หญิงติดปรุง “น้ำส้มสายชู” ใส่ทุกมื้ออาหาร ตรวจสุขภาพแล้วอึ้ง ไม่คิดว่าจะมีโทษ แต่ประโยชน์ก็มีเหมือนกัน
หลายคนมีนิสัยใส่น้ำส้มสายชูในอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ แต่พฤติกรรมนี้ส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร?
คุณหลี่ อายุ 51 ปี จากปักกิ่ง ประเทศจีน เป็นอีกคนหนึ่งที่ชอบใส่น้ำส้มสายชูในอาหารของเธอ คุณหลี่ชอบทำอาหาร โดยมักจะทำอาหารเช้าให้ครอบครัวและนำอาหารกลางวันไปกินที่ทำงาน ทุกครั้งที่เธอกินอาหารประเภทซุป เช่น ก๋วยเตี๋ยวหรือบะหมี่ในตอนเช้า เธอจะใส่น้ำส้มสายชู 1-2 ช้อนโต๊ะเพื่อเพิ่มรสชาติ
คุณหลี่กล่าวว่ารสเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูช่วยกระตุ้นความอยากอาหารและกระตุ้นต่อมรับรส ทำให้เธอรับประทานอาหารได้อร่อยขึ้น
เมื่อเห็นว่าคุณหลี่มีนิสัยชอบใส่น้ำส้มสายชูมาก ลูกชายของเธอจึงกังวลว่าเธออาจจะมีปัญหาสุขภาพ และเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเขาจึงพาเธอไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล
ผลจากการตรวจสุขภาพทั่วไป แพทย์วินิจฉัยว่า “สุขภาพโดยรวมของคุณดี แต่ระดับความเป็นกรดในกระเพาะอาหารสูงกว่าปกติเล็กน้อย คุณมีนิสัยการกินอะไรเป็นพิเศษหรือไม่?”
คุณหลี่บอกแพทย์ว่าเธอมีนิสัยชอบใส่น้ำส้มสายชูกับบะหมี่ในตอนเช้า ส่วนมื้อกลางวันและมื้อเย็นเธอจะใช้น้ำส้มสายชูดำเป็นน้ำจิ้มเพื่อเพิ่มรสชาติของอาหาร
หลังจากฟังคุณหลี่อธิบายนิสัยการกินของเธอ แพทย์ได้อธิบายว่า “การกินน้ำส้มสายชูในปริมาณที่พอเหมาะมีผลดีต่อการย่อยอาหารและลดระดับน้ำตาลในเลือด แต่ถ้ากินมากเกินไปหรือบ่อยเกินไป น้ำส้มสายชูอาจส่งผลกระทบต่อความเข้มข้นของกรดในกระเพาะอาหารและทำให้ระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหาร คุณหลี่มีอายุมากขึ้นแล้ว ความสามารถในการเผาผลาญของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายก็ลดลง การกินอาหารรสเปรี้ยวเป็นประจำจึงอาจทำให้เกิดภาวะกรดในกระเพาะอาหารมากเกินไปได้ ซึ่งหากปล่อยไว้เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาต่างๆ เช่น โรคกรดไหลย้อน โรคกระเพาะอาหาร เป็นต้น”
คำอธิบายของแพทย์ทำให้คุณหลี่ประหลาดใจ เธอไม่เคยคิดว่านิสัยเล็กๆ อย่างการใส่น้ำส้มสายชูในอาหารที่เธอทำมาหลายปี จะกลายเป็นปัจจัยที่อาจทำให้เกิดปัญหากระเพาะอาหารได้
แพทย์กล่าวว่าสุขภาพของคุณหลี่ในปัจจุบันไม่ได้ร้ายแรงนัก เพียงแค่เปลี่ยนแปลงการกินอาหารอย่างเหมาะสม สุขภาพก็จะกลับมาเป็นปกติ แพทย์แนะนำให้คุณหลี่จำกัดปริมาณน้ำส้มสายชูที่ใช้ในแต่ละวัน นอกจากนี้คุณหลี่ควรเพิ่มการรับประทานผักและผลไม้ ลดการกินอาหารที่มีเกลือ น้ำตาล และไขมันสูง เพื่อปรับปรุงสุขภาพ
หลังจากกลับบ้าน คุณหลี่ได้เปลี่ยนแปลงการรับประทานอาหารตามคำแนะนำของแพทย์ เมื่อไม่นานมานี้คุณหลี่ไปตรวจสุขภาพอีกครั้ง แพทย์กล่าวว่าค่าต่างๆ ในร่างกายของคุณหลี่กลับมาเป็นปกติแล้ว ซึ่งทำให้เธอดีใจมาก
จากกรณีของคุณหลี่ แพทย์ยังได้แนะนำให้ทุกคนปรับการรับประทานอาหารให้สมดุลและในปริมาณที่พอเหมาะ ไม่ควรกินเครื่องปรุงหรืออาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไป เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้