ผักบางชนิดอุดมไปด้วยสารอาหารโดยธรรมชาติและดีต่อสุขภาพ แต่หากผู้ที่เป็น “โรคไต” หรือมีกรดยูริกสูง รับประทานมากเกินไป ก็อาจเท่ากับ “พิษ” ที่เป็นอันตรายได้
ดังเช่นกรณีของชายแซ่จาง อายุ 41 ปี จากกวางโจว ประเทศจีน ที่เสียชีวิตจากภาวะไตวายเฉียบพลัน สิ่งที่ทำให้หลายคนแปลกใจและกังวลคือ สาเหตุการเสียชีวิตของเขาเกิดจากการรับประทานผัก 4 ชนิด ที่ดีต่อสุขภาพ
ลูกชายของคุณจางเล่าว่า เมื่อเกือบ 2 ปีที่แล้ว เขาไปพบแพทย์ด้วยอาการเหนื่อยล้าและไม่สบายข้อต่อ โดนตรวจพบว่ามีกรดยูริกสูง แพทย์แนะนำให้ปรับอาหาร ลดเนื้อสัตว์และไขมัน เพิ่มผักและผลไม้ อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่าควรจำกัดอาหารบางชนิดมีพิวรีนจำนวนมาก
หลังจากกลับมาถึงบ้าน คุณจางก็ยังมีความเชื่อส่วนตัวอยู่มาก โดยมองว่า “ค่ากรดยูริกสูงไม่เป็นโรค” จึงปฏิเสธที่จะกินยาหรือกลับไปโรงพยาบาล สมาชิกในครอบครัวแนะนำเขามากมายให้เริ่มปรับเปลี่ยนอาหารและออกกำลังกายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย ที่สำคัญคือเขาชอบกินผักมากๆ แต่ชอบกินแต่ผักที่หมอแนะนำว่า “อย่ากิน” มากเกินไป โดยอ้างว่าผักทุกชนิดดี และกินแล้วรู้สึกดีขึ้น
อย่างไรก็ดี เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็ได้รับความทุกข์ทรมาน จากยูเรียในเลือดและไตวายที่เพิ่มขึ้นโดยที่ไม่รู้ตัว สองเดือนก่อนเสียชีวิต คุณจางก็ร่างกายอ่อนแอลงอย่างรวดเร็ว น้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็ว มีอาการคลื่นไส้ บวมน้ำ และปวดข้อ จนกระทั่งครอบครัวพบว่าเขาปัสสาวะเป็นเลือด อาเจียนอย่างรุนแรง และหายใจลำบาก จึงสามารถบังคับให้เขาไปโรงพยาบาลได้
ในท้ายที่สุด แม้ว่าแพทย์จะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ก็ไม่สามารถช่วยชีวิตคุณจางไว้ได้ เขาเสียชีวิตในขณะที่มีอายุ 41 ปี จากภาวะยูเรเมีย ซึ่งนำไปสู่ภาวะไตวายเฉียบพลัน
ผัก 4 ชนิด ผู้ที่มีกรดยูริกและโรคไตสูง ควรรับประทานให้ “น้อยที่สุด”
แพทย์ที่รักษาคุณจางเล่าว่า จู่ๆ เขาเองก็รู้สึกหมดแรงเมื่อได้ยินชื่อผักที่คนไข้มักจะกินทุกวัน เนื่องจากผักเหล่านี้ทั้งหมดล้วนมีพิวรีนและโพแทสเซียมจำนวนมาก แม้ว่าคุณจางจะมีดัชนีกรดยูริกสูง เนื่องจากเป็นโรคไตที่ไม่สามารถควบคุมได้ อาหารที่มีพิวรีนและโพแทสเซียมจำนวนมากจึงเหมือนสูตร “ไม่-ไม่” สำหรับคนกลุ่มนี้
ดร.หวัง กล่าวว่า “อาหารที่มีพิวรีนจะถูกเปลี่ยนเป็นกรดยูริก ทำให้เกิดการสะสมในร่างกาย ผู้ที่เป็นโรคเกาต์ โรคไต หรือมีกรดยูริกสูง จะกำจัดกรดยูริกได้ยาก เพิ่มความเสี่ยงต่ออาการปวดข้อและไตถูกทำลาย ในทำนองเดียวกัน เมื่อการทำงานของไตลดลง ก็จะเป็นการยากที่จะกำจัดโพแทสเซียมส่วนเกินออกไป ซึ่งนำไปสู่ภาวะโพแทสเซียมสูง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ และภาวะหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน
นอกจากนี้ หลายคนมักคิดว่าพิวรีนพบได้ในอาหารทะเล แอลกอฮอล์ ฯลฯ แต่จริงๆ แล้วผักหลายชนิดก็อุดมไปด้วยสารนี้เช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าอาหารที่มีเส้นใยสูงและมีไขมันต่ำจะมีความสำคัญในการควบคุมโรค แต่ก็ไม่ควรรับประทานผักทุกชนิดในปริมาณมาก”
ในจำนวนเหล่านั้นมีผักอยู่ 4 ชนิดที่ดีต่อสุขภาพโดยธรรมชาติ แต่คุณหมอหวังเตือนให้ผู้ที่มีกรดยูริกสูง ไตอ่อนแอ หรือเป็นโรคไต ควรรับประทานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
– ผักโขม : มีปริมาณพิวรีนสูงมาก ประมาณ 57 – 58 มก./100 กรัม ในเวลาเดียวกัน ยังอุดมไปด้วยโพแทสเซียม 500 – 700 มก./100 กรัม
– ผักกาดเขียว : มีพิวรีนประมาณ 50 – 70 มก./100 กรัม และมีโพแทสเซียมประมาณ 400 มก./ผัก 100 กรัม
– ถั่วงอก : ขึ้นอยู่กับชนิดของถั่วงอก ปริมาณพิวรีนจะแตกต่างกันไป โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 40 – 60 มก./100 กรัม และโพแทสเซียมประมาณ 300 – 400 มก./100 กรัม
– หน่อไม้ฝรั่ง : มีปริมาณพิวรีนประมาณ 40 – 50 มก./100 กรัม และโพแทสเซียมประมาณ 200 – 250 มก./100 กรัม
นอกจากนี้ เห็ดที่ดีต่อสุขภาพ ก็ไม่ดีกับคนเป็นโรคไตและมีกรดยูริกสูง ทางที่ดีควรควบคุมปริมาณที่กินและรับประทานรวมกับอาหารเพื่อสุขภาพอื่นๆ เพื่อปกป้องสุขภาพของตัวคุณเอง
- สังเกตง่ายๆ แปรงฟันเห็นสิ่งนี้ หมอเตือน “มะเร็ง” มาเคาะประตู รู้ตัวไวอาจไม่เป็นหายนะ
- เข้าใจใหม่! หมอเตือนเอง 1 คน ต้องใช้แปรงสีฟัน 2 ด้าม และอย่าวางไว้ใน “ห้องน้ำ”