เว็บไซต์ nypost รายงานว่า ลอรา บาราฮาส หญิงชาวแคลิฟอร์เนียวัย 40 ปี ต้องตัดแขน-ขาออก หลังจากที่เธอกินปลานิลที่ปนเปื้อนแบคทีเรียร้ายแรง และเข้ารับการผ่าตัดช่วยชีวิตหลังจากต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานหลายเดือน
“มันเป็นเรื่องหนักมากสำหรับพวกเราทุกคน มันน่ากลัว สิ่งนี้อาจเกิดขึ้นได้กับพวกเราทุกคน เธอเกือบจะเสียชีวิตแล้ว ต้องสวมเครื่องช่วยหายใจ” แอนนา เมสซินา เพื่อนของ บาราฮาส เผย
เมสซินา กล่าวว่า บาราฮาส ป่วยมาหลายวันหลังจากกินปลาที่เธอซื้อจากตลาดท้องถิ่นในซาน โฮเซ และมาทำกินเองที่บ้าน
“เธอโคม่าจากการรักษาทางการแพทย์ นิ้วของเธอเป็นสีดำ เท้าของเธอเป็นสีดำ ริมฝีปากล่างของเธอเป็นสีดำ เธอมีภาวะติดเชื้ออย่างสมบูรณ์และไตของเธอล้มเหลว” เมสซินา กล่าวเสริม
เมสซินา กล่าวว่าเพื่อนของเธอติดเชื้อ Vibrio vulnificus ซึ่งเป็นแบคทีเรียที่อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตที่พบในอาหารทะเลดิบและน้ำทะเล
“เธอไม่รู้มาก่อนว่าการทำอาหารนี้จะเปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เธออยู่ในโรงพยาบาลมานานกว่าหนึ่งเดือนและต้องต่อสู้เพื่อชีวิตของเธอ ตอนนี้เธอกลายเป็นผู้พิการทางร่างกายแล้ว”
ด้าน ดร.นาตาชา สปอตติสวูด ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อเผยว่า “วิธีที่คุณจะติดเชื้อแบคทีเรียนี้คือ หนึ่ง คุณกินอาหารที่มีสิ่งที่ปนเปื้อนด้วย และสอง มีแผลหรือรอยสักแล้วโดนน้ำที่มีเจ้าตัวนี้อาศัยอยู่เข้าไปทางนั้น”
“นี่เป็นการติดเชื้อที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ”
มีรายงานผู้ป่วยติดเชื้อ Vibrio vulnificus ประมาณ 150-200 รายในแต่ละปี ซึ่งผู้ติดเชื้อประมาณ 1 ใน 5 จะเสียชีวิต