ม
- สพฐ. เปิดโอกาสให้ น้องหยก เข้าเรียนต่อได้ แต่ต้องทำตามกฎระเบียบ ของโรงเรียน
หยกโพสต์แจง ทำไมต้องทำ
ต่อมาในวันเดียวกันนั้น หยก ก็ได้ออกมาโพสต์ถึงทางโรงเรียนเช่นกัน โดยแจงเหตุผล 5 ข้อ ว่าตนเองต้องการอะไร และเพราะเหตุใดจึงทำพฤติกรรมดังกล่าว โดย หยก นั้นระบุข้อความว่า
- 1.หนูไม่ได้เข้าเรียนตามเวลาที่ใจปรารถนา แต่ที่หนูเข้าห้องสายตอนนี้เพราะถูกกีดกันไม่ให้เข้าโรงเรียน มันยากลำบากมาก หนูเข้าคาบตามเวลาที่กำหนดตลอด คาบไหนออดดังแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปทันที
- 2.หนูไม่ได้เลือกเรียนเฉพาะวิชาที่ชอบ แต่หนูเห็นว่าวิชาจริยธรรม เป็นวิชาที่ไม่มีประโยชน์ หนูคิดว่าสอนกันมาแบบนี้ก็ไม่มีใครเป็นคนดีขึ้น จากการต้องฟังว่าเราต้องเป็นคนดี
- 3.หนูไม่ได้ต่อต้านทุกกิจกรรมของโรงเรียน เหมือนกับในคุกบ้านปรานีเช่นกัน หนูไม่ท่องอาขยานก่อนกินข้าว แต่ถ้าต้องทำความสะอาดตรงกลางหนูก็ทำ เรื่องไหว้ครู ต่างๆ หนูเห็นว่าไม่มีประโยชน์กับเยาวชนและนักเรียน
- 4.การกระทำนี้ ไม่ใช่หนูดื้อแพ่งโง่ๆ แต่หนูคิดว่า สิ่งที่ทำอยู่ในโรงเรียนในประเทศคือเรื่องไม่ปกติ เด็กหลายคนก็คงอยากแต่งตัวไปรเวทเหมือนกันแหละ แต่อาจจะถูกพ่อแม่ไม่ให้ สังคมไม่ให้ โครงสร้างที่กดทับ ถูกโรงเรียนกดทับ แล้วก็ไม่มีความสามารถที่จะเป็นเจ้าของร่างกายตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เริ่มมาตั้งแต่ในชั้นเป็นเด็กแล้วคุณจะคาดหวังว่าเราจะมีผู้ใหญ่ที่โตไปเป็นผู้พิพากษาหรือข้าราชการ หรือคนมีตำแหน่งแล้วให้เค้ากล้าหาญที่จะหักคำสั่งของเจ้านายในเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควรได้ยังไงกันคะ
- 5.สังคมไทยก็ต้องเปลี่ยนตอนนี้ ถ้าไม่ใช่ตอนนี้แล้วจะเป็นตอนไหนคะหนูพูดในฐานะที่ตัวเองเป็นเยาวชนเพราะเปลี่ยนเพื่อให้หนูได้อยู่ต่อให้เพื่อนๆทุกคนได้ไปต่อพร้อมกัน การที่ผู้ใหญ่ชอบโลกแบบของผู้ใหญ่ก็คือเรื่องนึง แล้วพวกหนูในฐานะเด็กมีถ้าอยากเปลี่ยนแปลงเราต้องทำยังไง การร้องขอดีๆหลายสิบปีที่ผ่านก็ปรากฎชัดแล้วว่าไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง
ในวันนี้ สิ่งที่หนูทำไม่ได้เป็นเรื่องฆ่าคนตาย เป็นการแสดงออกทางความคิดผ่านสัญญะ การแต่งตัวแบบนี้ไม่ได้ทำให้หนูเรียนไม่ได้ สิ่งที่ทำให้เรียนไม่ได้คือโรงเรียนและบุคลากร เรื่องนี้เป็นบททดสอบของสังคมไทยทำให้เห็นว่า จะพิสูจน์อะไรอีก ถ้าตกลงแล้วสถานศึกษาหรือทัศนคติของสังคมไทย ว่าจะยังไง จะใช้วิธีปัดตกเขี่ยทิ้งกลบฝังคนที่อยากได้ความเปลี่ยนแปลงใช่ไหม
ติดตามข่าวสาร Bright Today ช่องทางอื่น ๆ
Website : BRIGHT TODAY
Facebook : BRIGHT TV
Line Today : BRIGHT TODAY