หนุ่มเครียด เดินขึ้นโรงพักแจ้งตร.ให้จับตัวเองเข้าคุก นั่งร่ำไห้หาทางออกไม่ได้ เผยปมเหตุ เป็นคนกลางทำใจลำบาก
วันที่ 24 ม.ค. 65 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 35 ปี อาชีพช่างสัก เดินทางมายังโรงพัก สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้น เดินเท้าเปล่ามาเข้าพบร้อยเวรสอบสวนเพื่อขอแจ้งความจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชา ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมาสงบสติอารมณ์หน้าห้องเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน
โดย นายเอ ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ต้องการให้จับกุมตัวเองในข้อหาเสพกัญชา เนื่องจากก่อนที่จะเดินออกจากบ้านมาเข้าแจ้งความที่โรงพัก ตนเกิดมีปากเสียงกับภรรยาเรื่องที่ตนไปช่วยทาสีให้กับร้านสักของเพื่อนแล้วกลับบ้านผิดเวลา ทำให้ภรรยาไม่พอใจด่าทอตนเสียๆหายๆ ล่ามไปถึงบุพการี ทำให้แม่ตนซึ่งนั่งอยู่ในบ้านได้ยิน และไม่พอใจที่ภรรยาด่าว่าตนด้วยถ้อยคำรุนแรง จึงได้เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันจนเสียงดังไปทั่ว
ทำให้ตนเกิดความเครียดที่ภรรยากับแม่มาทะลาะกันเพราะเรื่องที่ตนกลับบ้านช้าผิดเวลา ไม่รู้จะเข้าข้างใคร จึงตัดสินใจสูบกัญชาและดื่มเบียร์ย้อมใจ ก่อนจะตัดสินใจวิ่งออกจากบ้านมาโรงพัก เพื่อแจ้งความจับตัวเองจะได้พ้นปัญหาไปเพราะตนเครียดเป็นอย่างมากที่เห็นแม่กับภรรยาทะเลาะกัน
จากกนั้น พ.ต.ต.พายุ นิลละออ สว.สส. สภ.บางใหญ่ ได้ปลอบใจและชี้แจ้งให้ นายเอ ทราบว่า เรื่องการเสพกัญชานั้นไม่พบของกลางในตัว และนโยบายของรัฐบาลผู้เสพคือผู้ป่วยที่ต้องได้รับการส่งตัวไปบำบัดรักษา ดังนั้นข้อหาที่จะแจ้งจับตัวเองในข้อหาเสพกัญชานั้นก็เป็นเพียงความผิดลหุโทษ จึงไม่สามารถจับติดคุกได้ตามที่ต้องการ ส่วนปัญหาเรื่องในครอบครัวที่มีปากเสียงกัน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยให้ขอให้สงบสติอารมณ์ลง
หลังอารมณ์สงบลง นายเอ กล่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ถือว่าผมไม่ได้มาเข้าแจ้งความแล้วกัน นึกว่าผมมาหาเพื่อนมาขอคำปรึกษา เพราะเครียดมากไม่รู้จะหาทางออกทางไหน จึงคิดว่าแค่ให้ถูกตำรวจจับติดคุกไปจะได้ไม่ต้องมาเจอกับเรื่องเครียด ๆ แบบนี้อีก จากนั้นหลังได้ระบายและได้คำปรึกษาจนใจเย็นลงแล้ว จึงได้ขอตัวกลับ ก่อนจะเดินเท้าเปล่าไม่สวมเสื้อออกจากโรงพักเพื่อกลับบ้าน