ช็อค! “เอฟวัน”เทพไชยา อุ่นหนู จอมคิวอาชีพมือ 40 ของโลก เดินทางถึงเมืองไทย เพียงแค่วันเดียว เจอข่าวร้าย คุณแม่เพียร อุ่นหนู เสียชีวิตจากอาการป่วยหลายโรค ที่รักษาอยู่ที่โรงพยาบาลนครนายก มา 2 สัปดาห์

“เอฟวัน” เทพไชยา อุ่นหนู นักสนุกเกอร์มือ 40 ของโลก ออกมาเปิดเผยว่า ตนเดินทางกลับจากการเล่นสนุกเกอร์อาชีพที่ประเทศอังกฤษ เพื่อมาร่วมการแข่งขันสนุกเกอร์ ไทยแลนด แรงกิ้ง เซอร์กิต รายการที่ 6 และ รายการชิงแชมป์ประเทศไทย ซึ่งเดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยทันทีที่มาถึงกรุงเทพฯ ได้ทำการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 เรียบร้อย พอรุ่งขึ้นวันที่ 4 ธ.ค. หมอที่โรงพยาบาลนครนายก ได้โทรมาหาพี่สาวตน เพื่อแจ้งให้ลูกๆทุกคน รวมทั้งตนที่เพิ่งเดินกลับจากต่างประเทศ ให้รีบมาที่โรงพยาบาล เพื่อมาดูอาการคุณแม่ “เพียร อุ่นหนู” อายุ 66 ปี ที่ป่วยหนัก โดยตนได้พาครอบครัวไปเยี่ยมตั้งแต่เช้า ซึ่งตอนนั้น แม่ได้รับยา นอนหลับตาแต่รับรู้ทุกอย่าง ตนก็ยังได้จับมือแม่ พูดกับแม่อยู่นานพอสมควร

“ผมทราบมาว่าตั้งแต่อยู่ประเทศอังกฤษแล้วว่า แม่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลมา 2 สัปดาห์ จากอาการป่วยหลายโรค มีทั้งเบาหวาน, ปอดอักเสบ, แผลทับเส้น เป็นต้น ซึ่งหมอได้ให้ยา และเครื่องช่วยให้ใจเอาไว้ แม่รับรู้ทุกอย่างที่ทุกคนพูดกับแม่ แต่ไม่สามารถพูดโต้ตอบได้ ทำได้เพียบขยับมือ หรือมีน้ำตาไหล ซึ่งหมอบอกว่าให้ทุกคนทำใจ แต่ตอนนั้นตนยังไม่คิดว่า แม่จะจากเราไปเร็ว จนกลับมาบ้านที่กรุงเทพฯ ทางโรงพยาบาลได้โทรมาหาพี่สาว และได้แจ้งกับทุกคนว่าแม่เสียแล้ว เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ตนรู้สึกเสียใจมาก ถึงแม้จะทำใจไว้ตั้งแต่อยู่ประเทศอังกฤษ แต่เอาเข้าจริงๆรู้สึกเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ แต่ชีวิตต้องเดินต่อไป

โดยในวันอาทิตย์ เป็นวันที่ 5 ธันวาคมตรงกับว่าสำคัญไม่สามารถทำพิธีรดน้ำศพได้ ซึ่งในวันจันทร์ จะไปรับศพแม่ที่โรงพยาบาลเพื่อมาทำพิธีทางศาสนา โดยจะไปนำรดน้ำศพและสวดอภิธรรม ที่วัดโพธิ์นายก จ.นครนายก ซึ่งจะสวดกี่วันคงต้องปรึกษาทางครอบครัวก่อน” เอฟกล่าว

เทพไชยา อุ่นหนู จอมคิวชื่อดังยังกล่าวถึงการแข่งขันสนุกเกอร์ ไทยแลนด์ แรงกิ้ง เซอร์กิต รายการ “อีมิแน้นท์แอร์-ทรู อุดรธานีคัพ” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 6-11 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า พอแม่เสียชีวิต ตอนแรกตนอยากจะถอนตัวจากการแข่งขัน แต่มาคิดดูแล้ว ตนเป็นฝ่านโทรมาขอสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ลงแข่งขันรายการนี้ เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ถ้าจะถอนตัวเดี๋ยวจะเสียคำพูด จึงคิดที่จะไปร่วมการแข่งขัน ที่ จ.อุดรธานี ตามที่รับปากไว้ ซึ่งตนมีโปรแกรมลงแข่งขันในวันอังคารที่ 7 ธ.ค.64 ทำให้ได้อยู่พิธีสวดอภิธรรมศพแม่ได้ในวันแรก จากนั้นในคืนวันจันทร์ จะรีบบินไป จ.อุดรฯทันที หรือถ้าไม่ทัน คงต้องบินไปตอนเช้าวันที่ 7 ธ.ค.และลงแข่งขันในวันนั้นเลย พอแข่งจบ ก็จะบินกลับมาร่วมงานศพอีกที ถ้าโปรแกรมไม่ชนกัน โดยวันที่ตนไม่อยู่ ยังมีพี่-น้อง ทั้ง 7 คนช่วยกันดูแลงานศพได้อย่างดี