ชีวิตพลิกแม่ยกเปย์6หลักจากตัดอ้อยได้250 เปิดเส้นทางหนุ่มตัดอ้อยสู่พระเอกหมอลำ นุกเกอร์ ชีวิตที่ไม่มีอะไรเลย ทำให้มีรถ-มีบ้าน เลี้ยงครอบครัวได้
พระเอกหมอลำ นุกเกอร์ กฤษกร วงอีสานนครศิลป์ หลังถูกจับตาความรักกับ นักร้องดัง เก่ง ธชย ท่ามกลางเหล่าแม่ยกให้ความเอ็นดู ล่าสุดเปิดใจกับ ข่าวสดออนไลน์ ถึงเส้นทางชีวิตกว่าจะมาเป็นพระเอกหมอลำดัง เคยเป็นหนุ่มไร่อ้อย
จุดเริ่มต้นชีวิตการเป็นหมอลำ? “หมอลำ ส่วนมากอาชีพหมอลำจะไม่ฟิกว่าต้องทำอะไรมา ต้องเต้นเป็นหรือเปล่า ต้องร้องเป็นหรือเปล่า คือใครที่อยากจะเป็นหมอลำก็มีสมัครได้เลย ทุกเพศ ทุกวัย คือทุกคนจะได้มาเริ่มฝึกซ้อมเบื้องต้นบนเวที ใครจะเต้นเป็น ไม่เป็นก็ตามมาอยู่กับหมอลำแล้ว ทุกคนต้องเป็นครับ แต่จุดเริ่มต้นการเป็นหมอลำของผม ตอนนั้นผมร้องเพลงสตริง ยังไม่รู้จักคำว่าหมอลำเลย ผมเพิ่มมาพลิกตัวเองเป็นหมอลำตอน 5 ปีที่แล้วครับ แล้วผมก็มาสมัครเป็นนักร้อง ตอนนั้นใครที่มาสมัครเป็นหมอลำ ยังรำไม่เป็น ต้องเป็นแดนเซอร์ด้วย ผมเป็นแดนเซอร์อยู่ 2 ปี คือเรามาแบบดิบๆ ก็ได้เป็นพระเอกหมอลำ”
จับต้นชนปลายยังไงเอาดีทางด้านนี้? “ตอนแรกผมมาสมัครเป็นนักร้อง เราก็ได้ยินเพลงหมอลำทุกวัน เราก็เลยชอบ แล้วอาจารย์ที่อยู่ในวงก็ค่อยๆ ฝึกเราไปด้วย เราก็เลยมีโอกาสได้ฝึกหมอลำจนถึงปัจจุบันนี้”
ยากไหม จากเพลงสตริงสู่หมอลำ? “โห ต้องใช้คำว่าโคตรของโคตรยากเลยครับ เพราะว่าสตริงเวลาเราร้องลูกคอจะไม่เยอะ แต่พอมาเป็นพาร์ตของหมอลำก็เยอะขึ้น สำเนียงในการร้องหมอลำคืออีสานแท้ ถ้าเป็นสตริงออกเสียง ช. แต่พอเป็นหมอลำต้องออกเสียงให้ตรงพยัญชนะ เธอก็เธอ จะไม่ออกเสียงเชอ ประมาณนี้ครับ”
เห็นว่าเคยไปฝึกร้องหมอลำกับแม่นกน้อย อุไรพร? “ตอนแรกผมอยู่คณะหมอลำรัตนศิลป์อินตาไทยราษฎร์ก่อน แล้ววงที่ 2 ก็มาอยู่กับเสียงอีสาน วงที่ 3 คือปัจจุบัน อีสานนครศิลป์ แต่รุ่นต้นๆ รัตนศิลป์เป็นหมอลำวงเก่าแก่ของทางภาคอีสานครับ คือบรมครูที่เก่งๆ จะอยู่วงนี้กัน เราก็มีโอกาสได้เข้าไปอยู่ในวงนี้เป็นวงแรก เลยได้เริ่มฝึกเดือนหนึ่งเต็มๆ ที่ฝึกทุกวันทั้งเช้า เย็น แล้วก็ตอนดึก ฝึกจนแสบคอ จนไอเป็นเลือดออกเลยครับ เพราะว่าเสียงที่เราฝึกเป็นเพลงสตริง”
ตอนนี้มีเอฟซีแล้ว ชีวิตเปลี่ยนไป? “ตอนที่เรายังไม่เป็นหมอลำ ฐานะทางบ้านเราก็ไม่ค่อยโอเคอยู่แล้ว แต่พอเรามาอยู่กับหมอลำ มาเจอแฟนคลับ แฟนเพลงที่คอยซัพพอร์ต จากชีวิตผมที่ไม่มีอะไรเลย มาเป็นหมอลำก็ทำให้ผมมีรถ มีบ้าน เลี้ยงครอบครัวได้ ชีวิตผมเปลี่ยนไปเยอะมาก อันนี้ต้องขอบคุณเอฟซีที่คอยให้การสนับสนุน ซัพพอร์ตมาโดยตลอด”
เป็นเสาหลักของบ้าน? “ใช่ครับ ผมเป็นเสาหลักของบ้านตั้งแต่ช่วงมัธยมแล้ว คือเราเริ่มร้องเพลงแบบจริงจังตอนที่อยู่ ม.4 ครับ หาตังส่งตัวเองเรียนจนจบม.4 แล้วเราก็ส่งเงินให้กับครอบครัวด้วย เป็นเสาหลักตั้งแต่มัธยม”
ทำงานครั้งแรกได้เงินกี่บาท? “ด้วยความที่เราเป็นคนกาฬสินธุ์ คือเราอยู่บ้านนอกมันห่างไกลความเจริญ เราก็ไม่ค่อยเห็นตังค์ ก็คือรับจ้างไปทำเกษตรกร ส่วนมากจะเป็นเกษตรกรไร่อ้อยอยู่แล้ว เราทำมาตั้งแต่เด็ก ไปเป็นลูกจ้างเขา ไปตัดอ้อย ไปดายหญ้า ค่าจ้างวันละ 250 บาท 6 โมงเช้าจนถึง 5 โมงเย็น คิดดู คือตอนนั้น 250 บาทคือได้เยอะมากเลยนะ เพราะเราไปโรงเรียนตอนมัธยมเราเอาเงินไปโรงเรียนแค่วันละ 20 บาท กับข้าวมันถูกมาก กับข้าว 10 บาท ขนม 5 บาท มันก็อยู่ได้แล้ว”
เป็นหมอลำต้องซ้อมหนัก? “โหโคตรหนักเลย ด้วยความที่เราไม่เคยเต้นมาก่อน ตอนนั้นเราซ้อมประมาณ 3-4 เดือนครับ ช่วงฤดูฝนที่หมอลำออกงานไม่ได้ ทุกวันครับ ตั้งแต่เช้าจนค่ำ เต้นจนเหงื่อเต็มตัวเลย จากคนที่ไม่มีพื้นฐานในการเต้นเลย จนเต้นเป็นคิดดูว่ามันจะขนาดไหน”
คิดเข้าวงการบันเทิง? “คือเราอยู่กับหมอลำมา 4-5 ปี ช่วงนี้เป็นจุดเริ่มต้นของผมที่ผมเข้าสู่วงการบันเทิงแบบเต็มตัวครับ คือได้มีโอกาสได้พูดคุยกับพี่น้องของพี่เก่ง ธชย เขาก็ให้คำปรึกษาเรา ทำให้เราได้มีโอกาสเข้ามาในวงการบันเทิง การเริ่มนับหนึ่งของผมเป็นอะไรที่ได้มีโอกาสในวงการบันเทิง รู้จักกับสื่อต่างๆ ที่ให้เราได้แสดงความสามารถที่ตัวเองมี และได้มีโอกาสทำเพลง เล่นละคร”
แม่ยกเปย์เงินให้ทีกี่หลัก? “ที่สุดก็ 6 หลักครับ แต่ว่าไม่ได้ทุกวันนะ คือจะได้แต่โอกาสเปิดวง ปิดวง เราได้รับรางวัล หรือว่าวันเกิดครับ”
ชื่นใจไหมสำเร็จด้วยน้ำพักน้ำแรง? “คือมันเกินคำบรรยายครับ เราคิดย้อนหลังไปว่าจากคนไม่มีอะไรเลย แล้วมาคิดถึงปัจจุบันนี้เรามีบ้าน รถ มีทุกอย่างที่แฟนคลับคอยซัพพอร์ตเรา มันเกินคำบรรยาย มันดีใจ แล้วก็ถูกใจมาก”
จากเมื่อก่อนไม่มี จนวันนี้มีทุกอย่าง มันทำให้เห็นคุณค่าของเงินจากความลำบากมาก่อน? “ใช่ครับ เราถูกปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วว่าเราต้องใช้เงินให้เป็นประโยชน์เพราะว่าเราเป็นครอบครัวที่ไม่ค่อยมีตังค์ แล้วพอเรามีตังค์ เราก็ย้อนขึ้นไปเราก็ต้องประหยัด เราไม่ใช้ตังค์ฟุ่มเฟือย แล้วอีกอย่างหนึ่งเวลาผมไปไหน ผมก็ชอบให้เงินขอทาน ผมชอบให้แบบนี้ เพราะเราคิดย้อนไปว่าตอนที่เราเป็นเด็ก เราก็อยากจะมีตังค์ เหมือนใจเขาใจเรา เราก็ให้เขาได้”
ดูโพสต์นี้บน Instagram
โพสต์ที่แชร์โดย Nooker Kitsakorn (@nooker_kitsakorn)
ดูโพสต์นี้บน Instagram
โพสต์ที่แชร์โดย Nooker Kitsakorn (@nooker_kitsakorn)