สาวโอนเงินผิดลั่น ให้เวลาคู่กรณีใช้เงินคืนครบก่อนตำรวจออกหมายจับ ด้านสาวบุรีรัมย์อ้างอยากออกจากบ้าน แต่กลัวนักข่าว
จากกรณีนางสาววิราวรรณ ชวดพงษ์ อายุ 40 ปี ชาว อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ผู้ประกอบกิจการ “เอส.พี.ฟู้ดส์ 2017” จำหน่ายอาหารทะเลแช่แข็ง และวัตถุดิบหมูกระทะทุกชนิด โอนเงินผิดบัญชีไปยัง นางเสาวณีย์ (ขอสงวนนามสกุล) หญิงสาวชาวจังหวัดบุรีรัมย์ แต่ได้เงินกลับคืนมาให้เพียงบางส่วนเท่านั้น ขณะที่เงินที่ยังขาดอยู่นั้นคู่กรณีอ้างว่าได้ใช้หมดแล้ว หากอยากได้ให้แจ้งความดำเนินคดีก็ยินยอมติดคุก (อ่าน : สาวช้ำ โอน 2.9 แสนผิดบัญชี แบงก์เมิน คนรับเงินคืนไม่ครบ บอกใช้หมดแล้ว ยอมติดคุก )
ล่าสุดวันที่ 19 พ.ค. 65 นางสาววิราวรรณ เปิดเผยว่า เมื่อเย็นวานนี้ตนได้รับการติดต่อกลับมาจากนางเสาวณีย์ คู่กรณีแล้ว หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่ยอมรับสาย และปิดโทรศัพท์หนีไปเลย ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกันเขาบอกว่าตอนนี้รู้สึกสำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำลงไป และอยากจะขอชดใช้เงินคืนให้ทั้งหมด ส่วนหมายเรียกครั้งที่ 1 นั้น ยังส่งไปไม่ถึง โดยทางคู่กรณีต้องการจะนำรถจักรยานยนต์ที่เอาเงินของตนไปตัดหนี้จนได้เล่มมานั้นไปขาย เพื่อนำเงินมาคืนให้ตนราว ๆ 20,000 บาท
แต่มีปัญหาตรงที่ไม่กล้าออกจากบ้าน เพราะมีนักข่าวมาเฝ้ารอที่หน้าบ้านตลอดเวลา จึงทำให้เกิดความกลัวว่าถ้าออกไปแล้วจะเจอสัมภาษณ์แล้วไม่สามารถตอบคำถามได้ ทั้งนี้หากหลบเลี่ยงออกไปได้ ก็จะรีบเอารถจักรยานยนต์ไปขายหรือเข้าไฟแนนซ์ และโอนเงินคืนมาให้ทันที ส่วนที่เหลือจะขอผ่อนคืนจนกว่าจะครบทั้งหมด ซึ่งตนได้บอกกับคู่กรณีไปว่า ขอเพียงแค่ยอมรับผิดต่อการกระทำอย่างจริงใจ ก็เชื่อได้ว่าสังคมจะเข้าใจและยอมให้อภัยอย่างแน่นอน
ส่วนเรื่องของการคืนเงินแบบผ่อนชำระนั้น ตนต้องขอดูเจตนาที่ชัดเจนของคู่กรณีก่อน ว่าจะพูดจริงแล้วทำจริงหรือไม่ ซึ่งตนได้ขีดเส้นไว้ว่า หากคู่กรณีสามารถคืนเงินกลับมาได้ครบทั้งหมดก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะออกหมายจับ ก็พร้อมที่จะยอมความกับคู่กรณี
แต่ถ้าตำรวจออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง จนนำไปสู่การออกหมายจับแล้วคู่กรณียังผ่อนชำระคืนไม่ครบในจำนวนที่ขาดไปคือ 133,439 บาท ก็จะให้เป็นหน้าที่ของกระบวนการทางกฎหมายในการดำเนินคดีกับผู้ที่ตั้งใจกระทำความผิดดังกล่าว เพื่อเป็นตัวอย่างแก่สังคมและเพื่อต้องการสอนให้คนที่นำเงินของตนไปนั้น ได้รู้ว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดอีกด้วย
สำหรับในส่วนของธนาคารฯ ตนได้รับการติดต่อมาเพียงแค่บอกว่า ทางธนาคารฯ กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการให้อยู่ จากการที่ได้สนทนาแล้วนั้น ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยพอใจต่อการให้บริการของธนาคารฯ เพราะตนรู้สึกว่า ตนเป็นลูกค้าอย่างไรเสียธนาคารฯ ควรมีการให้บริการที่ดีและรวดเร็วในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อลูกค้าเช่นนี้