หนุ่มโต้ไม่ได้แทงเมียแค่แย่งมีดกัน หลังทะเลาะกัน เพราะจับได้กำลังคุยกับชายอื่น ยอมรับอารมณ์ชั่ววูบ ยันรับทราบข้อกล่าวหาแล้ว
จากกรณีนายสมศักดิ์ อินพิทักษ์ อายุ 30 ปี ก่อเหตุใช้อาวุธมีด แทง น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ชาว ต.หนองไม้งาม อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ จำนวน 5 แผล แล้วหลบหนีไปบ้านเกิดที่สุราษฎร์ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ก่อนฝ่ายภรรยาจะร้องเรียนเพราะเกรงจะได้รับอันตราย เนื่องจากตำรวจยังไม่สามารถจับกุมตัวได้
ล่าสุดวันที่ 8 ก.ค. 65 นายสมศักดิ์ ผู้ก่อเหตุ โพสต์ข้อความว่า “เกินจริงไปไหมครับ อีกอย่างผมโทรไปเลื่อนตำรวจแล้วด้วยครับ ขอเข้าพบพนักงานสอบสวนวันที่เท่าไหร่ กรุณาให้ทางผมอธิบายด้วยครับ ทำให้คนอื่นเสียหายนะครับ คำว่าแทงยับ ไม่หน้าลงนะครับ กรุณาเขียนให้รู้จริงด้วยครับ ยื้อมีดกันครับ เพราะเราทะเลาะกัน เพราะจับได้ว่าเมียมีชู้ นั่งรถกับชู้การแชทการคุย หลักฐานทางผมก็มี
เย็บ 20 เข็มตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาผมแล้ว และก็จะรับทราบแล้ว ให้ข่าวมีแต่ตัวเองถูกทุกอย่าง และที่บอกแทงไป 5 แผล ในความเป็นจริง ก็หน้าจะบาดเจ็บสาหัสนะครับ ไม่ใช่ไปเที่ยวเต้นงานรถแห่อยู่อีกอย่างเขายังเดินได้ ไปเที่ยวได้ ยังทำงานปกติ แล้วที่บอกว่าผมชวนทะเลาะ ในความเป็นจริง ผมหาเงินเข้าบ้านทุกวัน นำเงินมาให้ใช้ แต่กลับเอาเงินไปเที่ยว ไปซื้อเหล้ากินกัน ทำไม่ถูกต้องนะครับ ผมเป็นผู้นำในบ้าน จึงเกิดอารมณ์มั่ง ไม่ได้หรือครับ”
จากการสอบถาม นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า เรื่องทั้งหมดที่ตกเป็นข่าวไม่เป็นความจริง ตนเป็นคนหาเงินมาใช้จ่ายภายในครอบครัวเป็นหลัก ให้ภรรยาเป็นคนถือเงิน เฉลี่ยไม่น้อยกว่าเดือนละ 30,000 บาท ที่ให้ภรรยาเก็บไว้ แต่ภรรยากลับเอาเงินไปดื่มกินกับเพื่อน ไปใช้จ่ายสิ่งของที่ไม่จำเป็น สาเหตุที่ช่วงหลังทะเลาะกันบ่อย เนื่องจากตนจับได้ว่าภรรยาไปมีชู้กับคนที่ทำงานเดียวกันที่บริษัท เอาเงินของตนไปให้ผู้ชาย พอตนรู้ก็ไม่พอใจจึงเกิดเรื่องทะเลาะกัน
ที่ผ่านมาพยายามทำดี แต่กลับไปเห็นฝ่ายชายไปรับไปส่งกันอีก จึงจำเป็นต้องมาพูดคุยกันแต่จะออกมาแบบทะเลาะกันเพราะภรรยาไม่ยอมรับ และท้าอย่าเป็นประจำ วันเกิดเหตุภรรยานั่งดื่มกับเพื่อนเขาใต้ถุนบ้าน ทั้งนั่งแชทคุยกันและโทรหากันต่อหน้าตน ยอมรับว่ารับไม่ได้ จึงทักท้วงไปอีก แต่กลับได้คำตอบจากภรรยาว่า ถ้ามึงไม่หย่ากูก็จะคุยแบบนี้ ทำให้เกิดอารมณ์ชั่ววูบ คว้ามีดมาจะเอาไปขู่ หลังจากนั้นเกิดการแย่งมีดกันจึงเป็นแผลขึ้น แต่ถ้าผมจะแทงจริงตายไปแล้ว