สาแก่ใจไหม?! เจ้าสาวสั่งเจ้าบ่าวดื่ม "น้ำล้างเท้า" เจอแก้แค้นแสบ คว้า “เพื่อน” เข้าพิธีแทน

Home » สาแก่ใจไหม?! เจ้าสาวสั่งเจ้าบ่าวดื่ม "น้ำล้างเท้า" เจอแก้แค้นแสบ คว้า “เพื่อน” เข้าพิธีแทน
สาแก่ใจไหม?! เจ้าสาวสั่งเจ้าบ่าวดื่ม "น้ำล้างเท้า" เจอแก้แค้นแสบ คว้า “เพื่อน” เข้าพิธีแทน

ครอบครัวเจ้าสาวคิดอะไรอยู่ บังคับเจ้าบ่าวดื่มน้ำล้างเท้า อ้อนวอนไม่เป็นผล สุดทนคว้าเพื่อนเจ้าสาวแต่งแทน งานนี้มีคนเงิบ…

ตามรายงานพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในพื้นที่ชนบทของมณฑลกวางสี ประเทศจีน ในวันแต่งงานเจ้าบ่าวได้เดินทางไปรับเจ้าสาวที่บ้านของเธอ เมื่อรู้ว่าประเพณีท้องถิ่นก็มีธรรมเนียม “กั้นประตู” เจ้าบ่าวจึงก็เตรียมความพร้อมมาอย่างดี ดึงซองแดงออกมาแจกจ่ายให้กับบรรดาญาติเจ้าสาว เมื่อเห็นว่าประตูถูกเปิดให้เข้าไปในบ้าน เจ้าบ่าวก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจด้วยความโล่งอก

แต่แล้วขณะที่เจ้าสาวกำลังจะขึ้นรถไปที่บ้านของสามี กลับเกิดอุปสรรคชิ้นใหญ่ที่เขาต้องเอาชนะขึ้นมาอีก จู่ๆ ลุงของเธอก็ก้าวเข้ามาหยุดเธอโดยบอกว่าขั้นตอนยังไม่เสร็จสิ้น และยืนยันเสียงแข็งว่าเจ้าบ่าวไม่สามารถพาเจ้าสาวออกไปได้ โดยไม่ทำตามขั้นตอนทั้งหมดให้เสร็จสิ้นเสียก่อน แม้ว่าในเวลานั้นเจ้าบ่าวจะสับสนเล็กน้อย แต่เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามคำแนะนำของผู้เฒ่า

หลังจากฟังอย่างตั้งใจแล้ว เจ้าบ่าวก็เข้าใจว่าเขาจำเป็นต้องล้างเท้าให้ภรรยา คุณลุงบอกว่าการล้างเท้านี้เป็นการล้างทุกสิ่งออกไป เพื่อนำสิ่งที่ดีกว่ามาเข้ามาในชีวิต และถือเป็นธรรมเนียมของครอบครัวพวกเขาด้วย หลังจากได้ยินเช่นนี้ เจ้าบ่าวก็เข้าใจทันทีว่าเขาข้ามขั้นตอนนี้ไปไม่ได้ จึงพับแขนเสื้อขึ้นและเริ่มล้างเท้าเจ้าสาวอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อล้างเท้าจบกลับเจอคำสั่งที่ยิ่งตกตะลึง ลุงเจ้าสาวกล่าวไว้ เจ้าบ่าวจะต้องดื่มน้ำล้างเท้าของเจ้าสาว

ดื่มน้ำล้างเท้าเพื่อแสดงความรัก ?

ในเวลานี้เจ้าบ่าวสับสนมาก ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรเขาก็ไม่สามารถทำตามคำสั่งนั้นได้ ในขณะที่ลุงยังคงเอาน้ำล้างเท้ามาจ่อเพื่อกระตุ้นให้เขาดื่ม เขาจึงหันไปมองแม่ภรรยาโดยหวังว่าเธอจะ”ช่วยเหลือ” และไม่ปล่อยให้ลุงทำเรื่องที่เขาลำบากใจอีกต่อไป แต่ปรากฎว่าแม่ภรรยาก็พูดอย่างหนักแน่นว่า ลูกเขยจะต้องดื่มน้ำเพื่อล้างเท้าของเจ้าสาว

เมื่อได้ยินดังนั้นเขายิ่งสับสนมากขึ้นกับทัศนคติของแม่ภรรยา เขาลองคิดกับตัวเองว่าถ้าสถานการณ์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ เขาคงต้องเพียงแค่หลับตาและดื่มๆ มันไปซะ แต่นั่นคือความคิด การกระทำจริงเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะเขาไม่สามารถเอาน้ำล้างเท้าเข้าปากได้จริงๆ

เจ้าบ่าวเพียงต้องการต้อนรับเจ้าสาวอย่างราบรื่น แต่เขาไม่คาดคิดว่าจะต้องเผชิญกับความยากลำบากเช่นนี้ เมื่อมาถึงจุดนี้ เขายังคงพยายามถามพ่อแม่ของภรรยาด้วยเสียงแผ่วเบาเพื่อขอน้ำสะอาดให้เขาดื่ม น้ำสำหรับล้างเท้าเขาดื่มไม่ได้จริงๆ แต่ในเวลานี้จู่ๆ พี่เขยก็พูดขึ้นว่าต้องดื่มน้ำล้างเท้าซึ่งเป็นธรรมเนียมของครอบครัว และเขาก็เคยทำแบบเดียวกันมาก่อน จากนั้นลุงคนโตก็แทรกเข้ามาบอกว่า ทุกคนปฏิบัติตามประเพณีที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในครอบครัว ไม่ว่าใครจะแต่งงานกับครอบครัวนี้ก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้

ในที่สุด เจ้าบ่าวหันความสนใจไปที่เจ้าสาว โดยหวังว่าเธอจะพูดแทนเขาได้บ้าง เพื่อที่ทั้งคู่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันต่อจากนี้ไป เพราะสิ่งที่สำคัญคือสุดคือความรักของเขาและเธอ ถ้าเจ้าสาวบอกว่าไม่จำเป็นต้องดื่ม คนอื่นก็อาจจะไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่น่าประหลาดใจที่เจ้าสาวก็มีความคิดเห็นเช่นเดียวกับครอบครัวของเธอ โดยคิดว่าการที่เจ้าบ่าวดื่มน้ำล้างเท้าเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความรักที่เขามีต่อเธอ

เจ้าสาวพูดว่า “คุณมักจะบอกว่าคุณรักฉัน แต่ตอนนี้คุณไม่กล้าแม้แต่จะดื่มน้ำล้างเท้า มันเป็นเพียงเครื่องดื่ม คุณไม่รักฉันเหรอ?”

เจ้าสาวเน้นย้ำกับเจ้าบ่าวอีกครั้งว่านี่เป็นประเพณีที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นในครอบครัวของเธอ และไม่มีใครได้รับการยกเว้น เธอเชื่อว่าหากเธอปล่อยให้เจ้าบ่าวทำเช่นนั้น คนอื่นจะดูถูกเธอและครอบครัวของเธอ เมื่อมาถึงจุดนี้ เจ้าบ่าวอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาทำได้เพียงเลือกว่าจะหลับตาดื่มน้ำล้างเท้า หรือไม่ก็ต้องยอมปล่อยความรักครั้งนี้ไป

เจ้าบ่าวแสดงความคิดเห็นของเขาว่า นี่อาจเป็นธรรมเนียมของครอบครัวเจ้าสาว แต่เราเข้าสู่สังคมสมัยใหม่ และไม่สามารถปฏิบัติตามสิ่งเหล่านี้ได้เสมอไป แต่เจ้าสาวและครอบครัวยังคงยืนกรานอย่างเดิม ดังนั้นเมื่อพูดทุกอย่างเท่าที่ทำได้แล้ว ในที่สุดเจ้าบ่าวก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขายืนยันว่าเขาจะไม่ดื่มน้ำล้างเท้า และจะไม่แต่งงาน อย่างไรก็ดี เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ครอบครัวเจ้าสาวก็ยังคงไม่ยอมยอมแพ้

เจ้าบ่าวเห็นดังนั้นก็โกรธมากจึงหันไปถาม “เพื่อนเจ้าสาว” ที่อยู่ข้างๆ ว่าจะแต่งงานกับเขาไหม เพื่อนเจ้าสาวจึงโพล่งตอบตกลงทันที ในตอนนั้นเองที่เจ้าสาวตระหนักได้ว่าสถานการณ์มาถึงจุดที่ไม่อาจย้อนกลับได้ เธอจนถึงกับตบหน้าเจ้าบ่าว แต่ก่อนที่เจ้าบ่าวจะทันได้โต้ตอบ เจ้าสาวก็ถูกตบหน้าเสียคืนก่อน โดยฝีมือของเพื่อนเจ้าสาวนั่นเอง จากนั้นเพื่อนเจ้าสาวและเจ้าบ่าวก็จากไปโดยไม่หันกลับมามองอีก ปล่อยให้เจ้าสาวและครอบครัวไตร่ตรองถึงพฤติกรรมอันอุกอาจของพวกเขา

แท็กที่เกี่ยวข้อง

เรื่องอื่นที่น่าสนใจ