วันที่ 31 พ.ค. ที่ ลานภายในพระมหาเจดีย์พุทธคยา วัดสุวรรณภูมิพุทธชยันตี ลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร นางสาวณวราชา พินิจโรคากร หรือ “หมอปลาย พรายกระซิบ” จัดพิธีขลิบผม เพื่อเตรียมบวชชีพรหมโพธิ ก่อนที่จะเดินทางไปประเทศศรีลังกา เพื่อบวชเป็นภิกษุณี ในวันที่ 7 มิถุนายน นี้

โดย “หมอปลาย พรายกระซิบ” เปิดเผยถึงการบวชในครั้งนี้ว่า “เรียกว่ายังไม่ได้นอนเลย (หัวเราะ) เมื่อคืนก็มาทำพิธีเพื่อไหว้บอกองค์เทพทุกพระองค์ที่ท่านคุ้มครองปลายทำเป็นพิธีค่อนข้างใหญ่เหมือนกัน และเตรียมตัวเพื่อมาที่นี่ มาถึงตั้งแต่ 6 โมงเช้า

ทำไมถึงตัดสินใจบวชครั้งนี้? “ท่านยมอยากให้บวชค่ะ บวชแบบใส่ผ้าเหลือง แต่กระบวนการอะไรหลายๆ อย่างต้องผ่านการถือศีล8 และถือศีล10 จากนั้นถึงไป 311 ข้อค่ะ”

เห็นว่าการบวชครั้งนี้มีผลมาจากการที่เราดูดวงให้คนอื่น ใช้พลังงานไปเยอะ? “ใช่ค่ะ อย่างที่เห็นหน้าปลายเริ่มผื่นขึ้น เพราะเอฟเฟ็กต์จากร่างกายด้วย โรคทุกอย่างมันก็เริ่มกำเริบ ที่เป็นโรคประจำตัวสาเหตุก็มาจากเรื่องนี้ส่วนหนึ่งค่ะ”

จากนี้ก็เดินทางไปศรีลังกายังไงบ้าง? “จะเดินทางไปวันที่ 6 ค่ะ บวชจริงวันที่ 14 มิ.ย. เป็นสัมเณรีก่อน จากนั้นรอดูว่าพระผู้ใหญ่ที่นู่นจะให้บวชหรือเปล่า (หัวเราะ) เพราะต้องมีภิกษุ 20 และภิกษุณี 20 เพื่อเซ็นอนุมัติว่าปลายบวชได้ไหม”

อยู่ที่หลักเกณฑ์ตรงไหนถึงจะบวชได้? “ต้องสอบปฏิโมกผ่าน ภาษาได้ และข้อธรรมของที่นู่นตรงชัดเจนหรือเปล่า ก็จะมีสอบข้อเขียน กับสอบสัมภาษณ์ค่ะ กว่าจะได้บวชก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน เพราะจริงๆ กระบวนการจากสัมเณรีต้อง 2 ปีถึงจะได้เป็นภิกษุณี แต่ปลายขอลัด ท่านก็บอกว่าขึ้นอยู่กับความสามารถของปลายเอง”

มีความพร้อมยังไงบ้าง? “ตอนนี้เตรียมหนังสือไว้เยอะมาก ต้องมานั่งฟื้นฟู เรียนทั้งภาษาอังกฤษ เรียนภาษาศรีลังกา และบาลีสันสกฤตค่ะ เยอะเหมือนกัน (หัวเราะ)”

เราสื่อสารกับท่านยมยังไงบ้างกับครั้งนี้? “ก็ต้องทำให้ได้ค่ะ เราก็เกรงใจท่าน ไม่อยากถามอะไรท่านเยอะ คือเราสัญญาแล้วว่าจะทำ ก็ทำให้ดีที่สุด”

ใกล้วันจะได้เป็นภิกษุณีแล้วตื่นเต้นแค่ไหน? “เอาตรงๆ ว่าใจหายเหมือนกัน เพราะสระผมแล้วก็แอบคิดว่าเดี๋ยวจะไม่มีผมแล้ว ถามว่ายึดติดอะไรขนาดนั้นไหม ปลายก็ไม่ได้ยึดติด เดี๋ยวผมก็ขึ้น ไม่ซีเรียส (ยิ้ม)”

ถ้าสึกกลับมาแล้วตัวดราเองจะเปลี่ยนไปยังไงบ้าง? “อันนี้ยังตอบไม่ได้เลยค่ะ กะอะไรไม่ได้เหมือนกัน ไม่ทราบเลยว่าตัวเองจะเปลี่ยนขนาดไหน”

ระยะเวลาบวชนานแค่ไหน? “ประมาณ 1 ปีค่ะ ก็คืออยู่ที่ศรีลังกา และอาจจะกลับมาให้ญาติโยมได้ถวายเพล น่าจะประมาณใกล้ๆ ปีใหม่”

ถ้าเป็นภิกษุณีแล้ว คนยังสามารถสอบถามเรื่องดวงอะไรได้อยู่ไหม? “คือถ้าเป็นภิกษุณีแล้ว จริงๆ กฎเรื่องของการเป็นพระแล้วทำนายไม่ได้ เป็นเดรัจฉานวิชา เพราะฉะนั้นก็จะหยุดการทำนาย แต่เรื่องของการช่วยเหลือคนในเรื่องของการตั้งชื่อหรือทำอะไรให้ความเป็นสิริมงคลก็ยังช่วยเหลือคนได้”

แสดงว่าพอบวชแล้วเราก็จะลาวงการพักใหญ่เลย? “ใช่ค่ะ กลับมาค่อยจัดเต็มอีกรอบดีกว่า (หัวเราะ) ขอไปชาร์จพลังก่อน แต่คิดว่าช่วงที่ปลายไม่อยู่ก็น่าจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงเยอะ คือปลายแค่บอกว่าช่วงที่ไม่อยู่นะคะ (ยิ้ม)

1. เรื่องของการเมืองเปลี่ยนแปลงแน่นอน 2.เรื่องของวงการบันเทิงจะมีอะไรใหม่ๆ ใหญ่ๆ เข้ามา จะเห็นพวกดาราต่างประเทศเข้ามาตีตลาดในบ้านเรามากขึ้น และเรื่องของคดีความอะไรต่างๆ พวกพี่ๆ นักข่าวก็จะทำงานเยอะหน่อย (หัวเราะ) เรื่องเสียชีวิตของศิลปินยังมี แต่ถามว่าถึงกับช็อกอีกไหม คิดว่าหลายๆ คนเห็นสถานการณ์แล้วก็ไม่ได้รู้สึกช็อกมาก เหมือนพอเป็นชื่อคนนี้ก็คือตามนั้น แต่ไม่ได้ดุเดือดเหมือนช่วงครึ่งปีแรกค่ะ”

การเมืองที่ว่าเปลี่ยนแปลงคือยังไง หัวหน้ารัฐบาลจะเปลี่ยนเหรอ?
“(หัวเราะ) คือดูแล้วเลื่อนไปเรื่อยๆ แต่บอกแค่ว่าพลังของประชาชนสำคัญที่สุดต่อประเทศของเรา เรื่องผู้ว่าฯ ก็อย่างที่บอกว่าระวังไว้หน่อย ช่วงเวลา 2 อาทิตย์ตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวแล้ว ก็งงเหมือนกัน ก็ขอให้ท่านอยู่ได้แล้วกัน ถ้ามีใครบอกได้ก็อยากให้ท่านไปไหว้พระสยามธรรมาธิราชกับพระแก้วมรกต และทุกอย่างจะเบาลงค่ะ (ยิ้ม) ถามว่าท่านจะเชื่อไหม ไม่เชื่อ (หัวเราะ) อาจจะไม่ถึง แต่ก็อยากให้ท่านอยู่ต่อ เราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง”

วงการบันเทิงจะเป็นยังไง? “ตอนนี้เราก็รอให้ทุกอย่างมันก้าวขึ้นมาได้ แต่จะมีต่างชาติเข้ามาเป็นนายทุนหลัก แต่หลังจากนี้การแสดงวิถีชีวิตของประเทศไทยจะเปลี่ยน จะเสียสูญไปหมด ถามว่าดีมั้ย ยังไงเวลาคุยกันก็ขอให้มีวัฒนธรรมไทยอยู่ในนั้น เพราะมันเป็นสิ่งสำคัญ”

เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ โรคระบาดว่ายังไงบ้าง? “ตอนนี้ฝีดาษวานรมาแล้วใช่ไหมคะ หลังจากนี้ก็น่าจะมีอีกโรคหนึ่งค่ะ ช่วงประมาณ ต.ค.-พ.ย. ถามว่าน่ากลัวไหม ก็เป็นโรคติดต่อเหมือนกัน มันพัฒนามาใหม่ค่ะ เป็นไวรัส ความสกปรก น่าจะผสมมาจากโควิดและแตกออกมาเป็นอีกชื่อหนึ่ง ถามว่ารุนแรงถึงขั้นไหน น่าจะเกี่ยวกับการระบบทางเดินอาหาร คนน่าจะเป็นกันเยอะ แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่โควิดก็จะเบาลง แต่จริงๆ คนที่เป็นอาจจะไม่เบา (หัวเราะ)”

เศรษฐกิจปากท้องของประชาชนปีนี้ ปีหน้า? “ปีนี้เรื่องของดวงสงครามมาประมาณ 30-50% แต่จะหนักจริงๆ คือช่วงปี 67 สงครามยาวค่ะ เรื่องน้ำมันแพง ปลายดูแล้วยังไม่ลงค่ะ เพราะท่านจะใช้คำว่าข้าวยากหมากแพง ภาษีอาน ก็คือเป็นเรารุ่นนี้เลยโดนแน่นอน ถ้าจะให้เตือนก็คืออย่าสร้างหนี้มวลรวมเพิ่ม เพราะมันจะทำให้คนทั้งประเทศอยู่กันไม่ได้ เพราะเดี๋ยวจะเป็นก้อนใหญ่ ก็เป็นคำทำนายส่งท้ายค่ะ เพราะถ้าบวชแล้วก็คงขอหยุดค่ะ หลังจากนี้ขอเผยแพร่พระพุทธศาสนาและองค์เทพทุกพระองค์ที่ทำให้มีปาฏิหาริย์ให้กับคนหลายๆ คน ก็จะขอทำหน้าที่ตรงนี้ค่ะ”

แนะนำที่ไหว้เสริมดวงหน่อย? “จริงๆ ทุกที่ดีหมด เพียงแต่ว่าแต่ละคนต้องดูว่าถูกต้องกับอะไร ขอสร้างจุดยืนเลยว่าไหว้เทพ ไหว้พระ ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อย่าไหว้ผี เราก็ดูว่าประวัติตรงนั้นมาจากอะไร ตายยังไง แต่ถ้าเทพเรารู้เลยว่าท่านไม่ได้ตาย เทพที่สร้างเป็นรูปปั้นขึ้นมา จุดธูปให้ถูกต้อง เทพฮินดู 16 ดอก เทพจีน 18 ดอก ไหว้พระก็ธูป 3 ดอก

แต่ถ้าผีทุกอย่างคือ 1 ดอก ห้ามไหว้ ถ้าไหว้ผีจะทำให้เศรษฐกิจและภาพของประเทศและสิ่งศักดิ์สิทธิ์กลายเป็นสีดำทั้งหมด ประชาชนจะรู้สึกว่าทุกข์ร้อน ไม่มีความสุข เรียกว่าเสนียญหรือกาลกิณีเข้ามาอยู่เยอะ เราต้องช่วยกันล้างตรงนี้ก่อน ส่วนองค์ท้าวเวสสุวรรณที่วัดสุวรรณภูมิฯนี้ไหว้ได้ค่ะ ท้าวเวสฯก็ถือว่าอยู่ในกลุ่มเทพเหมือนกัน”

ในระหว่างไม่อยู่ ก็ยังมีวอลเปเปอร์รูปมือถือที่ทำออกมา? “ก็ฝากค่ะ (หัวเราะ) ปลายทำเป็นรูปท่านยมนะคะ ท่านยมก็สามารถช่วยได้ หลายๆ คนที่โหลดไปแล้วก็น่าจะรู้ถึงผลลัพท์กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิต ปรายขอแค่ว่าถ้าจะโหลดศรัทธานิดนึง มห้ใจกับท่านยมหน่อย และเวลาเห็นก็อย่าโลภมาก ขอให้คิดดี ทำดี และมีสติตลอดเวลา โหลดมูวอล์นะคะ มัหลายแบบลองไปเลือกดูนะคะ @muwall ค่ะ”

สรุปปีหน้ายังหนักเหมือนเดิม? “ก็ยังแก้ได้ค่ะ จะไม่หนักเท่าปีที่ผ่านมาที่เจอโรคระบาด อยู่ที่คน อยู่ที่การตัดสินใจ”

พรุ่งนี้ (1 มิ.ย.) ล็อตเตอรี่ออก? “อันนี้คงไม่สามารถ เดี๋ยวโดนรุม (หัวเราะ) แต่คิดว่าเลขเกี่ยวกับปลาย น่าจะได้อยู่แล้วแหละ (ยิ้ม) เมื่อวานทำพิธีที่บ้าน ใครอยากดูก็ดูเลขที่บ้าน (หัวเราะ)”

บรรยากาศภายในงาน มีพลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต เป็นประธานฝ่ายฆราวาส มีนักแสดงหนุ่ม ‘แอมป์’ พีรวัศ กุลนันท์วัฒน์ รับหน้าที่พิธีกร ‘โจล่ง’ เกรียงไกร เกียรติเสวีกุล ร้องเพลงถวายท่านยมราชก่อนเริ่มพิธีการ

โดยฤกษ์ดีเริ่มที่ เวลา 08.09 น. เข้าสู่พิธีขลิบผม นางสาวณวราชา พินิจโรคากร หรือ หมอปลาย พรายกระซิบ ณ บริเวณภายใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระมหาเจดีย์พุทธคยา

เริ่มด้วยพิธีล้างเท้าบิดา-มารดา และขลิบผมลูกสาวตามลำดับ แขกผู้ใหญ่ร่วมพิธีขลิบผม นิมนต์พระสงฆ์ 5 รูป เพื่อเจริญชัยมงคลคาถา พระครูอุดมโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพระรามอโยธยา-อินเดีย นํากล่าวคําขอขมากรรมต่อพระรัตนตรัย, บิดา-มารดา และกล่าวคําปลงผม, ประธานฝ่ายสงฆ์ ประพรหมน้ำพระพุทธมนต์ และทำพิธีขลิบผม มีแม่ชีมาทำการโกนผมโกนคิ้วหมอปลายตามลำดับ

จากนั้นเวลา 09.30 น. หมอปลายเปลี่ยนนุ่งชุดขาว ประกอบพิธีเวียนประทักษิณรอบพระมหาเจดีย์พุทธคยา จำนวน 3 รอบ โดยมีคณะสิงโตเชิดนำหน้าขบวนเวียนเทียน มีแขกที่มาร่วมพิธีเกินร่วมเวียนรอบพระมหาเจดีย์พุทธคยาเป็นจำนวนมาก

ต่อมา นางสาวณวราชา พินิจโรคากร หรือ หมอปลาย พรายกระซิบ เข้าไปภายในพระมหาเจดีย์ฯ พระสงฆ์ประจำอาสน์สงฆ์ หมอปลาย ถวายพานดอกไม้ 1 คู่ ด้านหน้าโต๊ะหมู่บูชา เสร็จแล้วจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการพระพุทธเมตตา, ถวายเครื่องสักการะ แด่ประธานฝ่ายสงฆ์

พระครูอุดมโพธิวิเทศ เจ้าอาวาสวัดพระรามอโยธยา-อินเดีย นําบูชาพระรัตนตรัย นำกล่าวคําอาราธนาศีล 8 รับศีลจากพระสงฆ์ รับผ้าคลองบวชชีพรหมโพธิ และ จุดธูปเทียนบูชาข้าวมธุปายาส ข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง

พระครูอุดมโพธิวิเทศ กล่าวอัญเชิญเทวดา และพระสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ จากนั้น แม่ชีปลาย กล่าวคําถวายข้าวมธุปายาส ข้าวสัตตุก้อน สัตตุผง ด้านหน้าพระพุทธรูปเสร็จแล้ว แม่ชีปลาย ถวายสักการะพระพุทธเมตตา พร้อมด้วยบริวาร ถวายภัตตหารเพล เครื่องไทยธรรม จตุปัจจัย แด่พระสงฆ์ จำนวน 108 รูป พระสงฆ์อนุโมทนา กรวดน้ำ รับพร กราบลาพระรัตนตรัย เป็นอันเสร็จพิธี