‘สุเทพ’ หนุน ‘ประยุทธ์’ อยู่ครบวาระ ลั่นเลือกตั้งครั้งหน้า ไม่เห็นมีใครเหมาะเท่า ‘บิ๊กตู่’ ชี้โดดเด่นกว่าคนอื่น ปฏิเสธไปเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองใหม่
วันที่ 30 พ.ย.64 ที่ศาลฎีกา สนามหลวง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการ กปปส. กล่าวถึงระบบเลือกตั้งโดยใช้บัตร 2 ใบ ว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ตั้งแต่ต้น เพราะในอดีตเราเคยใช้มาแล้วเกิดปัญหา กลายเป็นเผด็จการรัฐสภาขึ้นมา แต่เมื่อพรรคการเมืองใหญ่ๆ เห็นว่าการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ จะได้ประโยชน์ เขาก็ร่วมมือกันแก้ไขกฎหมายเลือกตั้ง
ตนคิดว่าเป็นหน้าที่ของพี่น้องประชาชน ต้องติดตามข้อดีข้อเสีย ถึงตอนนั้นประชาชนจะได้ความชัดเจนขึ้นว่าสถานการณ์บ้านเมืองขณะนั้นเป็นอย่างไร การตัดสินใจเลือกตั้งจะตัดสินใจอย่างไรต่อต้องฝากไว้กับพี่น้องประชาชน
เมื่อถามว่า ในส่วนของพรรครวมพลังประชาชาติไทย เมื่อเป็นพรรคเล็กจะเสียเปรียบอย่างไร อาจจะมีการย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองอื่นหรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า เมื่อก่อนมีการบัตรเลือกตั้งใบเดียวดีอยู่แล้ว คะแนนเสียงของประชาชนทุกคะแนนเสียงไม่ถูกละเลย ทุกคะแนนนำไปคำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อได้ ก็เชื่อมโยงกันดี
แต่บัตรเลือกตั้ง2ใบ แบ่งชัดเจน เช่น มีพรรคหนึ่ง ไม่ได้ส.ส.เขตเลย แต่ได้คะแนนเลือกตั้งที่ 2 ,ที่ 3 ทั้งประเทศ ก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะเอาคะแนนพรรคไปตัดสินต่างหากว่าบัญชีรายชื่อพรรคการเมืองไหนจะได้เท่าไหร่ เพราะฉะนั้น พรรคการเมืองใหญ่ๆ ทุนโฆษณาประชาสัมพันธ์เยอะก็ได้เปรียบพรรคเล็กๆ
ส่วนจะย้ายไปสังกัดพรรคการเมืองใหญ่หรือไม่นั้น นายสุเทพ ตอบปฏิเสธ โดยระบุว่า ตนกับพี่น้องร่วมอุดมการณ์ตั้งใจสร้างพรรคการเมืองที่แท้จริงของประชาชนขึ้นมาให้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นพรรคใหญ่ หรือพรรคกลาง พรรคเล็กๆก็เป็นได้ เพราะเราดูเรื่องคุณภาพ ซึ่งจะเห็นว่ารวมพรรคพลังประชาชาติไทย มี ส.ส.แค่ 5คน แต่มี นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็น รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ซึ่งทำงานได้ดี ช่วยประเทศชาติ และประชาชนได้มาก ตนจึงมองเรื่องคุณภาพมากกว่า
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า สุดท้ายแล้วอาจจะเหลือแค่ 2 พรรคใหญ่ ที่จะแข่งขันกัน นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่แน่ เดี๋ยวนี้ประชาชนติดตาม สถานการณ์บ้านเมือง ตนคิดว่าการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งของพี่น้องประชาชนแต่ละครั้งในการเลือกตั้งทั่วไป ก็มีแรงจูงใจที่เปลี่ยนไป
ครั้งหน้า พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่ นายสุเทพ กล่าวว่า ยังไม่รู้เลยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะลงหรือไม่ และไม่ทราบว่าจะมีพรรคการเมืองใดเสนอชื่อ วันนี้มีหน้าที่อย่างเดียวคือทำงานเพื่อบ้านเมือง และทำงานให้ประชาชน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ นายสุเทพ จะไปเป็นที่ปรึกษาพรรคการเมืองใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นมารองรับ กลุ่ม 3 ป. นายสุเทพ กล่าวว่า ไม่มี เป็นการปล่อยข่าวลือ ยืนยันว่าจะอยู่พรรคการเมืองที่ตนมั่นใจว่าเป็นพรรคการเมืองของประชาชน และขณะนี้ก็เห็นเพียงพรรคเดียวคือ พรรครวมพลังประชาชาติไทย
ส่วนการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในครั้งหน้าจะส่งครบทุกเขตหรือไม่ ขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ตนเป็นเพียงผู้สนับสนุน ให้คำปรึกษา และผู้ร่วมก่อตั้ง
อย่างไรก็ตาม เรายังไม่ทราบว่าจะมีการเลือกตั้งเมื่อไหร่ ยังอีกนาน และเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ อยู่จนครบวาระ เพราะการแก้ไขปัญหาเรื่องโรคระบาด และปัญหาเศรษฐกิจ เป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ทำมาระยะหนึ่งแล้ว และควรทำต่อเนื่องจนจบนอกจากนี้ ยังมีเรื่องการประชุมเอเปก รัฐบาลจึงควรอยู่ครบวาระ
“วันนี้ยังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ครบสมัย ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าต้องดูอีกทีว่ามีใครบ้างที่มีความพร้อมเป็นผู้นำรัฐบาลได้ ตอนนี้ยังมองไม่เห็นคนที่มีความสามารถสูสี พล.อ.ประยุทธ์ ถ้าพิจารณาในวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ดูโดดเด่นกว่าคนอื่น ทั้งในเรื่องความตั้งใจ และผลงานที่ทำมา แต่เวลาเหลือตั้งปีกว่าพูดไปตอนนี้ก็เร็วเกินไป” สุเทพ กล่าว