หนุ่มวัย 19 เพิ่งกลับจากกรุงเทพฯ ถูกบังคับกักตัว 14 วัน ห้ามออกไปหาเพื่อน น้อยใจวิ่งไปกระโดดแม่น้ำตายต่อหน้าแม่
(24 พ.ค.64) เมื่อเวลา 17.30 น ร.ต.ท หญิงศิริรัตน์ บุญอ่อน ร้อยเวร สภ. เมืองพิจิตร ได้รับแจ้งจากว่ามีคนโดดน้ำในแม่น้ำน่าน บริเวณใกล้สะพานแขวน ข้ามแม่น้ำน่านบริเวณหน้าวัดราชเชิงขวัญ หมูที่ 2 ตำบลปากทาง อำเภอเมืองพิจิตร หลังจากที่ได้รับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านมุงดูกันเป็นจำนวนมาก และได้ประสานกู้ภัยพร้อมด้วยกู้ภัย กว่า 30 คน ออกค้นหา แต่เนื่องจากเป็นช่วงเวลาค่ำทำให้ค้นหาด้วยความยากลำบาก ทราบชื่อผู้ที่กระโดดลงไปในแม่น้ำคือ นายอนุชิต อายุ 19 ปี
จาการสอบสวน นางอุดมศรี อายุ 40 ปี แม่ของผู้กระโดดน้ำ ให้การกับตำรวจว่านายอนุชิต บุตรชาย ทำงานอยู่ที่ กทม. หลังจากตกงานได้เดินทางกลับมาบ้าน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม ปรากฏว่าต้องถูกกักตัว 14 วันเนื่องจาก กทม. นั้น เป็นพื้นที่สีแดง ซึ่งนายอนุชิตนั้นเพิ่งกักตัวได้ 2 วัน เกิดอาการการเครียดเนื่องจากขอแม่ออกนอกบ้านเพื่อจะไปพบปะเพื่อนฝูง แต่ปรากฏว่าแม่และญาติๆ ไม่ยอมให้ออก เนื่องจากจังหวัดพิจิตรนั้นเข้มงวดในเรื่องมาตรการโควิด ทำให้นายอนุชิต เกิดความน้อยใจตะโกนว่าไม่มีใครรักจากนั้นได้วิ่งออกจากบ้านมาทางแม่น้ำน่านซึ่งมี นางอุดมศรี ผู้เป็นแม่ตามมาติดๆ และตะโกนเรียก แต่นายอนุชิตไม่ฟังกับวิ่งลงกระโดดน้ำต่อหน้าแม่จมหายไป
ล่าสุด เจ้าหน้าที่กู้ภัยกว่า 30 ชีวิต ระดมกำลังค้นหาศพในแม่น้ำน่าน ปรากฏว่า การค้นหา ด้วยความยากลำบากกระแสน้ำแรง ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถหาร่างของวัยรุ่นได้ ขณะกำลังค้นหา นางอุดมศรีผู้เป็นแม่ นั่งร้องไห้ เป็นลมแล้วเป็นลมอีก สร้างความเศร้าสลดกับประชาชนที่มามุงดูเป็นจำนวนมาก