ถ้า ‘เพลง’ คือตัวแทนจากช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต ‘สมาร์ทโฟน’ ก็คือตัวแทนของเทคโนโลยีแห่งยุคเช่นเดียวกัน
คุณยังจำได้ไหมครับ ว่าเหตุผลที่ทำให้เราเลือกซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่องคืออะไร? หนึ่งในหลากหลายเหตุผลก็ต้องเป็นเรื่องของฟังก์ชันและฟีเจอร์สุดล้ำแน่นอนใช่ไหมล่ะครับ จนทำให้หลาย ๆ คนพูดว่า “ถ้าเราอยากรู้ว่ายุคนั้นมีเทคโนโลยีอะไรที่่น่าสนใจ ต้องย้อนกลับไปดูที่ฟังก์ชันของสมาร์ทโฟนในช่วงนั้น” ถึงแม้ว่าในปัจจุบันสิ่งนั้นอาจจะเป็นแค่ฟังก์ชันธรรมดา ๆ แต่ในยุคหนึ่งเราก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นนวัตกรรมสุดไฮเทคที่ทำให้เราตื่นเต้นมาก
แต่หากย้อนกลับไป 13 ปีก่อน คุณยังจำได้ไหมครับว่าฟังก์ชันอะไรที่เด่นที่สุด?
ครั้งแรกที่คุณได้ VDO Call หาเพื่อน ๆ คือปีอะไร?
แล้วโทรศัพท์มือถือแบบปุ่มกด เริ่มหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่?
วันนี้ผมเลยขอพาทุกคนมานั่งไทม์แมชชีน ย้อนอดีตไปหาสมาร์ทโฟนเมื่อ 13 ปีก่อน กว่ามือถือของเราจะสมาร์ทได้ขนาดนี้ เขาเคยถูกพัฒนามายังไงบ้าง มาดูกันเลยครับ
ปี 2008 ยุคแรกแห่งหน้าจอสัมผัสปี
ผมขอยกให้ปีนี้เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงของสมาร์ทโฟนเลยครับ เพราะถือเป็นยุคแรก ๆ ที่เริ่มมีการใช้ฟังก์ชันแบบหน้าจอสัมผัสหรือที่เราเรียกว่า Touch Screen นั่นเอง แต่ก็ยังไม่ทิ้งแป้นพิมพ์นะครับ เพราะผู้พัฒนามักจะดีไซน์ในรูปแบบของการสไลด์ เพื่อเปลี่ยนจากการทำงานแบบทัชสกรีนมาพิมพ์ข้อความด้วยคีย์บอร์ดนั่นเองครับ นอกจากนี้ยังเป็นยุคแรกของสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบ 3G อีกด้วยนะครับ
ปี 2009 ยุคของสายแชต
แม้ฟังก์ชันหลาย ๆ อย่างยังไม่แตกต่างจากปีก่อน แต่นี่ถือเป็นยุคของโทรศัพท์มือถือสำหรับสายแชตเลยล่ะครับ กับ BlackBerry ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ซึ่งการมาของบีบีผมถือว่าเป็นต้นกำเนิดโปรแกรมแชตในมือถือที่ถูกนำมาพัฒนาต่อจนถึงปัจจุบัน ด้วยความโดดเด่นที่แตกต่างจากการส่ง SMS รวมทั้งดีไซน์แป้นพิมพ์แบบ QWERTY ก็ยังได้รับความนิยมมาก ๆ ในปีนี้ด้วยครับ
ปี 2010 – 2011 ก้าวสู่สมาร์ทโฟนเต็มรูปแบบ
สองปีนี้เรียกได้ว่าเป็นยุคที่ยกระดับสมาร์ทโฟนไปอีกขั้นเลยล่ะครับ เพราะเริ่มมีการใช้ระบบปฏิบัติการ Android รวมทั้งการรองรับการเชื่อมต่อไร้สายความเร็วสูง 4G LTE ที่ทำให้เราสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือได้ แล้วก็ตามมาด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันต่าง ๆ นั่นเองครับ
ซึ่งในช่วงนี้แหละครับที่สมาร์ทโฟนแบบแป้นพิมพ์เริ่มหายไป ทำให้ผู้พัฒนาให้ความสำคัญกับความคมชัดของหน้าจอมากขึ้น เช่น Retina Display หน้าจอความละเอียด 480P ซึ่งถ้าเทียบกับขนาดของมือถือในช่วงนั้น ความละเอียดนี้ก็คือสุดเทพเลยล่ะครับ ทำให้ในช่วง 2 ปีนี้ เรามีสมาร์ทโฟนระดับตำนานหลายรุ่น นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่มีการนำ Voice Assistant หรือผู้ช่วยด้วยคำสั่งเสียง มาใช้สำหรับสมาร์ทโฟนด้วยครับ
ปี 2012 – ปี 2013 สุดล้ำ ปลดล็อกได้ด้วยลายนิ้วมือ
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่หลาย ๆ ฟังก์ชันเริ่มถูกพัฒนามาเพื่อไลฟ์สไตล์ของพวกเรามากขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพของกล้องที่มาพร้อมความละเอียด 41 ล้านพิกเซล ซึ่งสำหรับในสมัยนั้นถือเป็นไฮไลต์ที่ตกสายชอบถ่ายรูปได้ดีเลยล่ะครับ
แถมนวัตกรรมการปลดล็อกหน้าจอด้วยลายนิ้วมือก็เริ่มต้นในปี 2013 เช่นกัน รวมทั้งปากกาสำหรับสมาร์ทโฟนก็เกิดขึ้นในยุคนี้อีกด้วยครับ
ปี 2014 – 2015 กันน้ำ – กันฝุ่น ต้องมาแล้ว
เคยสงสัยไหมครับว่ามือถือกันน้ำได้ เริ่มมาตั้งแต่เมื่อไหร่?
ก็เริ่มตั้งแต่ตอนนี้นี่แหละครับ ซึ่งคุณสมบัตินี้ถือเป็นอีกหนึ่งความพิเศษที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ใช้งานได้อย่างมาก
และยังเป็นช่วงแรก ๆ ที่มีสมาร์ทโฟนสามารถวัดอัตราการเต้นของหัวใจผ่านเซนเซอร์ได้อีกด้วย
ปี 2016 ยกระดับการปลดล็อก
สแกนลายนิ้วมือผ่านไปแล้ว ยุคนี้พี่ขอปลดล็อกหน้าจอด้วยการสแกนม่านตา (Iris Scanner) แล้วกัน ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้หลายแบรนด์นำคุณสมบัตินี้มาพัฒนาจนถึงปัจจุบันเลยล่ะครับ
ปี 2017 ยุคของ Dual Camera
ในปีนี้สมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่นเริ่มมีการใช้งานกล้องถ่ายภาพแบบคู่ (Dual Camera) คือการใช้งานเซนเซอร์รับภาพสองตัว ทำให้ภาพถ่ายมีรายละเอียดที่คมชัด สีสัน และแสงเงา มีรายละเอียดที่ดีกว่าการถ่ายจากกล้องสมาร์ทโฟนทั่ว ๆ ไปนั่นเองครับ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเพิ่มปริมาณกล้องที่ใช้ถ่ายภาพในปัจจุบันอีกด้วยครับ
ปี 2018 – ปี 2019 ทั้งล้ำ ทั้งหรู
2 ปีนี้ถือเป็นปีที่แต่ละแบรนด์แข่งขันกันด้านนวัตกรรมสูงกว่าปีอื่น ๆ แถมยังต้องมาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามตอบโจทย์ผู้ใช้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอแบบไร้ขอบ รวมทั้งกล้องหน้าที่ถูกฝังอยู่ภายใต้หน้าจอนั่นเองครับ
และเริ่มมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของฟังก์ชันสำหรับการถ่ายภาพในสมาร์ทโฟนหลาย ๆ รุ่น ทั้งระบบกันสั่น ระบบชดเชยแสง รวมทั้งฟีเจอร์สำหรับการทำคอนเทนต์ที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานในปัจจุบันมากขึ้น
ปี 2020 สมาร์ทโฟน เร็วสุด แรงสุด แห่งยุค
เข้าสู่ยุค 5G กับอินเทอร์เน็ตที่เร็วแรง นั่นเลยทำให้ระบบชาร์จเร็ว หรือ Fast Charge ได้รับความนิยมอย่างมากกว่าปีก่อน ๆ แถมในช่วง 2 – 3 ปีนี้ เทคโนโลยีกล้องก็ล้ำสุด ๆ ทำให้สมาร์ทโฟนในปีนี้มักชูเรื่องความสามารถของกล้องเป็นหลักนั่นเองครับ
ปี 2021 ยกระดับการดีไซน์อีกครั้ง
มาถึงปีปัจจุบัน 2021 กันแล้วนะครับ เมื่อเราเสิร์ชหาสมาร์ทโฟนแห่งปี สิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ นั่นก็คือเทรนด์ของสมาร์ทโฟนแบบพับได้ ด้วยความต้องการของผู้ใช้งานคือ พกพาสะดวก ซัปพอร์ตการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ทำให้สมาร์ทโฟนสไตล์นี้ถูกผลิตมากขึ้นนั่นเองครับ ซึ่งบอกเลยว่าล่อตา ล่อใจ ล่อกระเป๋าตังค์ของผมมาก ๆ เลยล่ะครับ ฮ่า ๆ
ต้องบอกก่อนนะครับว่า ทั้งหมดที่ผมพูดมานี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนวัตกรรมเท่านั้น เพราะจริง ๆ แล้วตลอด 13 ปี ที่ผ่านมาสมาร์ทโฟนของเราไม่เพียงพัฒนาแค่ฟังก์ชัน แต่ยังรวมถึง สเปก ชิปเซต ระบบปฏิบัติการ แบตเตอรี่ ความจุ ขนาด และอื่น ๆ อีกมากมายเลยล่ะครับ ซึ่งหากนำมาเปรียบเทียบผมบอกเลยว่าเห็นความแตกต่างอย่างชัดเจนแน่นอน
ส่วนใครที่กำลังตามหาสมาร์ทโฟนแห่งปี 2021 ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา ก็สามารถไปเลือกชมที่ได้ https://m.ais.co.th/epH40mRcY ได้เลยครับ ไม่ว่าคุณจะสายแชต โซเชียล หรือเกมมิ่ง ที่ AIS ก็มีสมาร์ทโฟนให้คุณเลือกชอปครบเลยครับ ส่วนสำหรับปีหน้าจะมีนวัตกรรมอะไรมาให้เราร้อง ‘ว้าว’ อีกก็ต้องรอติดตามกันต่อไปนะครับ