หมอประกิต ยันไอบุหรี่ไฟฟ้า ทำเด็กปอดพัง มีสารก่อมะเร็ง อันตรายรุนแรงกว่าผู้ใหญ่ ย้ำอย่าสูบใกล้ เสี่ยงเด็กเสพติดเข้าไปทดลอง
วันที่ 12 มี.ค. 2566 ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ ประธานมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้สอบถามมายังมูลนิธิฯ อย่างต่อเนื่อง กรณีเห็นคุณพ่อหลายคนสูบบุหรี่ไฟฟ้าขณะอุ้มลูก หรือสูบบุหรี่ไฟฟ้าในรถขณะที่ลูกนั่งอยู่ด้วย ว่าเด็กจะได้รับอันตรายจากไอบุหรี่ไฟฟ้าหรือไม่ ตนขอยืนยันหนักแน่นว่า การรับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง โดยเฉพาะในเด็กเล็กเป็นอันตรายแน่นอน เพราะมีนิโคตินที่เป็นสารเสพติด มีฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กมากจำนวนมาก มีสารเคมีที่ยังไม่รู้ว่าจะส่งผลต่อปอดและอวัยวะอื่นในระยะยาวอย่างไร
ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีสารก่อมะเร็งหลายชนิดทั้งเบนซีน ฟอร์มาลดีไฮด์ โลหะหนัก เช่น ตะกั่ว นิกเกิล สังกะสี สารไดอะซิทิล ทำให้ปอดอักเสบ ถูกทำลาย เปลี่ยนแปลง จนมีลักษณะเหมือนข้าวโพดอบ (popcorn lung)ศ.นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า จากงานวิจัยที่ติดตามวัยรุ่นที่ได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง และการเกิดอาการผิดปกติของทางเดินหายใจ 2,097 คน อายุเฉลี่ย 17.3 ปี ระหว่างปี 2014-2019 พบว่า กลุ่มวัยรุ่นได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสองเพิ่มขึ้นจาก 11.7% เป็น 15.6% ระหว่างการสำรวจทั้ง 2 ครั้ง
กลุ่มตัวอย่างที่ได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง มีอัตราการหายใจมีเสียงหวีดในปอด บ่งบอกถึงรูหลอดลมเล็กลง จากการเกร็งของกล้ามเนื้อหลอดลม อันเกิดการระคายเคืองจากสารเคมีในไอบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มจาก 12.3% เป็น 14.9% มีอาการหลอดลมอักเสบเพิ่มจาก 19.5% เป็น 26% มีอาการหายใจไม่สะดวกเพิ่มจาก 16.5% เป็น 18.1%
“ความสัมพันธ์ของการเกิดอาการผิดปกติของทางเดินหายใจจากการได้รับไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง จะยิ่งชัดเจนในคนที่ไม่สูบบุหรี่ธรรมดาหรือบุหรี่ไฟฟ้าเลย แสดงว่าไอบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อคนใกล้ชิดอย่างแน่นอน ซึ่งหลายประเทศรณรงค์ถึงอันตรายของไอบุหรี่ไฟฟ้ามือสอง โดยเฉพาะเด็กเล็กที่ปอดอยู่ระหว่างเจริญเติบโต จะได้รับอันตรายรุนแรงกว่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่”
ศ.นพ.ประกิต กล่าวต่อว่า การสูบบุหรี่ธรรมดาจะรณรงค์ไม่ให้สูบใกล้เด็ก การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็ต้องรณรงค์แบบเดียวกัน ผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ควรสูบในบ้านหรือที่อื่นๆ ที่มีเด็กอยู่ด้วย เพราะไอบุหรี่ไฟฟ้าเป็นอันตรายต่อสุขภาพของเด็ก และเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ทำให้เด็กเกิดทัศนคติที่ดีต่อบุหรี่ไฟฟ้า ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เด็กและวัยรุ่นจะเข้าไปทดลอง จนเสพติดและพัฒนาต่อไปสูบบุหรี่ธรรมดาหรือสิ่งเสพติดอื่นในอนาคต