หนีไม่รอด!ตร.รวบ มีน พระราม 3 ลวงสาวเอ็นฯ มาปล้น แถมเย้ยตำรวจ

Home » หนีไม่รอด!ตร.รวบ มีน พระราม 3 ลวงสาวเอ็นฯ มาปล้น แถมเย้ยตำรวจ
รวบมีนพระราม3

ปิดตำนาน โมเก๊-ทรงเอ หรือ มีน พระราม 3 ตำรวจบุกจับถึงห้องนอน หลังหลอกเด็กเอ็นฯ มาปล้น แถมเย้ยแรง สารวัตรแจ๊ะ ก็หาผมไม่เจอ

มีนพระราม3-min

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.และพล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ได้ออกสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 12 นาย ร่วมกับเจ้าหน้าที่สืบนครบาลร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายกิตติกร โต๊ะยีหวัง หรือ “มีน พระราม 3” อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77/55 ม.10 ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.447/2567 ลงวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 โดยกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไปและเพื่อให้พ้นการจับกุม

พบประวัติเคยถูกจับกุมตัว เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 59 ในข้อหาครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เพื่อจำหน่ายฯ รับโทษอยู่ในเรือนจำเกือบ 3 ปี ก่อนพ้นโทษเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 62 เจ้าหน้าที่สามารถเข้าจับกุมอีกครั้งได้ที่ ห้องพักเลขที่ 59/9 หอพักบ้านโสภี ม.8 ต.สะเดียง อ.เมืองเพชรบูรณ์ จ.เพชรบูรณ์

จากคดีเหตุการณ์ล่าสุด นายกิตติกร โต๊ะยีหวัง หรือ มีน พระราม 3 ได้ทำการหลอกสาวกลางคืนได้มีสาวใจกล้าเข้าแจ้งความหลังมีเหยื่อโดนมาหลายราย โดยเลือกเหยื่อที่รูปพรรณหน้าออกใหญ่ โพสต์หางานตามกลุ่ม ก่อนจะทักไปใช้ลักษณะคำพูดแบบ ทรงเจ๊ ให้สาวตายใจ จุดนัดหมายทุก ๆ ครั้ง คือย่านพระราม 3 คนร้ายจะให้เหยื่อถอนเงินสดออกมาจนหมดบัญชีอ้างว่าเอาไว้เล่นเกมท้ายกับลูกค้าที่ตนหามาให้ ก่อนหลอกเหยื่อมามีเพศสัมพันธ์ หากเหยื่อคนไหนไม่ยอมหรือเริ่มไหวตัวทัน จะใช้วิธีการขมขู่ว่าตนมีปืนทำให้เหยื่อกลัวและจำยอม เมื่อเสร็จภารกิจคนร้ายจะแอบฉกเงินสดทั้งหมดก่อนหนีหายไป

มีนพระราม3-min-min

บางรายถูกลวงไปปล่อยทิ้งข้างทาง ปล่อยเหยื่อรอเก้อแล้วหายตัว เรียกได้ว่าคนที่ตกเป็นเหยื่อนั้น “เสียทั้งตัวและเสียทั้งตังค์” เหยื่อบางรายเกือบคิดสั้นเพราะเงินสดที่ถูกมันขโมยไปนั้นแทบจะเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของเหยื่อ ที่น่าตกใจกว่าคือเมื่อเหล่าสาวเอ็นได้มีการสำรวจกันในวงการจนทราบว่ามีคนตกเป็นเหยื่อมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ราย

  • สาวสวย ทำเนียนขโมยรองเท้าแบรนด์ดัง ก่อนเดินชิล ออกจากร้าน ให้รปภ.จ่ายเงินให้?
  • ซี๊ดเลยอ่ะ! พริตตี้สาว นุ่งบิกินีจิ๋ว เนินอกทะลัก ฟาดสะโพกเด้งเน้นๆ

นายกิตติกร ให้การภาคเสธโดยให้การว่า “ตนเคยเป็นระดับหัวจ่าย เคยถูกดำเนินคดีในคดีจำหน่ายยาเสพติดฯ เมื่อปี พ.ศ. 2559 หลังจากพ้นโทษเมื่อปี พ.ศ. 2562 ตนได้หาเลี้ยงชีพด้วยการขับรถรับจ้างและเป็นไรเดอร์รับส่งอาหาร โดยใช้บัญชีเพื่อนสนิทของตนในการทำงาน ในระหว่างที่ตนทำงานรับจ้าง ตนได้มีโอกาสทำงานให้กับ นางเอ (นามสมมติ) โดยที่นางเอเป็นโมเดลลิ่งรับจัดหาเด็กเอ็นในช่วงนี้เองที่ตนได้เรียนรู้เกี่ยวกับงานด้านโมเดลลิ่งและทำงานร่วมกับนางเอเป็นระยะเวลาหลายปี จนกระทั่งมีความรู้ความชำนาญในงานดังกล่าวจึงแอบสวมรอยใช้ตรงนี้หลอกเหยื่อ

โดยทำเช่นนี้มาหลายครั้งมีเหยื่อประมาณ 8 คน แต่ไม่ได้มีการขโมยเงินหรือการข่มขืนตามที่เป็นข่าว ในวันที่ 5 พ.ค. 2567 ตนได้ทราบข่าวจากเพื่อนในกลุ่มว่าตนว่ามีภาพของตนออกรายการทีวีหลายรายการโดยรายละเอียดข่าวแจ้งว่าตนได้ลักทรัพย์ผู้เสียหายและหลอกผู้เสียหายไปข่มขืนเป็น 100 ราย ซึ่งหลังจากทราบข่าวตนอยู่ในอาการหวาดกลัวและตกใจเพราะตนไม่ได้กระทำดังเช่นข่าวกล่าวอ้าง จนวันที่ 7 พ.ค. 2567 ตนได้หอบเงินและหนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่จังหวัดเพชรบูรณ์เพื่อหาทางสู้คดี ตนรู้สึกตกใจมากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตนในตอนเช้าตรู่ เนื่องจากเมื่อคืนกลางดึกยังโทรคุยกับสารวัตรแจ๊ะอยู่เลย ไม่คิดว่าตื่นมาจะเร็วขนาดนี้ ยอมรับจากใจว่าชุดสืบนครบาลชุดนี้เก่งมากที่หาตนเจอได้”

หลังจับกุมตัวได้นำตัว นายกิตติกร หรือ มีนพระราม3 ส่งพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ