ส้มตรุษจีน ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าทิ้ง "ส่วนสำคัญ" เด็ดขาด กินแล้วโชคดีด้านสุขภาพ

Home » ส้มตรุษจีน ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าทิ้ง "ส่วนสำคัญ" เด็ดขาด กินแล้วโชคดีด้านสุขภาพ
ส้มตรุษจีน ผู้เชี่ยวชาญเตือนอย่าทิ้ง "ส่วนสำคัญ" เด็ดขาด กินแล้วโชคดีด้านสุขภาพ

ส้มตรุษจีน นักโภชนาการเตือนอย่าทิ้ง “ส่วนสำคัญ” เด็ดขาด กินแล้ว “โชคดี” ด้านสุขภาพ เพราะมีประโยชน์เยอะมาก

ในช่วงเทศกาลตรุษจีน หลายครอบครัวมักเตรียมขนมและผลไม้ไว้รับประทานกัน ซึ่งส้มเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของ “โชคลาภและความเจริญรุ่งเรือง” นักโภชนาการระบุว่า การกินส้มนอกจากจะนำโชคดีมาให้แล้ว ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมาก แต่หลายคนมักมีนิสัยดึงเส้นใยสีขาวที่ติดกับเนื้อส้มออกก่อนกิน ทั้งที่ความจริงแล้ว เส้นใยนี้อุดมไปด้วยใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ส่งเสริมการขับถ่าย และมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์

“ส้มทั้งลูกมีคุณค่า!” นักโภชนาการ เซี่ยจือเหวิน กล่าวว่าหลายคนเมื่อยังเด็กมักดึงเส้นใยสีขาวออกก่อนกิน แต่เมื่อโตขึ้นจึงได้รู้ว่ามีใยอาหารที่ช่วยระบบย่อยอาหารและการขับถ่าย นอกจากนี้ยังมีฟลาโวนอยด์ หรือที่เรียกว่าวิตามินพี (Vitamin P) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ร่างกายดูดซึมได้ง่าย มีส่วนช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรงและยืดหยุ่น

นักโภชนาการยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ส้มทั้งลูกมีวิตามินซีสูง ซึ่งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวเต่งตึงและยืดหยุ่น พร้อมทั้งลดการเกิดเม็ดสีผิว นอกจากนี้ ส้มยังมีโพลีฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ จึงช่วยปกป้องระบบหลอดเลือดหัวใจ โดยเฉพาะเส้นใยสีขาวที่มีปริมาณโพลีฟีนอลสูงที่สุด ดังนั้นจึงแนะนำให้กินส้มโดยไม่ต้องดึงเส้นใยนี้ออก

เซี่ยจือเหวินยังกล่าวอีกว่า ส้มมีเส้นใยที่ละลายน้ำได้ ซึ่งช่วยรักษาสุขภาพลำไส้และลดระดับคอเลสเตอรอล นอกจากนี้ สารไลโมนีน (Limonene) ที่พบในเปลือกส้มยังมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและลดการอักเสบ อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไอและขับเสมหะ แม้ว่าคนทั่วไปจะไม่กินเปลือกส้มโดยตรง แต่เมื่อผ่านการแปรรูปจะกลายเป็นสมุนไพรจีนที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย

อย่างไรก็ตาม นักโภชนาการเตือนว่า เนื้อส้มมีกรดอินทรีย์ในปริมาณที่พอสมควร ซึ่งอาจระคายเคืองเยื่อบุกระเพาะอาหารได้ ผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารจึงควรหลีกเลี่ยงการกินส้มขณะท้องว่างหรือก่อนมื้ออาหาร นอกจากนี้ ผู้ที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงหรือเป็นเบาหวาน ควรจำกัดการบริโภค โดยแนะนำให้กินส้มครั้งละไม่เกิน 1 ลูก และไม่ควรกินเกินวันละ 2 ลูก เพื่อลดการได้รับน้ำตาลมากเกินไป

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ