สาวแชร์ประสบการณ์สุดเฟล เกี่ยวกับการรับประทานอาหารที่ร้านปิ้งย่าง เจ้าของร้านรีบออกมาร่ายยาวชี้แจง แต่ชาวเน็ตอ่านแล้วยิ่งแบน!

คุณเอ็ม (นามสมมุติ) เล่าว่า เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา เธอและเพื่อนๆ ไปทานอาหารที่ร้านอาหารชื่อดังในฮานอย พวกเธอสั่งบุฟเฟ่ต์ราคา 339,000 ด่อง/ท่าน ซึ่งสามารถกินเนื้อสัตว์ได้ทุกประเภทที่มีในร้าน และเพราะเธอไม่ชอบกินหมู ดังนั้นจึงสั่งแต่เมนูเนื้อวัวเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หลังจากเสิร์ฟมา 2  จาน ก็สังเกตว่าได้รับเนื้อสัตว์ส่วนหนึ่งที่ “ไม่เหมือนเนื้อวัว” เธอจึงสอบถามพนักงาน และได้รับคำตอบว่าเป็น “เนื้อหมู”  ทำให้ต้องปฏิเสธที่จะรับมา เพราะเธอไม่กินหมู

ในเวลานี้ พนักงานสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็แสดงสีหน้า “ไม่น่ามอง”  แล้วจ้องมองมาทางเธอ อีกทั้งยังพูดว่า “ถ้าไม่กินต้องบอกตั้งแต่แรกสิ…” ทำให้เธอต้องรีบชี้แจงว่าอะไรเป็นอะไร แต่พนักงานหญิงคนนั้นก็ยังคงแสดงท่าทีไม่พอใจ มีเพียงพนักงานชายอีกคนเท่านั้นที่ยืนขึ้นเพื่อขอโทษ

เมื่อต้องเผชิญกับทัศนคติเช่นนี้จากพนักงานหญิง คุณเอ็มและเพื่อนจึงตัดสินใจทานอาหารให้เสร็จ แล้วจึงออกมาจากร้านให้จบๆ ไป อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่พวกเธอกำลังยืนรอรถอยู่ที่หน้าร้าน คุณเอ็มก็เห็นพนักงานหญิงถือชามอะไรสักอย่างมาหว่านทิ้งไว้หน้าร้าน ก่อนที่เพื่อนจะอธิบายให้เธอฟังว่า สิ่งที่ทำคือการ “โรยเกลือและข้าว” ซึ่งตามความเชื่อคือการ “ไล่ผี”

เนื่องจากทัศนคติและพฤติกรรมของพนักงานร้านอาหารไม่สามารถยอมรับได้ คุณเอ็มจึงตัดสินใจแบ่งปันประสบการณ์นี้บนโซเชียลเน็ตเวิร์ก และได้รับความสนใจจากชาวเน็ตทันที ความคิดเห็นส่วนใหญ่มองว่าทัศนคติของพนักงานหญิงในเรื่องเป็นที่ยอมรับไม่ได้จริงๆ

เมื่อต้องเผชิญกับกระแสการคว่ำบาตรจากชุมชนออนไลน์ เจ้าของร้านอาหารจึงต้องออกมาพูดถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างเป็นทางการ ยอมรับว่ามีความเข้าใจผิดในการสั่งอาการจริง แต่เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงเท่าที่ลูกค้าสาวเล่า และยืนยันว่าไม่มีการไล่ผี แต่เป็นเพียงสิ่งที่เตรียมเอาไว้ถวายเทพเจ้าตามปกติเท่านั้น

นอกจากนี้ เจ้าของร้านอาหารยังเล่าอีกว่า หลังจากโพสต์ของคุณเอ็ม ทำให้ทางร้านอาหาร และพนักงาน ต้องถูกโจมตีจากความคิดเห็นของสาธารณชนเป็นจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เจ้าของร้านอธิบายยืดยาวและอ่านเข้าใจยาก นอกจากชาวเน็ตจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อแล้วก็มองเห็นเพียงทัศนคติ “ไม่สนใจลูกค้า”  เท่านั้น ที่มากกว่านั้นคือ หลายๆ คนยังคอมเมนต์ให้คะแนนเจ้าของ 10 คะแนนเต็มสำหรับความมุ่งมั่นที่จะ “ปกป้องคนรัก” เนื่องจากความสัมพันธ์ของเจ้าของร้านและพนักงานหญิงคนนั้น

ปัจจุบันโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ยังคงอยู่ในความสนใจจากชาวเน็ต