สายตรงจากโคเรีย! หนิง ปณิตา ยังไม่พร้อมเคลียร์ดราม่าบ้านแตก หอบ ณิริน เที่ยวเกาหลี กลับมาเดี๋ยวว่ากัน
ตกเป็นประเด็นดราม่าร้อนแรงต้อนรับวันแห่งความรักสุดๆ สำหรับผู้จัดคนเก่งและอดีตนางร้ายตัวแม่ หนิง ปณิตา ที่โดนเม้าธ์ข่าวใหญ่เข้าข่ายอักษรย่อ “นางร้ายหน้าเหวี่ยง” ขนเสื้อผ้าออกจากบ้านสามี ตามรอยรักร้าวขาเตียงหัก ซึ่งยังไม่ทันจะได้เคลียร์คัทอย่างกระจ่างสักที
ล่าสุดเจ้าตัวได้ไปร่วมทริปดีลงานยักษ์ SEWA โสมดำ in KOREA #SEWA อันยองโซล พาตัวแทนเซวาไปเที่ยวเกาหลี พร้อมกับผู้บริหาร ปุ๊ก เบญจกิติ และ วุ้นเส้น วิริฒิพา ดันไร้เงาสามีสุดเลิฟ จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ มีเพียงลูกสาวคนสวย น้องณิริน ร่วมทริปเท่านั้น พร้อมกับครอบครัวที่พากันบินตามไปพักผ่อน
ในขณะที่เมืองไทยกลายเป็นเรื่องร้อนกับกระแสข่าวลือระลอก2 ที่ทำเอาโลกออนไลน์ยิ่งสงสัยถึงความสัมพันธ์ของคู่นี้ยิ่งขึ้นไปอีก ร้อนถึง สาวหนิง ต้องรีบชี้แจงส่งตรงจากเกาหลีแบบด่วนสุดๆ “ทริปนี้หนิงมาทำงานค่ะ พาตัวแทนของแบรนด์เซวามาเที่ยวที่เกาหลี เป็นอีกก้าวหนึ่งในการทำธุรกิจ พอได้คุยกับวุ้นเส้นและปุ๊ก เราอยากทำให้เซวาไม่ใช่แค่คนไทยรู้จัก อยากให้ต่างชาติได้รู้จักว่าเป็นแบรนด์คนไทยที่เทียบเท่าแบรนด์ดังๆ ได้เลย พาตัวแทนมาที่เกาหลี เพราะจุดกำเนิดที่ผลิต ให้ตัวแทนมีกำลังแรงใจและกลับไปสู้กันต่อ”
ตอนนี้ข่าวที่เมืองไทยเป็นประเด็นดังเรื่องเลิกรา? “หนิงมาอยู่ที่นี่ มีข่าวที่เมืองไทยวุ่นวายอยู่ แต่เชื่อหรือเปล่านี้เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยนะ ที่รู้ข่าวว่าเรามีข่าว ขออนุญาตใช้คำว่ามีข่าวเกี่ยวกับเรา มีรุ่นพี่ส่งมาให้ดูเยอะมาก แต่ ณ ขณะนี้อยู่เกาหลีจนใกล้จะกลับทริปนี้แล้วยังไม่เปิดข่าวอ่าน คือรู้สึกว่าอยากทำงาน ณ ตรงนี้ให้ดีที่สุดก่อน เพราะว่าหนิงเชื่อว่าโอกาสหลายๆ อย่างที่เข้ามาในชีวิต หนิงโชคดีมากๆ ช่วงหลังมา 1-2 ปี มีโอกาสได้ทำงานดีๆ ที่ทำให้เราเจริญเติบโตมากขึ้น”
“หนิงว่าตรงนี้คือโฟกัสที่สำคัญเลยค่ะ แล้วจริงๆ ทริปนี้มาหลายวันหนีบลูกมาด้วย เพราะว่าปิดเทอมพอดี อยากให้เป็นทริปครอบครัวก็เลยพาคุณแม่และน้องสาวมาเที่ยวกันด้วย พอจบทริปเสร็จก็ยังได้เที่ยวต่อกับครอบครัว ถือว่าไม่ได้ออกทริปต่างประเทศกับครอบครัวนานมาก เรียกว่าแฮปปี้มีความสุขได้งานและได้ความสุขด้วย”
แล้วกับกระแสข่าวจะออกมาชี้แจงจะเคลียร์ยังไง? “เดี๋ยวกลับไปแล้วจะเคลียร์ ขอหนิงตั้งใจอ่านข่าวก่อน แต่ว่าก่อนบินมาเกาหลีหนิงไปออกงานมา หนิงก็ได้เคลียร์สิ่งต่างๆ ไปแล้วให้สัมภาษณ์ไปแล้วทีนึง คิดว่าสัมภาษณ์ตอนนู้นจะจบไปแล้ว ไม่คิดว่าจะมีอะไรเข้ามาอีก คือเอาทีละอย่าง หนิงเชื่อว่าคนเรามันต้องมีอะไรประดังประเดเข้ามา แต่เราเลือกที่จะทำสิ่งที่เราสำคัญก่อน บางครั้งอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นสเต็ปรองๆ ไปและมันยังไม่ใช่เป้าโฟกัสของเรามันไม่จำเป็นต้องรีบ”