สาวพิการสุดช้ำ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็น พนง.แบงก์ ตุ๋นเงินกว่า 3 แสน ยังย่ามใจโทรมาก่อกวนไม่หยุด ตร.เผยอายัดบัญชีแล้ว พบเป็นบัญชีม้า
เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2565 น.ส.ยภานี โจสันเทียะ หรือนิด อายุ 37 ปี หญิงพิการทางสมองและแขนขาด้านซ้ายใช้การได้ไม่ปกติ ชาว อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ มีอาชีพขายลอตเตอรี่ ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์สวมรอยเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร ทักไลน์มาหลอกว่ามีโครงการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ สามารถสมัครผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์เพียงแค่กดยืนยันก็จะมีเงินโอนเข้าบัญชี
น.ส.ยภานี หลงเชื่อกดยืนยัน แต่กลับส่งข้อความมาว่า ทำผิดเงื่อนไขต้องโอนเงินค่าดำเนินการแก้ไขเปลี่ยนเอกสาร จึงโอนเงินค่าดำเนินการไปให้ 3 ครั้ง รวมเป็นเงินกว่า 3 แสนบาท ก่อนพบว่าถูกหลอกลวง จึงนำเอกสารหลักฐานเข้าร้องขอความช่วยเหลือที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์
พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.สุวิจักขณ์ จันทร์เยี่ยม รอง ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เป็นตัวแทนมารับเรื่อง และโทรสอบถามไปยังพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง ที่รับแจ้งความร้องทุกข์ไว้
พนักงานสอบสวนแจ้งว่าได้ทำการประสานอายัดบัญชีปลายทางที่ผู้เสียหายโอนเงินไปแล้ว ยู่ระหว่างตรวจสอบว่าเจ้าของบัญชีเป็นบุคคลที่ทำการหลอกลวงเอง หรือเป็นบัญชีม้า นอกจากนี ยังได้รวบรวมหลักฐานเพื่อขยายผลติดตามจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีด้วย เชื่อว่าน่าจะทำเป็นขบวนการ
าสุดหลังจากสาวพิการผู้เสียหายมาแจ้งความ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ยังย่ามใจทั้งโทรและส่งข้อความมาก่อกวนผู้เสียหายให้โอนเงินไปให้อีกจะได้เงินที่กู้และเงินที่โอนไปก่อนหน้านี้คืนด้วย แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่ออีก
น.ส.ยภานี กล่าวว่า ที่มายื่นร้องขอความช่วยเหลือที่ บก.ภ.จว.บุรีรัมย์ เพราะอยากให้เร่งติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มาดำเนินคดีและนำเงินมาคืนด้วย เพราะเงินที่หลอกให้โอนไปเป็นเงินจากการขายลอตเตอรี่เก็บสะสมไว้สร้างบ้าน เพราะบ้านที่อยู่ปัจจุบันชำรุดผุพังแล้
น.ส.ยภานี กล่าวต่อว่า ส่วนที่หลงเชื่อแก๊งมิจฉาชีพเพราะคิดว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร เสนอเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำให้ไม่คิดว่าจะถูกหลอก ตอนนี้เดือดร้อนมาก อยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือ หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ได้ประสานอายัดบัญชีแล้วก็รู้สึกดีใจและหวังว่าจะได้เงินคืน
ขณะที่นางณรากร จันทร์สา พี่สาวของ น.ส.ยภานี กล่าวว่า สงสารน้องสาวเพราะนอกจากสภาพร่างกายจะไม่ปกติแล้ว ยังมาถูกแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงซ้ำเติมอีก ทำให้สูญเสียเงินมากกว่า 3 แสนบาท อยากฝากถึงคนร้ายว่าทำกับคนพิการ สักวันคงได้รับกรรมที่ทำไว้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามแก๊งมิจฉาชีพดังกล่าวมาดำเนินคดี และนำเงินมาคืนให้น้องสาวด้วย เพื่อจะได้ไม่ไปก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนให้กับคนอื่นอีก