หมู่บ้านหรู 1 ปี โจรขึ้นเกือบ 20 ครั้ง ลูกบ้านท้อ แจ้งตร.ไม่คืบ บอกให้ดูแลตัวเอง แถมระบุถ้าจับโจรได้ตำรวจจะรีบไปทันที ชาวบ้านงงว่าทำไมตำรวจพูดแบบนั้น
เมื่อวันที่ 8 ก.พ.65 ที่หมู่บ้านวิวสวน ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี น.ส.นันทนา ใจตรง เจ้าของบ้าน เปิดใจกับ ‘ข่าวสดออนไลน์’ หลังจากถูกโจรขึ้นบ้าน 1 ปี โจรขึ้นบ้านเกือบ 20 ครั้ง มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท
น.ส.นันทนา กล่าวว่า บ้านขถูกโจรขึ้นในวันที่ 3 ก.พ. ช่วงเวลาประมาณตี 3 โจรได้ปีนขึ้นจากกำแพงด้านหลังบ้าน แล้วอ้อมมายังประตูด้านหน้า พร้อมเอาของแข็งสะเดาะกลอนประตูไม้ออก เปิดเจอกับประตูมุ้งลวดเหล็กดัด ที่ชะโงกหน้าเข้าไปในบ้าน จะเห็นตู้กระจกที่เป็นของมีค่าอยู่ ตนเข้าใจว่าโจรพยายามจะงัดของมีค่าในตู้นั้น แต่ประตูบายแรกไม่สำเร็จ จึงเดินอ้อมไปประตูฝั่งด้านหลัง และทำแบบเดิม พยายามเอาของแข็งงัดจนมุ้งลวดเหล็กดัดหัก ใช้เวลาพยายามงัดประมาณ 40 นาที แต่ไม่สำเร็จจึงเปลี่ยนประตู เดินวนอยู่ในบ้านรวมแล้วประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถงัดเข้าไปได้ จึงปีนข้ามไปงัดบ้านข้างๆ ก็ได้ทรัพย์สินไปจำนวนหนึ่ง แต่เหมือนไม่มากพอ ก็วนกลับมาที่บ้านตนอีกครั้ง แต่ก็งัดไม่สำเร็จอยู่ดีและหนีไป
หมู่บ้านนี้ที่เรารวบรวมความเสียหายของลูกบ้านที่ถูกโจรขึ้น 1 ปี มีประมาณ 19 ครั้ง ยังไม่รวมบางบ้านที่ค้นรถ เข้ามาบ้านแค่ยังไม่งัด เพราะคนเห็นก่อนอีกประมาณ 10 ครั้ง รวมแล้วน่าจะ 20 กว่าครั้ง รูปร่างและพฤติกรรมของโจรทั้งหมด จะคล้ายๆ กันหมดเลย การแต่งตัวใส่ไอ้โมงใส่ รองเท้านินจา ใส่ถุงมือคล้ายกันหมดเลย สำหรับความเสียหาย บางบ้านโดนเยอะสุดคือจะมีทอง 10 บาท เงินสดประมาณ 200,000 บาท โดนไปประมาณเกือบครึ่งล้าน จากนั้นก็มาเรื่อยๆ มีได้เงิน ได้ทอง ได้กล้อง ไม่ได้พระ ถ้ารวมทั้งหมู่บ้านแล้วก็เกือบ 1 ล้านบาท
“เราก็มีความรู้สึกว่าโจรค่อนข้างจะรู้ความเคลื่อนไหวของคนในหมู่บ้าน รู้ว่าตอนนี้มีคนอยู่ ตอนนี้ไม่มีคนอยู่ แต่ว่าช่วงหลังๆ มาโจรเริ่มไม่กลัว ต่อให้มีคนอยู่ เขาก็ขึ้นเหมือนเดิม บ้านบางหลังเขาอยู่ข้างบน โจรงัดอยู่ข้างล่าง เคยมีอยู่หนึ่งหลังที่ลงมาเข้าห้องน้ำกลางดึก โจรกำลังงัดพอดีเลย ก็เลยสวนกัน แต่ว่าโจรมันหลบ เขาก็ไม่รู้ว่าโจรอยู่ เพราะไม่ได้เปิดไฟ เขากลับขึ้นไปนอนต่อเช้ามาถึงได้รู้”
ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงที่กำลังรับมอบนิติบุคคลอยู่ เหตุเกิดตั้งแต่ช่วงที่โครงการยังอยู่ เราได้แจ้งโครงการไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งตอนนี้เราก็ได้รับมอบนิติบุคคลแล้วและเปลี่ยนชุดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งหมด เราก็ไม่รู้จะไปเรียกร้องและทำยังไงแล้ว หวังว่าโจรเห็นข่าวแล้วจะรู้สึกกลัวบ้าง
“ผู้เสียหายคนอื่นๆ ไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ว่า 1 ปี ไม่มีความคืบหน้าเลย ตำรวจแจ้งมาว่าอยากให้เข้าใจว่าตำรวจก็ทำงาน เพราะเขาไม่ได้ดูแลเราบ้านเดียว จึงอยากให้ดูแลตัวเอง ทำให้ตัวเองปลอดภัย ซึ่งเราทำทุกอย่างหมดแล้ว ที่เราโมโหมากๆ คือบ้านถูกงัด เราโทรไปแจ้งความตอนบ่าย ตำรวจบอกติดงาน ดูให้ไม่ได้ ให้ไปที่โรงพัก ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านที่โจรขึ้นบ่อยมาก ตำรวจก็น่าจะทราบดี แต่ตำรวจบอกว่าติดภารกิจอยู่ไม่สามารถมาได้ตอนนี้ ให้เราไปแจ้งความที่โรงพัก หรือถ้าหากจับโจรได้ตำรวจจะรีบไปทันที เราก็งงว่าทำไมตำรวจถึงพูดแบบนั้น เราเป็นลูกบ้าน ต้องให้มาจับโจรเองหรือ เราก็ไม่อยากจะว่าทางตำรวจหรือว่าทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสื่อมเสีย แต่ว่าพอเป็นข่าวปุ๊บ ทำไมเราถึงรู้สึกปลอดภัยขึ้นมาทันที”
เราอยู่กันแบบหวาดระแวง จนมาถึงเวลาที่จำเป็นจะต้องร้องสื่อ ร้องเพจไป เพราะคือเราอยู่กันไม่ได้แล้ว บ้านไหนที่เมีเด็ก มีคนแก่ บางคนก็อยู่กับลูกสองคน เขาไม่สามารถจะนอนได้ เพราะสามีไม่อยู่ เขาต้องมานั่งดูกล้องวงจรปิดแล้วก็บอกลูกมานอนกลางวันแทน เดือดร้อนขนาดนี้แล้ว เราใช้ชีวิตกันประจำวัน เขาไม่มีความสุขแล้ว ตอนนี้เราไม่ได้ห่วงทรัพย์สิน เราห่วงชีวิต เพราะมีความรู้สึกว่าโจรไม่เกรงกลัวตำรวจ ไม่เกรงกลัวว่าใครจะเจอเลย อุกอาจมาก ถ้าใครเจอก็พร้อมบวกตลอดเวลา โจรดูเป็นมืออาชีพมาก เพราะปกติโจรจะรีบมารีบไป แค่รายนี้ ดูไม่รีบร้อนอะไรเลย
เมื่อเป็นข่าวเมื่อคืนที่ผ่านมา มีรองผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรีได้ลงมาดูเหตุการณ์ด้วยตัวเองและท่านให้คำมั่นกับเราว่า จะพยายามจับโจรมาให้ได้ จะดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น ทำให้พวกเราได้สบายใจไปนิดนึง แต่คาดหวังว่าตำรวจจะทำงานแล้วจับโจรให้เราได้แบบชื่นใจแล้วนอนหลับได้อย่างสบายใจ เพราะเราอยู่กันแบบหวาดระแวงมา 1 ปีแล้ว หลังจากนี้ตำรวจจะส่งสายตรวจมาดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านบ่อยขึ้น
บ้านหลังนี้ซื้อมา 4 ล้านบาท มีรปภ. แต่ก็ยังมีโจรขึ้นบ้าน เราต้องคอยจัดเวรยามและดูแลความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน เพื่อจับโจรกันเอง เพราะที่ผ่านมาแจ้งกับทางนิติบุคคลและตำรวจไปแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้า เราติดทั้งกล้องวงจรปิด เหล็กดัด สัญญาณกันขโมย แต่โจรก็ยังขึ้นอยู่ดี ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครแล้ว
ด้าน นายศิวกร บุญทรง อายุ 29 ปี กล่าวว่า ตนเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกโจรขึ้นเมื่อช่วงสิ้นปี 63 โจรเอากล้อง เลนส์ แว่นตากันแดด รวมแล้วมูลค่าประมาณ 50,000 บาทไป แจ้งความแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าจนถึงปัจจุบันที่มีเพื่อนบ้านถูกโจรขึ้นเกือบ 20 หลัง รู้สึกว่าตำรวจน่าจะมีความเคลื่อนไหวอะไรได้แล้ว เพราะรู้สึกเป็นห่วงเพื่อนบ้านทุกคน