พระพยอมชี้ เหมือนตาลยอดด้วน หลังหมอปลา เข้าพบถามถึงกรณี พระกาโตะ แฉซ้ำมีพระผู้ใหญ่หนุนหลัง รับผิดหวังสังคมรุมถล่มผู้เสียหาย

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2565 ที่วัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ ‘หมอปลา’ ได้เดินทางเข้าพบพระพยอม กัลยาโณ เพื่อขอคำชี้แนะในคดีพระกาโตะที่ตกเป็นข่าวว่ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสีกาในรถ ก่อนที่ต่อมาทางพระกาโตะจะตัดสินใจลาสิกขาสึกออกไป

พระพยอม กล่าวว่า พฤติกรรมพระแบบนี้เปรียบเสมือนตาลยอดด้วน ไม่มีโอกาสได้แทงยอดออกใบอีกต่อไปเหมือนกับพระรูปนี้ ดังนั้นแม้ว่าจะตัดสินใจลาสึกออกไปแล้ว การสอบสวนก็ยังต้องดำเนินการต่อไป โดยเฉพาะเรื่องเส้นทางการเงินว่ามีการใช้เงินของวัดไปโอนให้กับใครหรือสาเหตุใดบ้าง ตนเชื่อว่าการที่อดีตพระกาโตะตัดสินใจสึกกะทันหันโดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ความจริงตามข้อครหาเป็นเพราะถูกกดดัน หรือไม่ก็มีคนแนะนำมาให้สึกเพื่อเอาตัวรอดไปก่อน

พระพยอม กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่สีกาตองบอกว่ามีพระผู้ใหญ่สอนให้พูดว่าเรืองที่เกิดขึ้นเป็นเพราะเขาป่วยเป็นโรคทางประสาทนั้น ถ้ามีพระผู้ใหญ่ไปแนะนำให้พูดจาบิดเบือนแบบนั้นจริง สอนให้คนโกหก แสดงว่าตัวเองต้องมีความผิดด้วยและแอบปกปิดอะไรไว้ แค่การพูดโกหกก็ผิดศีล 5 ข้อ แล้ว การสอนให้คนโกหกไม่มีอยู่ในธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าเลย

นอกจากพวกเนื้องอกหรือสาวกเทียมเท่านั้น สถานการณ์ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่าพระย้อยที่ไปฉายเดี่ยวในเรื่องนี้ สุ่มเสี่ยงทำผิดวินัยสงฆ์ไปเสียเอง คือเป็นพระแล้วไปกล่าวหาพระด้วยกันเอง มีความผิดต้องสังฆาทิเสสแต่ไม่ถึงขั้นปาราชิก ต้องไปอยู่กรรมชดใช้

ทางด้านหมอปลา กล่าวว่า เรื่องคดีน้องตองกับพระกาโตะนั้น ตนและทีมงานได้รับข้อมูลมาตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน แล้ว น้องตองเป็นคนนำหลักฐานส่งคลิปเสียงมาให้กับตนตั้งแต่วันนั้น และยืนยันว่าตัวน้องเขาไปมีสัมพันธ์กับพระรูปนี้ในรถจริง

แต่เนื่องจากหลักฐานในตอนนั้นตนเห็นว่ายังไม่แน่หนาเพียงพอ จึงมีการนัดพบกันอีกครั้งที่บ้านของตนในจังหวัดเพชรบุรีในวันที่ 16 เมษายน แต่เนื่องจากน้องตองเป็นคนใจร้อน จึงนำเรื่องคลิปเสียงนี้ไปเปิดเผยกับพระย้อยก่อนจนกลายเป็นข่าวขึ้นมา

หมอปลา กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ตนยังไม่เปิดเผยเรื่องนี้ก่อนพระย้อยนั้น เป็นเพราะตนทำงานกันเป็นทีมและเห็นว่าพยานหลักฐานที่น้องตองให้มาเป็นคลิปเสียงยังไม่เพียงพอที่จะมัดตัวพระรูปนี้ได้ เนื่องจากพระรูปนี้มีพระผู้ใหญ่หนุนหลังอยู่อีกทีหนึ่ง สังเกตได้ว่าวันที่เกิดเรื่องเป็นข่าว พระรูปนี้ยังเดินทางมาหาพระผู้ใหญ่ที่กรุงเทพอยู่เลย และยังมีการถ่ายภาพกับพระผู้ใหญ่โพสต์ลงเฟซบุ๊กอีกด้วย

“ตนจึงต้องการรอให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนมัดตัวได้แน่หนา เพราะจากประสบการณ์จากตัวอย่างที่บุกจับพระนอกรีตเหล่านี้มาหลายเคส ขนาดเห็นกับตาว่าอยู่ในห้องนอนสองต่อสองกับสีกา มือกำลังล้วงอยู่เลย ยังปฎิเสธไม่ยอมรับ มีพระรูปไหนที่ออกมายอมรับบ้าง มีแต่ปฎิเสธกันหมด”

หมอปลา กล่าวอีกว่า ที่ตนแปลกใจและสงสัยสังคมในตอนนี้ คือทำไมคนที่กล้าออกมาเปิดเผยความจริงอย่างน้องตองกลับเป็นฝ่ายโดนด่าโดนทัวร์ลง คนทำผิดกลับมีคนให้กำลังใจ ตนอยากให้สังคมเข้าใจน้องตองใหม่ ว่าการที่น้องยอมออกมาพูดความจริง เปิดเผยความจริง ยอมเอาตัวเองเข้าแลก ตกเป็นตราบาปไปทั้งชีวิตเพื่อไม่ต้องการให้พระรูปนี้ไปทำพฤติกรรมแบบนี้กับใครอีก

“ต่อไปใครจะกล้าออกมาเปิดเผยความจริงอีก น้องเขายอมแลกเพื่อใหเตัวเขาเองเป็นเคสสุดท้าย และน้องเขาก็ไม่รู้หรอกว่าการไปหาที่พึ่งทางใจ ไปหาพระนักเทศน์ให้กำลังใจชื่อดังจะต้องไปเสียตัวไปเป็นเมียพระแบบนี้

ไปเข้าทางไอ้พระพวกนี้ที่พยายามจ้องหาคนที่ป่วยทางจิตใจมาเป็นที่ระบายอารมณ์ทางเพศ ซึ่งตนบอกเลยว่ายังไม่ได้มีแค่กาโตะตัวเดียว ยังมีอีกหลายตัวในวงการนี้ที่สังคมยังไม่รู้ ยังคงยกมือกราบไหว้อยู่ ตนกำลังเก็บข้อมูลหลักฐานเพื่อแฉพฤติกรรมพระนอกรีตเหล่านี้ต่อไป”